|
น้ำผลไม้ทุ่มงบรวม220ล.แย่งแชร์ มาลีปั้น"พลัส"ร่วมรบเซกเมนต์40%
ผู้จัดการรายวัน(3 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
มาลีระบุ สมรภูมิน้ำผลไม้แข่งเดือด ผู้ประกอบการเฮโลอัดฉีดงบรวม 220 ล้านบาท รับตลาดน้ำผลไม้ 100% โต 20% ล่าสุดส่งซับแบรนด์ ใหม่ "มาลี พลัส" ลงตลาด 40% นำ ร่อง 2 สูตร ผสมคอลลาเจนผสม สารสกัดเมล็ดองุ่น ชูฟังก์ชันนัลเลี่ยงปะทะชาเขียว และน้ำอัดลม สิ้นปีคาดแชร์น้ำผลไม้ 40% เพิ่ม 17%
นางสาวบุศรา มาโกมล ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ตรามาลี เปิดเผยว่า จากกระแสสุขภาพที่มา แรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 4,000 ล้านบาทปีนี้ แบ่งเป็นตลาดน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 20% ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 25% เติบโต 15% เนื่องจากมีกลุ่ม ผู้ดื่มหน้าใหม่เริ่มหันมาทดลองดื่ม ทำให้ปีนี้ผู้ประกอบการตั้งแต่ ค่ายน้ำผลไม้ 5% กระทั่งผู้เล่นน้ำผลไม้ 100% อัดงบการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 220 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมาราว 200 ล้านบาท
"เพื่อรองรับการแข่งขันตลาด น้ำผลไม้ 100% ในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวน้ำผลไม้ 100% เพิ่มเติม โดยจะเป็นสินค้าที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาใหม่ ในลักษณะของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า หรือมีจุดขาย ฟังก์ชันนัลที่เพิ่มขึ้นไปอีก"
ขณะที่สภาพตลาดน้ำผลไม้ 40% มูลค่า 500 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีอัตราการเติบโตมาโดยตลอด เนื่องจากจุดขายของน้ำผลไม้ 40% คือ ด้านความสดชื่น ซึ่งเป็นจุดขายเดียวกับกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวและชาดำพร้อมดื่ม หรือกระทั่งน้ำอัดลม ฯลฯ ได้เข้ามาแย่งตลาดผู้ดื่มน้ำผลไม้ 40%ไป ดังนั้น เพื่อหนีตลาด ที่มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก ปีนี้บริษัท จึงได้พัฒนาสินค้าใหม่ ที่เน้นจุดขายในเรื่องของฟังก์ชันนัลเข้ามาแทนที่จุดขายด้านความสดชื่น
ล่าสุดเปิดตัวซับแบรนด์น้ำผลไม้ใหม่ ภายใต้แบรนด์ "มาลี พลัส" 2 รสชาติ ได้แก่ น้ำส้มผสมน้ำมะเขือเทศและคอลลาเจนและน้ำองุ่นผสมน้ำบลูเบอรี่และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ขนาดบรรจุภัณฑ์ 200 มล. โดยเน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นที่รักสุขภาพและความงามเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่นิยมดื่มน้ำผลไม้ 40% อีกทั้งยังเป็นการปูทางกลุ่มเป้าหมายให้มีความภักดีต่อตราสินค้าสู่การดื่มน้ำผลไม้ 100% ของมาลีในอนาคต
"มาลี พลัสเราได้สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า โดยนำสารคอลลาเจน และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เพื่อให้น้ำผลไม้ 40% มีจุดขายมากกว่าความสดชื่น ซึ่งแนวโน้มในอนาคตจะมีผู้เล่นในตลาดที่ลงสู่ตลาดนี้อีกมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทเปิดตัวมาลี พลัส คาดว่า จะผลักดันให้ตลาดน้ำผลไม้ 40% มีอัตราการเติบโต 4-5% ในปีนี้"
ทั้งนี้ มาลี พลัส จะจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งเดียว ภายใต้ลักษณะสินค้า เอฟบีโอ เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปซื้อของในเซเว่น อีเลฟเว่นชอบความแปลกใหม่ และไม่ได้คำนึงปัจจัยราคาเป็นหลัก เมื่อเทียบราคามาลี พลัส 15 บาท ใกล้เคียงกับน้ำผลไม้ 100% ราคา 18 บาท ส่วนน้ำผลไม้ 40% ยี่ห้ออื่นราคา 10 บาท
สำหรับผลประกอบการกลุ่มน้ำผลไม้ปีนี้ ตั้งเป้าเติบโต 40% โดยแบ่งเป็นกลุ่มรายได้ น้ำผลไม้ 100% ราว 85-90% และอีก 10-15% เป็นน้ำผลไม้ 40% ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่า กลุ่มน้ำผลไม้ 40% จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 15-17% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 12-13% จากมาลีทีน และมาลีทรอปิคัล โดยส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นมาจาก มาลี พลัส 3-5% ขณะที่ผู้นำตลาดน้ำผลไม้ 40% เป็น ยูนิฟครองส่วนแบ่ง 36-37% ทิปโกคูล 31- 32%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|