"ดร. กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน LEARNING BY DOING"


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

ความคลี่คลายของเหตุการณ์มักจะทำให้มนุษย์แสดงภูมิปัญญาได้ในแบบฉลาดเท่า ๆ กัน แต่ก่อนเกิดเหตุการณ์มนุษย์ก็มักจะมืดแปดด้านไปหมด เรื่องเช่นนี้เป็นจริง ไม่ว่าจะในกรณีเงินบาทลอยตัว และอินเตอร์เน็ต

ในกรณีอินเตอร์เน็ต สังคมไทยมักจะได้ยินคำพูดในทำนองค่าบริการแพง แต่พอถามว่า แพงอย่างไร? น้อยคนนักที่จะตอบได้ เดือดร้อนถึงสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ต้องตั้งคณะวิจัยกันอย่างจริงจัง

การเปรียบเทียบค่าบริการอินเตอร์เน็ตว่า ถูกหรือแพง ไม่ง่ายเหมือนเปรียบเทียบค่าแท็กซี่แน่ ๆ แต่ระยะหลัง ดร. กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ และเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตได้อย่างน่าสนใจ

อย่างน้อยเธอก็พูดด้วยน้ำใสใจจริงมิใช่หรือ?

วงการไอทีมีผู้หญิงเก่งอยู่ไม่น้อย ดร. กนกวรรณก็เป็นคนหนึ่งที่ทั้งเก่งและทั้งสวยทีเดียว

สองปีกว่ามาแล้วที่เธออยู่ในฐานะผู้บริหารของบริษัท เคเอสซี คอมเมอร์เชี่ยล อินเตอร์เน็ต จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) ชั้นแนวหน้า ในชื่อบริการว่า "เคเอสซี คอมเน็ต" มีผู้ร่วมผลักดันงานคือ ศาสตราจารย์ ดร. ศรีศักดิ์ จามรมาน รั้งตำแหน่งประธานกรรมการ

แต่แรก ดร. กนกวรรณ ค่อนข้างจะถูกมองว่าเป็นพระอันดับแบบสวย ๆ งาม ๆ มี ดร. ศรีศักดิ์คอยฝึกปรือประคับประคองอยู่เคียงข้าง แต่เดี๋ยวนี้สายตาที่ทอดไปยังเธอเปลี่ยนไปในเชิงยอมรับ

ผู้บริหารวัยสามสิบกว่า ๆ ท่านนี้มีฝีมือและฝีปากคมคายขึ้นทุกวัน เนื่องจากการเป็นไอเอสพีมิใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด แต่ละปัญหามิใช่จะแก้ง่าย ๆ เช่น ปัญหาค่าเช่าวงจรแพงก็ต้องคุยกับการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนประเภทหุ้นลม ปัญหาสายโทรศัพท์ใช้ได้ไม่เต็มศักยภาพ หรือใช้ได้เพียง 25% ของจำนวนหมายเลขที่ทำสัญญาเช่าก็ต้องคุยกับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) สองหน่วยงานนี้ออกจะยิ่งใหญ่คับฟ้า ยากที่ใครจะแตะต้องได้

ปัญหาคุณภาพบริการ ผู้ใช้ก็โยนบาปให้กับไอเอสพีเพราะไม่เข้าใจเนื้อแท้ของปัญหาว่า เกิดจากหน่วยราชการที่ประพฤติเยี่ยงเจ้าใหญ่นายโต ในภาวะเช่นนี้ ทางเลือกของ ดร. กนกวรรณ คือ ถ้าไม่คิดเป็นหญิงแกร่ง ก็ต้องกลายเป็น "หญิงกรอบ" นั่นเอง

