ศูนย์เช่าฯ เข้ายุคต้นทุนกระฉูด'โชว์ไทม์' ลดคอร์ส -หารายได้


ผู้จัดการรายสัปดาห์(13 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ศูนย์เช่า DVD/VCD เป็นธุรกิจที่ได้รับการจับตาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจไม่ว่าค่าลิขสิทธิ์หนังที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ความรวดเร็วของเทคโนโลยี เครื่องเล่นที่มีราคาถูกลง รวมถึงแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลในเชิงลบต่อธุรกิจทั้งนั้น

แต่อีกมุมหนึ่งก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าความบันเทิง เอนเตอร์เทนเม้นท์ยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

ที่ผ่านมาจะเห็นภาพการปรับตัวของศูนย์เช่าฯ ทั้งดำเนินการเองและรูปแบบแฟรนไชส์ ได้นำเสนอบริการที่ครบวงจรจับมือพันธมิตรเสนอสินค้าต่างๆ เข้ามาวางจำหน่าย เช่น กาแฟ หนังสือ รวมถึงการปรับขนาดการลงทุนเพื่อลดต้นทุนการบริหารพื้นที่ลง โดยขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท

กับ "ศูนย์เช่าโชว์ไทม์" นับเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่ชูนโยบายยึดหลักความยืดหยุ่นในการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ ด้วยฐานธุรกิจหลักคือผู้ได้รับลิขสิทธิ์หนังต่างประเทศรายใหญ่ และแฟรนไชส์เป็นช่องทางการขายอีกช่องทางหนึ่งเริ่มขึ้นในรูปแบบแฟรนไชส์เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา

แต่ปัจจุบันการแข่งขันธุรกิจศูนย์เช่าที่สูงและปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยตรง ภายใต้การบริการงานของ พรชัย อนันต์ณัฐศิริ” กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายแฟรนไชส์ บริษัท ซีวีดี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการแฟรนไชส์โชว์ไทม์ (SHOWTIME) จึงยึดหลักแนวคิดที่ว่า

“หัวใจ การทำธุรกิจคือต้นทุน (cost) ลดได้มากเท่าไหร่ นั่นคือกำไร แต่ธุรกิจก็ต้องปรับตัวให้ทันก่อน และจับกลุ่มลูกค้าให้ถูก เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน”

จึงเป็นที่มาของการแปลงแนวคิดดังกล่าวสู่กลยุทธ์การบริหารโชว์ไทม์ในปี 2549

ลดคอร์สอุ้มแฟรนไชซี

พรชัย กล่าวกับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ว่า ได้ยึดหลักการบริหารที่ให้แฟรนไชส์สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้ ต้นทุนหรือคอร์สเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งธุรกิจศูนย์เช่าคอร์สหลักคือซื้อหนังแผ่นที่มากถึง 60% และค่าลิขสิทธิ์หนังนั้นได้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องล่าสุดเพิ่มอีก 10% ซึ่งเป็นคอร์สที่ไม่สามารถควบคุมได้

โดยแนวทางในปี 2549 นี้ บริษัท จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อขายหนังแผ่นเป็น 2 แพคเกจคือหนังจีนชุดและหนังฝรั่ง จากที่ผ่านมาแฟรนไชส์ต้องซื้อในสัดส่วนที่บริษัทกำหนด

ซึ่งการเสนอขายเป็นแพคเกจ แฟรนไชซีจะสามารถเลือกซื้อแพคเกจใดแพคเกจหนึ่งก็ได้ หรือเลือกซื้อเฉพาะหนังที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้น ทั้งนี้เพื่อช่วยลดคอร์สในการสต๊อกสินค้า โดยข่าวสารจาก sales kit ที่แจกให้กับเจ้าของศูนย์นั้น จะบอกกล่าวถึงกระแสหนังที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศและบริษัทกำลังนำเข้า ข้อมูลดังกล่าวเสนอก่อนสินค้ามาจริงนานถึง 3 เดือน ทำให้สามารถวางแผนการซื้อหนังได้ล่วงหน้าในแต่ละเดือน

นอกจากนี้ CVD Guide สำหรับแจกลูกค้าทั่วไปนั้น จะแนะนำหนังและข้อมูลศูนย์เช่า รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อสื่อถึงลูกค้าโดยตรง ซึ่งหนังใหม่จะออกทุกวันอังคารและพฤหัส วันศุกร์ให้บริการเช่า

พรชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ด้วยนวัตรกรรมเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น เครื่องเล่นดีวีดี ซีวีดี ซึ่งมีราคาไม่กี่พันบาท รวมถึงราคาแผ่นที่ถูกลง เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระทบต่อธุรกิจ ทางโชว์ไทม์จึงสนับสนุนการสร้างรายได้เสริมให้กับร้านค้าเดิมที่เปิดดำเนินการไปแล้ว โดยสามารถนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายภายในร้านหรือร่วมกับแฟรนไชส์รายอื่นเพื่อขายสินค้าที่ไปได้กับธุรกิจหนัก เช่น หนังสือ กาแฟ รับจัดดอกไม้ เป็นต้น

"คาดว่าภายใน 3 ปีนี้ เทคโนโลยีจะพัฒนาไปอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการโหลดดูหนังจากอินเทอร์เน็ต เราจึงพยายามสร้าง การปรับตัวให้ธุรกิจอยู่ได้ เสนอสินค้า บริการที่ครบวงจร สร้างเป็นชุมชน เพื่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจอยู่ได้"

