"เซเว่น อีเลฟเว่น คืนกำไรสังคม"


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ระหว่างการปรับตัวและตั้งหลักเพื่อความมั่นคงในอนาคต หลายบริษัทที่มีรากฐานไม่มั่นคงและไม่สามารถปรับตัวตั้งรับได้ทันก็เป็นอันล้มไปเป็นจำนวนมาก ในขณะที่บริษัทที่มีความมั่นคงก็ซวนเซไปบ้างตามสถานการณ์ ซึ่งตามหลักการตลาดสากลเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร นักการตลาดที่ดีย่อมวางแผนให้บริษัทของตนมีความพร้อมในการตั้งรับวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องมีความพร้อมที่จะรุกเมื่อสถานการณ์อำนวย ในภาวะเศรษฐกิจฟุบเช่นนี้ การที่ธุรกิจต่าง ๆ จะมีการลงทุนขยายตัวก็เป็นไปอย่างยากลำบาก หากจะไม่ทำอะไรเพื่อเป็นการคงภาพพจน์ของตนเองไว้ก็น่าเสียโอกาส

ซี.พี. เซเว่น อีเลฟเว่น ก็เป็นบริษัทหนึ่งที่มองเห็นช่องทางทางการตลาดในการที่จะสร้างชื่อร้าน เซเว่น อีเลฟเว่นให้ครองความเป็นหนึ่งในแง่ร้านค้าของประชาชน ด้วยการคืนกำไรแก่สังคม โดยริเริ่มโครงการ "ล้านคน ล้านดวงใจ ร่วมต้านภัยยาเสพย์ติด"

"ปัจจุบันร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มีประมาณ 800 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งสามารถให้บริการคนได้ประมาณ 1 ล้านคนต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นพลังมวลชนที่มหาศาล และเป็นฐานธุรกิจที่แข็งแรง หากเราจะทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เราย่อมทำได้และได้ผลตอบแทนที่สูงด้วย แต่เราไม่ทำ เพราะเซเว่นฯ เกิดจากสังคมไทย เราจึงคิดว่า เราต้องทำอะไรเพื่อตอบสนองสังคมไทย เราจึงริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา" ชรัส ลิขิตคุณวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปด้านการตลาดของบริษัท ซี.พี. เซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวถึงที่มาของโครงการล้านคน ล้านดวงใจร่วมต้านภัยยาเสพย์ติด และสำหรับชื่อของโครงการนี้เขาเล่าว่ามาจากการที่เซเว่นฯ สามารถให้บริการคนได้ถึง 1 ล้านคนต่อวันนั่นเอง

นอกจากนั้น เขายังกล่าวถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายใต้โครงการนี้ด้วยว่าเซเว่น อีเลฟเว่นมุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นการรวมพลังเพื่อส่งกำลังใจให้เยาวชนไทยในการต่อต้านยาเสพย์ติด เนื่องจากกลุ่มเยาวชนเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อภัยยาเสพย์ติดมากที่สุด และที่สำคัญลูกค้ากว่าครึ่งของเซเว่นฯ อยู่ในกลุ่มเยาวชน ดังนั้นลูกค้าของเซเว่นฯ จึงเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกันต่อต้านยาเสพย์ติด

นอกจากนั้นยังมีนักร้อง นักแสดง นักกีฬา และบุคคลสำคัญผู้เป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทยที่มาร่วมกันเซ็นชื่อลงบนเสื้อยืดของโครงการที่มีสัญลักษณ์ต่อต้านยาเสพย์ติด โดยเป็นเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นพิมพ์สัญลักษณ์ FIGHT DRUGS จากนั้นจะนำเสื้อยืดที่มีลายเซ็นกำลังใจเหล่านี้ส่งมอบให้แก่ตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันไม่ให้ยาเสพติดหลั่งไหลเข้ามาผ่านชายแดนไทย รวมทั้งส่งให้กับผู้ที่ได้รับการบำบัดรักษาเพื่อเลิกยาเสพย์ติดด้วยส่วนหนึ่ง

และผู้บริหารของเซเว่นฯ ยังเล่าเสริมถึงที่มาของกิจกรรมการเซ็นชื่อลงบนเสื้ออีกว่า เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ เยาวชนอายุประมาณ 15-19 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีการทดลองยาเสพย์ติดมากที่สุด สัญลักษณ์ที่สื่อออกมาจึงต้องสอดคล้องกับแนวคิดและจิตใจของวัยรุ่นไทย เพื่อให้เข้ากับนิสัยใจคอและวิถีการดำเนินชีวิตของพวกเขาได้ง่าย

"เดี๋ยวนี้วัยรุ่นเวลาเขาจบการศึกษาแล้ว เขาจะมีการเซ็นอำลาลงบนเสื้อนักเรียนที่เขาใส่อยู่ เราก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรที่คล้ายกันและง่ายต่อการเข้าหาพวกเขา จึงเป็นที่มาของการเซ็นชื่อบนเสื้อยืดโดยเราได้เชิญชวนบุคคลที่เป็นขวัญใจของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นดารา นักร้อง นักกีฬาชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะทีมฟุตบอลชื่อดัง เช่น เชลซี, อินเตอร์มิลาน เป็นต้น มาร่วมกันเซ็นให้กำลังใจลงบนเสื้อยืด FIGHT DRUGS จากนั้นเราก็จะนำลายเซ็นที่ได้มาพิมพ์ลงบนเสื้อ และส่งไปให้กับพวกเขา รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดนด้วย"

สำหรับแนวคิดในการออกแบบสัญลักษณ์ FIGHT DRUGS ในโครงการล้านคน ล้านดวงใจ ร่วมต้านภัยยาเสพย์ติดนั้น ชรัสในฐานะตัวแทนของเซเว่นฯ เล่าว่า สัญลักษณ์ได้ถูกออกแบบขึ้นให้จำได้ง่ายจากโจทย์ 2 ข้อใหญ่คือ ต้องมีความหมายของการปฏิเสธยาเสพย์ติด และต้องแสดงให้เห็นถึงพลังและความผูกพันของคนหมู่มากเป็นล้านๆ คนที่คอยให้กำลังใจอยู่ โดยสัญลักษณ์กากบาทและตัวหนังสือ FIGHT DRUGS เป็นการสื่อความหมายถึงการปฏิเสธและการต่อต้านยาเสพย์ติด ส่วนแขนของคนสองคนที่มาไขว้กันเป็นรูปกากบาทนั้นหมายถึง ความแข็งแกร่ง เฉียบขาด และเท่ในเวลาเดียวกันซึ่งจะสะท้อนถึงการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว และมีความมั่นใจในตัวเองสูง

ทั้งนี้สัญลักษณ์นี้จะประกอบด้วยสี 2 สีคือ สีแดง ซึ่งเป็นสีอันทรงพลังที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตและความหวัง ส่วนสีเขียว เป็นสีธรรมชาติที่ได้แก่ต้นไม้ใบหญ้า เป็นสีที่บ่งบอกถึงสิ่งแวดล้อมที่ปราศจากอันตราย แต่สีทั้งสองจะไม่ใช้สีสด แต่เป็นสีอมดำ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่นด้วย

ส่วนผลการดำเนินงานของเซเว่นฯ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ต่อสาขาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดขายในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เซเว่นฯ สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 13,500 ล้านบาท ในขณะที่ระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วทำได้เพียง 11,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ทางบริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของเซเว่นฯ แต่ละสาขาไว้ประมาณ 20% ต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งมีแผนที่จะขยายสาขาให้ครบ 880 สาขาภายในปีนี้ และเป็น 1,000 สาขาภายในปีหน้าด้วย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.