ดูเหมือนเธอจะเลือกอย่างแรก "ผู้ที่ทำอินเตอร์เน็ตขาดทุนกันทุกราย แต่คนก็มักจะตั้งคำถามว่า ขาดทุนแล้วทำไมถึงทำล่ะ ดิฉันก็ขอตอบว่า ที่เราทำก็เพราะยังมีความหวังว่าระบบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มันจะดีขึ้น คราวนี้ถ้าถามว่าขาดทุนแล้วยังอยู่ได้อย่างไร ก็คงต้องตอบว่า อาศัยสายป่านยาว" ดร. กนกวรรณกล่าว

ในความเข้าใจของเธอ ไอเอสพีทั้งสิบสองราย ต่างเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยการ "learning By Doing" มิใช่รู้ตื้นลึกหนาบางไปเสียทุกเรื่อง เพียงแค่เห็นว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มน่าสนใจ ก็โดดเข้ามาทำ เข้าทำนองจะตกรถไฟขบวนนี้ไม่ได้ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งพบปัญหา

ดร. กนกวรรณไม่เห็นด้วยที่จะนำบริการอินเตอร์เน็ตไปเปรียบเทียบกับ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการเพจเจอร์ เพราะถือว่า อินเตอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญสูงสุด ก่อให้เกิดธุรกิจตามมาอีกมากมาย นอกจากนี้เธอยังเน้นเป็นพิเศษว่า "โทรศัพท์และเพจเจอร์ถือได้ว่า เป็นธุรกิจที่ได้สัมปทานจึงมีมาร์จินที่จะเอาไปจ่ายแก่หน่วยงานของรัฐได้ในขณะที่อินเตอร์เน็ตนั้นเข้าข่ายเปิดเสรีไปแล้ว มีการแข่งขันสูง จึงยากที่จะมีผลกำไรไปจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐ"

เดิมทีดูเหมือน กสท. หวังคุมกำเนิดอินเตอร์เน็ต โดยจะให้มีไอเอสพีแค่ 2-3 รายและเคเอสซี ก็หลงเชื่อ แต่แล้ว กสท. ก็ทานกระแสคัดค้านไม่ไหว อนุมัติให้มีไอเอสพีไปแล้วถึง 12 ราย เคเอสซีจึงพบการแข่งขันหนักหน่วงถึงขั้นตัดราคา

ดร. กนกวรรณจึงดูจะเงียบต่อไปไม่ได้แล้ว จึงกล้าแสดงความเห็นสวนทาง กสท. โดยไม่คร้ามเกรง ก็ใช่ว่า กสท. จะพอใจหรอกเพราะท่าทีเช่นนี้เป็นการสะท้อนความขัดแย้งระหว่างไอเอสพีกับ กสท. หลังจากถ้อยทีถ้อยอาศัยในแบบไอเอสพีต้องอัดอั้นมาโดยตลอด

เมื่อไม่นานมานี้ ดร. พานิช เหล่าศิริรัตน์นักวิชาการแห่งสำนักเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ (NTC) ก็เคยวิจารณ์ กสท. ในงานสัมมนาครั้งหนึ่งว่า "ถ้าอยากให้การบริการอินเตอร์เน็ตมีคุณภาพก็ต้องเลิกการผูกขาดของ กสท." ทำให้ผู้บริหารบางระดับของ กสท. ไม่พอใจมาก

"เขาคงไม่รู้สินะว่าในการสัมมนาวันนั้น ก็มีคนของ กสท. เข้าไปฟังอยู่ด้วย เขาวิจารณ์ กสท. อย่างไม่มีเหตุผล ต่างก็เป็นหน่วยงานราชการด้วยกันแล้วมาด่ากันทำไม" แหล่งข่าวใน กสท. กล่าวกับ "ผู้จัดการรายเดือน"

ปัญหาเฉพาะหน้าของ ดร. กนกวรรณในเวลานี้ ก็คงจะเป็นเรื่องพิษเงินบาทลอยตัว ส่งผลกระทบไอเอสพีและวงการไอทีหนักหน่วง เพราะย่อมทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและยูสเซอร์ก็คงชะลอการใช้บริการ

