นกแอร์รับช่วงเส้นทางเจ้าจำปีหวั่นบินไทยเปิดเอื้องหลวงแข่ง


ผู้จัดการรายวัน(9 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

นกแอร์ ร่วมโค้ดแชร์การบินไทย ประเดิมเส้นทาง กรุงเทพเชียงใหม่ หวังเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการผู้โดยสาร เผยเป็นโครงการนำร่องก่อน ขยายเป็นเส้นทางอื่นๆ “พาที” ยอมรับ เป็นการเริ่มเดินตามรอยนโยบายแบ่งเส้นทาง โดยการบินไทยต้องดำเนินธุรกิจที่มีกำไรเท่านั้น หากเส้นทางบินไหนไม่คุ้มส่งนกแอร์เสียบแทน ด้านผลประกอบการปี 48 กำไร 80 ล้าน ประกาศกลางปีนี้ถึงจุดคุ้มทุน พร้อมวางเป้าเติบโต 20%

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับการบินไทย เพื่อให้บริการเที่ยวบินร่วม(โค้ดแชร์)ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยผู้โดยสารของนกแอร์จะสามารถใช้บริการที่นั่งของสายการบินไทยได้ 10 ที่ ต่อไฟล์ท ในเส้นทางดังกล่าว โดย การบินไทยจะบินอยู่ 10 ไฟล์ทต่อวัน ขณะที่นกแอร์บิน 4 ไฟล์ทต่อวัน ดังนั้นเมื่อร่วมมือกันตรงนี้ จะทำให้นกแอร์ สามารถให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางนี้ได้ถึง 14 ไฟล์ทต่อวัน ถือเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของนกแอร์ และจะถือเป็นเส้นทางนำร่อง โดยใช้เวลา 3 เดือนเพื่อประเมินผลลัพธ์ ก่อนขยายไปในเส้นทางอื่นๆในประเทศไทย ที่การบินไทยและนกแอร์มีเส้นทางบิน

“ยอมรับว่า นี่คือแนวทางหนึ่งของนโยบายระหว่างการบินไทยกับนกแอร์ที่จะทำร่วมกัน โดยการบินไทยเป็นบริษัท มหาชน ซึ่งจะต้องทำธุรกิจให้มีผลกำไร ส่วนนกแอร์ มีความคล่องตัวสูง และมีการบริหารจัดการที่คุมต้นทุนได้ดี ดังนั้นหากเส้นทางไหนที่แข่งขันสูง หรือการบินไทยขาดทุน ก็เป็นไปได้ที่นกแอร์จะเข้าไปบินแทน เพราะในส่วนของบริการลูกค้าเรามั่นใจว่าลูกค้ามีความพอใจ วันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงานตามแผน ส่วนในเส้นทาง เชียงใหม่ –แม่ฮ่องสอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อสรุปคาดว่าจะเสร็จเร็วๆนี้ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่านกแอร์จะบินในเส้นทางนี้หรือไม่”

ปี 48’กำไร80ล้านบาท

ทั้งนี้ผลประกอบการปี 2548 บริษัทมีกำไร 80 ล้านบาท มีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ย 86% โดยนกแอร์ขนส่งผู้โดยสารทั้งปีรวม กว่า 2 ล้านคน สำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% และมีผลกำไรเติบโต 20% โดยอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยทั้งปีไม่น่าจะน้อยกว่า 80% และน่าจะขนส่งผู้โดยสารได้ทั้งปีถึง 6 ล้านคน ทั้งนี้เพราะปีนี้นกแอร์จะเพิ่มเครื่องบินเป็น 7 ลำ จากปีก่อนที่มี 4 ลำ และมั่นใจว่าภายในกลางปีนี้บริษัทจะถึงจุดคุ้มทุน

“ธุรกิจโลว์คอสต์ในประเทศไทยยังเติบโตได้สูง มองว่าความต้องการของผู้ใช้บริการยังมีจำนวนมาก และยังเปิดเส้นทางใหม่ได้อีกหลายเส้นทาง ซึ่งในปี 2548 ธุรกิจโลวคอสต์ของไทยเติบโต 20% โดยนกแอร์เป็นผู้นำตลาดด้วยมาร์เก็ตแชร์ที่ 39% “

เล็งเปิดเส้นทางอินเดียกลางปีนี้

สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ จะยังไม่เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในประเทศ แต่มีการศึกษาที่จะเพิ่มเส้นทางบินใหม่ เช่น เชียงราย สุราษฎร์ธานี ส่วนเส้นทางต่างประเทศ ได้ศึกษาที่จะเปิดเที่ยวบินไป มาเก๊า และอินเดีย คาดว่า กลางปีจะเปิดเส้นทางกรุงเทพ-อินเดีย ได้แน่ ส่วนมาเก๊าอยู่ระหว่างการศึกษา เพราะภายในปี 2550 มาเก๊าจะเป็นลาสเวกัสในภูมิภาคเอเชีย จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ประกอบกับมาเก๊าก็เริ่มที่จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่การบินไทยเองก็ไม่ได้บินในเส้นทางนี้

นายพาที กล่าวถึง ข่าวเรื่องการบินไทย จะเปิดสายการบินโลว์คอสต์ใหม่ ชื่อ “เอื้องหลวง” นั้น เป็นสิทธิที่ การบินไทยสามารถทำได้ เพราะการบินไทยเป็นเพียงผู้ถือหุ้นในบริษัทสายการบินนกแอร์ ในสัดส่วน 39% ซึ่งตรงนี้ ตนเองยังไม่ทราบในรายละเอียด แต่เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงแนวคิดเฉยๆ มากกว่า จึงยังไม่ขอออกความเห็นใดๆ

สายการบินนกแอร์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบัน บินจากกรุงเทพไป 6 เส้นทางหลัก คือ เชียงใหม่ อุดรธานี หาดใหญ่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และตรัง และยังได้ และ ยังมีเที่ยวบิน เชียงใหม่-อุดรธานี-เชียงใหม่ อีก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.