|

ทรูไม่สนทุนต่างชาติขอยืนหยัดบนลำแข้ง
ผู้จัดการรายวัน(2 กุมภาพันธ์ 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ศุภชัย วางเป้ากลุ่มทรูขึ้น แท่นผู้นำโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ ไม่สนการ เข้ามาของเทมาเส็กและเทเลนอร์ พร้อมรับมือแข่งขัน อาศัยกระแสเงินสดเงินทุนใน ตลาดไทยก็เพียงพอ วางเป้ารายได้ปีนี้หลังรวมยูบีซีไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2549 ว่า ภาพรวมของกลุ่มทรูใน ปีนี้จะมุ่งเน้นการผสมผสานบริการทั้งในส่วน ของบริการผ่านโทรศัพท์บ้าน อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ ให้สอดรับกับพฤติกรรมการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ในทุกๆ กลุ่ม ทั้งผู้ใช้ ตามบ้าน องค์กร ธุรกิจ โดยในสิ้นปี 2549 ทรู ตั้งเป้าส่วนแบ่ง ตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ใน กทม. และปริมณฑล มีลูกค้า 6 แสนราย พร้อมรักษาระดับผู้ใช้โทรศัพท์พื้นฐาน ไว้ที่ 2 ล้านราย ส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือต้องการให้มีผู้ใช้บริการจำนวน 5.7 ล้านราย หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 33%
ในส่วนของบริการที่รองรับการใช้งานด้านออนไลน์และไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับการชำระเงินและธุรกรรมออนไลน์ คาดว่าจะมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 5% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมดของกลุ่ม และคาดว่าจะมีผู้ใช้ บริการพอร์ทัลเว็บศูนย์รวมมัลติมีเดียที่มีคอนเทนต์หลากหลายรวม 1 ล้านราย รวมถึงการวางเป้าหมายให้เป็นผู้นำอันดับหนึ่งของผู้ให้บริการเครือข่ายแก่ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ รวมทั้งลูกค้าองค์กรธุรกิจ ขนาดย่อม และขนาดกลาง
"สิ้นปี 2549 กลุ่มทรูจะมีรายได้เมื่อรวมกับยูบีซีไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท ถึงแม้ว่าตลาดโทรคมนาคมเริ่มเข้าสู่ยุคการ แข่งขันเสรี หรือการมีทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น แต่สำหรับทรูนั้นเรามั่นใจว่าสามารถ สู้ได้เพราะมีเงินทุนพอหมุนเวียนได้"
สำหรับการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนนั้น ยังไม่มีแนวทางชัดเจนในเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีการเข้าไปเจรจากับเทเลคอมมาเลเซียหรือเกาหลีตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้น การหาพันธมิตรจะมาจากปัจจัยที่ทรูต้องการเงินทุนเข้ามาหมุนเวียน หรือหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเข้ามาร่วม ให้บริการ โดยเฉพาะการให้บริการใน 3จี หรือการลงทุนในส่วนของไวแมกซ์ที่กลุ่มทรู สนใจจะเปิดตลาดในต่างจังหวัด แต่ทั้งนี้ กลุ่มทรูก็มีการเปิดโอกาสให้โอเปอเรเตอร์หรือนักลงุทนที่สนใจจะดำเนินธุรกิจร่วมกัน แต่ทั้งนี้ การที่จะเข้ามานั้นจะต้องมีความชัดเจนในเรื่องของการให้สิทธิการบริหาร การแข่งขัน หรือการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี การพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกันมากกว่า