อย่าว่าแต่เป็นสมาชิกอินเตอร์เน็ตเลย เอาแค่จะซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่มาทำฉุยฉาย ก็คงต้องชะลอการซื้อออกไปก่อน แนวโน้มรายได้ของไอเอสพีในปีนี้จะลดลง และแอพพลิเคชั่นด้านบริการที่ไม่สำคัญ ก็ย่อมจะถูกตัดไป

นี่เป็นเรื่องที่ ดร. กนกวรรณพอทำใจได้ เพราะเป็นวงจรขึ้นลงของเศรษฐกิจ อีกทั้งในระยะที่ผ่านมา ก็มีเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขใจจนพอจะหักลบกันได้คือ การได้รับดุษฎีบัณฑิตด้านอินเตอร์เน็ต เป็นคนแรกของประเทศไทย โดยที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) จัดพิธีประสาทปริญญาให้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วิทยานิพนธ์ชิ้นสำคัญของ ดร. กนกวรรณ คือ "รหัสลับอินเตอร์เน็ต" มีศาสตราจารย์ ดร. ศรีศักดิ์ จามรมานเป็นที่ปรึกษา ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในเอกสารการประชุมประจำปีครั้งที่ 13 ของสมาคมนานาชาติด้านการจัดการ ซึ่งจัดประชุมที่ประเทศแคนาดา นอกจากนี้ยังได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในเอกสารการประชุมของสมาคมนานาชาติด้านการประมวลข้อมูล ซึ่งจัดประชุมที่สหรัฐอเมริกา

เปรียบเทียบกันแล้ว ปัญหาเงินบาทลอยตัวกับปัญหาจากหน่วยงานรัฐ เช่น กสท. และ ทศท. ประการหลังดูเหมือนจะทำให้เธอรู้สึก "คาใจ" มากกว่า เพราะค่าบริการที่แพง ตลอดจนสายโทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยความคับคั่งก็อาจทำให้ลูกค้าหันไปตั้งเว็บไซต์ที่ต่างประเทศ ทำให้ไอเอสพีไทยเสียโอกาสในการแข่งขัน แต่การที่จะทำให้บริการอินเตอร์เน็ตในไทยมีราคาถูกเหมือนในสหรัฐอเมริกา ดร.กนกวรรณก็เชื่อว่ามิใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ

อันที่จริงการที่จะมีคนไปใช้เว็บไซต์ที่ต่างประเทศป้องกันไม่ได้ เพราะการใช้งานของแต่ละคนต่างกัน บริษัทที่ติดต่อกับต่างประเทศจะไม่ตั้งเว็บไซต์ในไทย เหตุผลคือลูกค้าอยู่ที่อเมริกา ติดต่อไปที่นั่นจะคุ้มกว่า

"อเมริกาเป็นศูนย์รวมของอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องเสียค่า leased line (สายเช่า) มาถึงไทย ค่าบริการจึงถูกกว่า ทำอย่างไรเมืองไทยก็มีค่าบริการถูกกว่าไม่ได้แน่ แต่ถ้าเมืองไทยเป็นศูนย์กลางของอินเตอร์เน็ต อเมริกาต้องต่อเข้ามาที่ไทยบ้าง ถ้าราคายังไม่ลด อันนี้มาว่ากันได้เลย"

ยามว่างจากงานบริหาร ดร. กนกวรรณก็จะหย่อนใจอยู่กับการจัดดอกไม้ จนสิ่งนี้กลายเป็นนิสัยประจำตัวไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้การสะสมแจกันจึงเป็นงานอดิเรกที่เกิดขึ้นอย่างสอดคล้องกัน

วันนี้ ดร. กนกวรรณสามารถพูดคุยถึงเรื่องเหล่านี้ได้อย่างอ่อนโยนและมีสีสันต่างจากการพูดถึงอินเตอร์เน็ตในลีลาเร้าใจมากขึ้นทุกที



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.