ส.โรงแรมค้านพ.ร.บ.คุมน้ำเมา หวั่นฉุดท่องเที่ยววูบอีก-ยื่นหนังสือนายกฯ


ผู้จัดการรายวัน(1 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

สมาคมโรงแรมไทย เตรียมยื่นหนังสือค้าน พ.ร.บ. ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ต่อนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อ้างเหตุกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ระบุข้อบังคับที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะไม่เกิน 200 เมตรจากสถานศึกษา และวัด กระทบ รายได้ผู้ประกอบการ ส่วนการกำหนดเวลาจำหน่ายจะทำให้นักท่องเที่ยวอึดอัด

นายประกิจ ชินอมรพงษ์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยหรือ THA เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ (บอร์ด) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้สมาคมโรงแรมไทย เตรียมดำเนินการร่างจดหมายเพื่อยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข อย่างเร่งด่วนว่าไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้ พ.ร.บ. ดังกล่าว อยู่ระหว่างการจัดทำร่าง เพื่อเตรียม ประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้

ทั้งนี้ เพราะเกรงว่าเมื่อกฎหมาย มีผลบังคับใช้จะกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจโรงแรม เนื่องจากร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวตอนหนึ่ง ในมาตรา 5 ได้ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่าย ขาย แลกเปลี่ยนหรือให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ใน 2 ช่วงเวลา กล่าวคือ เวลาอื่นนอกจาก ในระหว่างเวลา 11.00 -14.00 น. และ เวลา 17.00 - 22.00 น. ของวันอาทิตย์ ถึงวันพฤหัสบดี และเวลาอื่นนอกจากในระหว่าง 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. ของวันศุกร์และวันเสาร์ นอกจากนั้น ยังห้ามมิให้จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระยะห่างไม่เกิน 200 เมตร จากสถานที่ตั้งของโรงเรียน สถานศึกษา วัด ศาสนสถาน และศาสนพิธี

โดยที่ประชุมทีเอชเอ ได้ให้ฝ่าย กฎหมายคือนายสัมพันธ์ แป้นพัฒนะ ไปเร่งศึกษารายละเอียดก่อน ที่จะทำ จดหมาย ซึ่งที่ต้องออกมาคัดค้านตอนนี้ก็เพราะว่าหากปล่อยให้กฎหมายบังคับใช้แล้วค่อยมาแก้ไขจะไม่ทันการณ์ โดยจดหมายที่จะยื่น กับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะชี้แจงรายละเอียดของเหตุผลและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่นิยมดื่มไวน์ในมื้ออาหาร และยังมีสังสรรค์กันต่อ หากจำกัดเวลาจำหน่ายจะทำให้นักท่องเที่ยวอาจไม่สะดวกหรือไม่พอใจได้เพราะไม่ตรงกับเวลาที่เขาต้องการ

นอกจากนั้นจะเห็นว่าโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวหรือหัวเมืองใหญ่ ที่เห็นได้ชัดคือที่จังหวัดเชียงใหม่ที่โรงแรมจะอยู่ติดกับวัดเป็นส่วนใหญ่ เพราะพื้นที่คือเมืองเก่าสมัยโบราณที่สร้างวัดไว้จำนวนมาก แต่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว ก็มีการปลูกสร้างโรงแรมที่พัก ดังนั้นหาก พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ก็เท่ากับ ว่า โรงแรมกลุ่มนี้จะไม่สามารถจำหน่าย เครื่อง ดื่มแอลกอฮอล์ได้เลยไม่ว่าเวลาใด ทำให้ผู้ประกอบการขาดรายได้ เพราะรายได้โรงแรมจากส่วนที่เป็นอาหารและเครื่องดื่มก็มีสัดส่วน ที่มากพอสมควร

อย่างไรก็ตาม สมา คมโรงแรมฯเข้าใจดีว่า พ.ร.บ.นี้รัฐบาลมีความตั้งใจ ที่ดีที่จะควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ของคนไทย เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และจุดเกิดของ ปัญหาสังคม เช่น การเกิดอุบัติเหตุ และอาชญากรรม เป็นต้น แต่ก็อยากให้มีการแยกแยะหรือยกเว้นเป็นกรณีพิเศษบ้างสำหรับในธุรกิจท่องเที่ยว เพราะเมื่อรัฐบาลต้องการ สร้างรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ก็ต้องมีการผ่อนปรนกันบ้าง

นายประกิจ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในปีนี้ ว่า มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยว และอัตราเข้าพักของโรงแรมมากกว่าปีก่อน หากไม่มีสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยลบที่เกิดอย่างปัจจุบันทันด่วน เข้ามากระทบ เพราะว่าปีนี้ปัจจัยบวกที่เอื้อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมาประเทศไทยมากขึ้น มีหลาย อย่าง เช่น แคมเปญไทยแลนด์ แกรนด์อินวิเทชัน ที่ประเทศไทยจะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาส สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ ครบ 60 ปี โดยล่าสุดทางการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.)ได้แจ้ง มายังสมาคมฯ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงแรมให้ลดราคาค่าห้องพักในช่วงเดือนมิถุนายนศกนี้ เพราะเป็นเดือนที่จะมีไฮไลต์พิเศษของการจัดงาน โดยทางสมาคมฯมีความยินดีที่จะช่วยเหลือ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะลดราคาได้มากเท่าใด ส่วนระยะเวลาจะให้ถึง 3 เดือนคือตั้งแต่ พฤษภาคมถึงกรกฎาคม ซึ่งถือเป็นช่วงโลว์ซีซันพอดี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.