“เพราะฐานลูกค้าที่เดินเข้าร้านไม่ต่ำกว่า 500 คน ถ้าสามารถใช้ฐานลูกค้าต่อเนื่องได้ครบวงจรหรือสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่มาเกี่ยวเนื่องได้ นั้นก็เป็นประโยชน์

ดังนั้นธุรกิจเรามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง ถ้าผู้ประกอบการเราปรับตัวไม่ทัน ไม่ทันยุคทันสมัยอาจมีปัญหาได้"

นอกจากนี้เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จากการปรับรูปแบบการซื้อหนังแผ่นเป็นแพคเกจที่สามารถเลือกได้นั้น จะส่งผลให้การเช่าหนังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรู้ว่าลูกค้าในละแวกที่ตั้งอยู่นิยมชอบหนังประเภทไหน รวมถึงการประชาสัมพันธ์หนังซีรีย์หรือหนังชุดเพื่อเกิดการเช่าอย่างต่อเนื่อง

"อยู่ที่ว่าเราจะเจาะลูกค้าได้อีกไหม เพราะลูกค้ามี 2 กลุ่ม 1. แฟนพันธุ์แท้ดูหนังประจำ ถ้าบริการดี มีหนังครบ ก็จะมาเป็นลูกค้าประจำ เช่น หนังจีนชุด 2.กลุ่มโฉบเฉี่ยวดูแต่หนังกระแสไม่ใช่ลูกค้าที่เราจะจับได้ถาวร ฉะนั้นกลุ่มแรกเป็นลูกค้าถาวรของเราต้องเจาะให้ได้"

บริษัทยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ก่อนที่เทศกาลการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นกลางปีนี้ ทั้งนี้มองว่าในช่วงดังกล่าวยอดการเช่าจะลดลง จึงกระตุ้นตลาดด้วยการออกคูปองมูลค่า 100 บาท สามารถเช่าได้ 10 เรื่องหรือราคาเพียงเรื่องละ 10 บาทเท่านั้น ซึ่งจะเริ่มขายคูปองในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ชู 'สินค้าดี บริการเยี่ยม'

พรชัย กล่าวว่า ปัจจุบันโชว์ไทม์มี 54 สาขา ในปี 2549 จะขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มอีก 5-6 แห่ง โดยทำเลหลักยังเน้นแหล่งชุมชนเป็นหลักในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะเห็นว่าตัวเลขการขยายไม่หวือหวามากนักเพราะนโยบายของโชว์ไทม์นั้นเจ้าของต้องเข้ามีส่วนร่วมในการบริหารธุรกิจด้วย ซึ่งแตกต่างจากรายอื่นๆ ที่เน้นระบบเป็นตัวบริหาร

“นโยบายเราเป็นที่ปรึกษา ทำแล้วให้อยู่รอด อย่างบางทำเลดูแล้วไม่ดีก็ไม่ให้เปิด เพราะลูกค้าก็มีหยิบมือเดียวไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้เราสร้างความมั่นใจให้กับแฟรนไชส์รับมือกับความรวดเร็วของเทคโนโลยี อย่างแรกคือเราให้ความรู้กับผู้เข้ามาลงทุน ถ้ามีเงินมาอย่างเดียวเราไม่เอา เพราะอนาคตเกิดอะไรขึ้นยังมีความรู้ในการประกอบอาชีพ”

ทั้งนี้เชื่อว่าศูนย์เช่าถ้ามีมาตรฐานและมีฐานลูกค้า จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ขณะที่รายที่ต้องยกเลิกกิจการไปเพราะขาดมาตรฐานและระบบที่ดี สิ่งสำคัญคือขาดการบริหารที่คล่องตัว จุดนี้สำคัญเพราะเจ้าของคือผู้ตัดสินใจ โดยเฉพาะภายใต้การแข่งขันสูง ยังเชื่อว่าการยืดหยุ่นและการตลาดในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันนั้นสามารถแข่งขันในธุรกิจได้

แนวทางดังกล่าวจึงเป็นจุดแข็งของโชว์ไทม์ จะพบว่าแฟรนไชซีส่วนใหญ่จะดำเนินการเองหรือให้ญาติเข้ามาดูแลมากกว่าการดำเนินโดยจ้างพนักงานและใช้ระบบควบคุม เพราะสามารถวางแผนการตลาดเข้าใจความต้องการสินค้าของลูกค้าได้ดีกว่า บางทำเลกลยุทธ์การตลาดก็แตกต่างกัน โดยบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาสนับสนุนฉะนั้นเงื่อนจะน้อยมากให้อิสระกับการดำเนินธุรกิจ

พรชัย กล่าวว่า ศูนย์เช่าฯ ยังเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนแต่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งเทคโนโลยี ต้นทุนที่ไม่สามารถควบคุมได้คือค่าสิทธิ์ที่เป็นต้นทุนหลัก ทำอย่างไรรายได้จะเข้ามาทั้งการเสริมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยใช้ฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ ดังนั้นธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง ถ้าผู้ประกอบการปรับตัวไม่ทัน ไม่ทันยุคทันสมัยอาจมีปัญหาได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.