"ไม่มีความจำเป็นที่ต้องหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน แต่หากมีการลงทุนในเรื่อง ของเทคโนโลยี 3จี หรือไวแมกซ์ ก็อาจจะพิจารณา"
การเข้ามาลงทุนของกลุ่มเทมาเส็ก หรือ เทเลนอร์นั้นไม่มีผลกระทบอะไรมากนักในแง่ของการแข่งขัน ซึ่งกลุ่มทรูมีกระแสเงินสด เงินทุน อีกทั้งรายได้จากการดำเนินธุรกิจเพียงพอต่อการแข่งขัน และการลงทุน ที่เกิดขึ้น โดยในปีนี้กลุ่มทรูจะลงทุนในส่วนของทรู จำนวน 2-3 พันล้านบาท พัฒนาโครงข่ายเป็น NGN หรือ Next Generation Network ส่วนของโทรศัพท์มือถืออีกจำนวน 8 พัน ถึง 1 หมื่นล้านบาท ที่จะดำเนินการขยายโครงข่าย ให้ครอบคลุมพื้นที่ประชากร 92% ทั่วประเทศที่ในปัจจุบันมีอยู่เกือบ 90% โดยคาดว่าประมาณไตรมาสที่ 2 จะดำเนินการแล้วเสร็จ
นายศุภชัยกล่าวว่า ส่วนคณะกรรมการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ในปีนี้ คงจะเห็นบทบาทความชัดเจนในการทำงาน มากขึ้น โดยฉพาะเรื่องของการออกใบอนุญาต ที่ในปีนี้ทรูได้มีการยื่นขอให้บริการ โทรศัพท์พื้นฐานในส่วนต่างจังหวัด วงจรเกตเวย์ระหว่างประเทศ รวมถึงการให้ใบอนุญาตบริการไวแมกซ์ และ 3จี
"บทบาทของ กทช. จะเริ่มออกมาอย่างเต็มตัวมากขึ้น โดยเป็นผลมาจากการที่ต่างชาติได้เริ่มเข้ามาลงทุนแข่งขันในประเทศไทย ซึ่งหลังจากนี้กติกา หรือกฎเกณฑ์จะออกมาอย่างเป็นรูปธรรม แต่ทั้งนี้สิ่งที่ออกมาจะต้องเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทย"
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2548 รายได้ของกลุ่มทรูมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยสิ้นปีทรูมีลูกค้าบรอดแบนด์มากกว่า 3 แสนราย กลุ่มลูกค้าโทรศัพท์บ้านสามารถรักษาฐานผู้ใช้บริการไว้ที่ประมาณ 2 ล้านราย ส่วนบริการโทรศัพท์มือถือมียอดลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 4.5 ล้านราย และล่าสุดทรูได้เปิ ดศูนย์บริการลูกค้าแห่งใหม่ ภายใต้รูปแบบ การผสมผสานเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงทุกบริการและไลฟ์สไตล์ ทั้งความรู้ ข้อมูล ความบันเทิง ผ่านการสื่อสารและเทคโนโลยี บนชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดย ทรูได้ใช้เงินลงทุนเป็นจำนวน 29 ล้านบาทในการก่อสร้างและวางระบบเทคโนโลยี
นายพัฒนพล พรามนาเวช System Design Engineer บริษัท อินเทลคราฟท์ โซลูชั่น กล่าวว่า บริษัทฯเป็นผู้วางระบบเทคโนโลยีให้กับทรู ซึ่งระบบนี้ได้ออกแบบ โดยนายดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่ได้มีการวางรูปแบบการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้งาน ร่วมกับชีวิตประจำวัน ซึ่งภายในร้านจะมีการนำแสดงเทคโนโลยีจอภาพ Flip Dot ซึ่ง เป็นจอที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่ากว่า 2 ล้าน บาท ที่สามารถจับความเคลื่อนไหวของผู้ที่เดินผ่านร้านจากจอสี มีโลโก้ของทรูเป็นจุดสี เปลี่ยนเคลื่อนไหวตามทิศทางการเดินผ่านของบุคคล การให้บริการส่งเอสเอ็มเอสจาก มือถือออเร้นจ์ ขึ้นจอโปรเจกเตอร์เพื่อแสดง ความคิดเห็นหรือการสร้างบรรยากาศภายใน ร้านได้ หรือการให้บริการไร้สายอินเทอร์เน็ต รวมถึงคอมพิวเตอร์ 20 เครื่อง เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|