|

ตลท.พร้อมเปิดธุรกรรมยืมหุ้นพ.ค. เตรียมหารือบอร์ดกำหนดค่าคอมฯ
ผู้จัดการรายวัน(7 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลท.พร้อมเปิดให้ บริการ "ธุรกรรมซื้อคืนภาคเอกชน-การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์" เดือน พ.ค. นี้ คาดปี 49 เติบโตขึ้น 10% เผยหลัง ดอกเบี้ยปรับขึ้นกระทบธุรกรรมภาคเอกชนเพราะประชาชนมีทางเลือกมาก ขึ้น เตรียมประชุมบอร์ดกำหนดค่าธรรมเนียม ด้านกบข.ตอบรับให้ยืมหุ้น
นางพรรณพร ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและข้อมูล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD จะเปิดให้บริการธุรกรรมซื้อคืนภาคเอกชน (Private Repo) และธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจาก พันธบัตรรัฐบาลได้มีการนำมาฝากไว้ที่ TSD โดยขั้นตอนการดำเนินงานขณะนี้อยู่ระหว่างในการเตรียมความพร้อมในเรื่องระบบงาน
"การที่ TSD เข้ามาเป็นตัวกลาง ในการทำธุรกรรมดังกล่าว ทำให้มั่นใจ ว่าจะมีการทำธุรกรรมกันมากขึ้น เพราะ เป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องจากบริหารจัดการที่ดีให้กับผู้ที่มายืมและให้ ยืมหลักทรัพย์ รวมทั้งยังสามารถช่วย ลดต้นทุนการดำเนินธุรกรรมอีกด้วย"
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2549 จะส่งผลกระทบทำให้ธุรกรรม Repo เกิดขึ้นน้อย เนื่องจาก ผู้ให้กู้เงินมีทางเลือกในการลงทุนอย่างอื่นที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาลซึ่งจะมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าและจากการที่มีการสอบถามไป ยังบริษัทประกันก็จะมีการลดการทำธุรกรรม Repo เช่นกัน
สำหรับรายละเอียดเรื่องการกำหนดค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ SBL นั้น คณะกรรมการจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้
ส่วนในปี 49 คาดว่าธุรกรรมซื้อ คืนภาคเอกชนจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปี 48 ที่มีมูลค่า 126,742.16 ล้านบาท จากประมาณการเดิมก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้คาดการณ์อัตราการเติบโตไว้ถึง 30-40% และเชื่อว่าการทำธุรกรรมซื้อคืนภาคเอกชนจะมาใช้บริการของ TSD ประมาณ 10% ของตลาดรวมใน 2-3 ปี
นางพรรณพร กล่าวว่า ส่วนธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ ในเบื้องต้นจะมีการให้ยืมหุ้นใน SET 50 โดยขณะนี้มีกองทุนบำเน็จบำนาญ เข้าราชการ (กบข.) เป็นผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ และมีบริษัท เอไอเอ เห็นชอบในหลักการที่จะมาเป็นผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ แต่ขอในเรื่องระบบบริหารหลักทรัพย์กันของ กบข.ก่อน และจะมีการหารือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)อีก 2 แห่ง
ทั้งนี้ มั่นใจว่าธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์จะเกิดขึ้นที่ผ่านศูนย์รับฝากฯ 50% ของธุรกรรมที่เกิด ขึ้นทั้งหมดใน 2 ปี เพราะ หุ้นต่างๆก็จะมีการนำมาฝากที่ TSD อยู่แล้ว และจะทำให้การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์มีธุรกรรมมากขึ้น โดยขณะนี้มีสมาชิกที่มาฝากหุ้นไว้ที่ TSD จำนวน 90 ราย รวมถึงจะทำให้การผิดนัดในการ ส่งมอบหลักทรัพย์ลดลง ซึ่งจากสถิติ ในปี 48 มีการผิดนัดส่งมอบหลักทรัพย์ จำนวน 1,005 รายการ มูลค่า 4,621 ล้าน บาท ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,544 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% จากปี 47 ที่มีการผิดนัดส่งมอบหลักทรัพย์ จำนวน 858 รายการ มูลค่า 3,007 ล้านบาท
ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกรรม SBL ทั้งหมด 8 แห่งได้แก่ บล.เคจีไอ, บล. ทรีนีตี้, บล.ทิสโก้, บล.ไทยพาณิชย์, บล. ทีเอสเอฟซี, บล.เอเซียพลัส, บล. พัฒนสิน, บล.ภัทร และมีสถาบันการเงิน 3 แห่งได้แก่ ซิตี้แบงก์, ดอยช์แบงก์, ธนาคารแห่งอเมริกา เนชั่นแนล แอสโซซิเอชั่น ส่วนหลักทรัพย์ที่จะนำมาให้ยืมได้แก่ หุ้นที่อยู่ใน SET 50
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|