หุ้นROBINSคึกรับข่าวบวก75สต. ผู้บริหารเผยเตรียมปันผลปีหน้า


ผู้จัดการรายวัน(7 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

หุ้น ROBINS คึกรับข่าว ศาลฯยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ หลังบริษัทเดินตามแผนฟื้นฟูกิจการเสร็จ ผู้บริหารเผย เตรียมจ่ายปันผลได้ปี 50 ปีนี้ต้องล้างขาดทุนสะสมให้หมดก่อน เนื่องจากการไม่อาจนำส่วนเกินมูลค่า หุ้นมาล้างขาดทุนสะสมได้เหมือนก่อน ขณะที่โบรกฯ มองต่างมุม ASP บอก ROBINS วิ่งฉิวเกินพื้นฐานที่ 9.15 บาทขณะที่ CLSA ให้ราคาเป้าหมาย 11.80 บาท

ราคาหุ้น ROBINS วานนี้ (6 ก.พ.) บวกตั้งแต่เปิดตลาด โดยเปิดที่ราคา 8.70 บาทเพิ่มจากวันก่อน 10 สตางค์ และค่อยๆ ปรับขึ่นต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงบ่ายพบว่าแรงซื้อมีเข้ามามากขึ้น หลังจากที่บริษัทแจ้งว่าศาล มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัทแล้ว ก็ยิ่งทำให้หุ้นบวกเพิ่มไปสูงสุดที่ 10.20 บาท โดยเป็นราคาสูงสุดระหว่างวันและต่ำสุดที่ 8.65 บาท ก่อนปิดตลาดที่ราคา 9.35 บาท เพิ่มขึ้น 75 สตางค์ คิดเป็นเพิ่มขึ้น 8.72% ด้วยมูลค่าซื้อขายรวม 80.63 ล้านบาท

นายกิตติพันธ์ ศรีวรรณวิทย์ รองผู้อำนวยการกองบริหารการเงิน บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) (ROBINS) แจ้งว่าตามที่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2548 ได้รายงาน ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯถึงการที่ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ได้ยื่นคำร้อง ต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของ บริษัทฯ เนื่องจากการฟื้นฟูกิจการ ของ บริษัทฯได้ดำเนินการเป็นผลสำเร็จลุล่วงแล้ว นั้น

โดยวานนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาคำร้องดังกล่าวเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว และได้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะได้ดำเนินการ ตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้บริษัทฯมีสถานะปกติต่อไป

สำหรับ ROBINS ได้จ่ายชำระการไถ่ถอนหุ้นกู้งวดสุดท้ายของหุ้นกู้มีหลักประกันบางส่วนชนิดทยอยคืนเงินต้น (แปลงสภาพได้เมื่อมีการผิดนัด) ของบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2544 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี 2548 จำนวนรวม 1,618,741,127.22 บาท

ทั้งนี้ บริษัทได้จ่ายชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าว โดยใช้แหล่งเงินทุนภายในบริษัทส่วนหนึ่ง และเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศแห่งหนึ่ง เป็นวงเงินกู้จำนวนเงิน 950 ล้านบาทระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอัตราเงินกู้ยืมขั้นต่ำของลูกค้าชั้นดี (MLR) โดยคาดว่าแผนที่ผ่านความเห็นชอบ บริษัทจะดำเนินการยื่นข้อมูล ตามเงื่อนไขของกระทรวงพาณิชย์ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์นี้ และเตรียมประชุมคณะกรรมการบริษัท ตลอดจนการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทต่อไป

นายกิตติพันธ์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ไป ROBINS จะดำเนินงานตาม แผนงานที่บริษัทวางไว้ และเชื่อว่าปีนี้ผลงานของบริษัทจะยังเติบโตต่อไป และคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งผลงานไตรมาส 4 ของปี 48 ใกล้เคียงกับไตรมาส 3 โดยปีนี้เชื่อว่าบริษัทยังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ หลังจากที่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่ให้นำส่วนต่างมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ประมาณ 3,700 ล้านบาท เพื่อมา ล้างขาดทุนสะสมได้เหมือนก่อน ส่งผลให้ตัวเลขขาดทุนของบริษัทปีนี้ติดลบประมาณ 1,800 ล้านบาท

ดังนั้นบริษัทคงไม่สามารถจะจ่ายปันผลได้ในปีนี้ เนื่องจากต้อง ดำเนินการล้างขาดทุนสะสมให้หมดก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องพบกับภาระภาษีที่ต้องจ่าย 30% ส่งผลให้บริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดปี 48 ได้ในปี 49 หลังจาก ที่ไม่ได้จ่ายมานานกว่า 7 ปีนับจากวันที่บริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเมื่อปี 41

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวถึงราคาหุ้น ROBINS ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นว่า เกิดจากประเด็นที่ในวันนี้ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาคำร้องให้ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เนื่องจากการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ได้ดำเนิน การเป็นผลสำเร็จลุล่วงแล้วทำให้ตลาดฯตอบรับกับข่าวดีดังกล่าวว่า ROBINS มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และจะทำให้กลับมากู้เงินได้ตามปกติ
"ผลดีก็คือหลังจากที่ ROBINS ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้วจะทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ ซึ่งก็ต้องมีการลดพาร์เพื่อล้าง ขาดทุนสะสม ดังนั้น กว่าจะสามารถจ่ายได้เลยประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 49 จากผลการดำเนินงานปี 48"นักวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนที่มีหุ้น ROBINS อยู่ในพอร์ต แนะนำถือเพื่อรอให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วหาจังหวะขาย ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้น ไม่แนะนำเข้าซื้อ เนื่องจากราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 9.15 บาท ที่ค่า P/E ในระดับ 12 เท่า

ในขณะที่บทวิเคราะห์การลงทุนหลักทรัพย์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยบล.ซีแอลเอสเอ (CLSA) ประเมินราคาเหมาะสมของ ROBINS อยู่ที่ 11.80 บาท จากปัจจัยด้านการขยายตัวของการจ้างงานและอัตราค่าจ้างแรงงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้แก่ CPN และ ROBINS จะได้รับประโยชน์ แต่ CPN ที่ซื้อขายที่ PE 16.6 เท่านับว่าได้รับปัจจัยบวกเหล่านี้ไปแล้ว ขณะที่ROBINS ซื้อขายที่ PE 9.7 เท่า ประกอบกับบริษัทมีนโยบายเชิงรุกในการขยายสาขาโรบินสันดีพาร์ตเมนต์โตร์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.