"SCNYL"เดินหน้าธุรกิจเต็มสูบผ่านแบงก์แอสชัวร์รัน-นอนแบงก์


ผู้จัดการรายวัน(1 กุมภาพันธ์ 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

"ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต" หรือ SCNYL ยังคงเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศในปี 2549 บริษัทจะเพิ่มเบี้ยรับรวมให้ได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะรายได้จากเบี้ยปีแรกกว่า 5 พันล้านบาท โดยยังคงเน้นกลยุทธ์การจัดจำหน่ายหลากหลายช่องทางเชิงรุกต่อไปและเร่งพัฒนาช่องทางนอนแบงก์ให้เท่ากับแบงก์แอสชัวรันส์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCNYL เปิดเผยว่า แม้ในช่วงปี 2548 ธุรกิจประกันชีวิตประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ ก็ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และในปี 2549 บริษัทได้ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมจะเพิ่มขึ้น 8% หรือคิดเป็น 11,099 ล้านบาท

โดยเฉพาะเบี้ยปีแรกจะโตถึง 8% หรือคิดเป็น 5,250 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทดำเนินกลยุทธ์การจัดจำหน่ายแบบหลากหลายช่องทางต่อไป พร้อมดำเนินกลยุทธ์ระยะยาวโดยขยายตลาดช่องทางสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์)ให้เท่ากับหรือสูงกว่าแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ ทั้งประเภทรายบุคคล และเครดิตไลฟ์ และครองส่วนแบ่งตลาดนี้กว่า 50% เพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ และตัวแทนซึ่งเป็นช่องทางหลักให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเป็นหัวหอกในการขยายธุรกิจ และรองรับการแข่งขันของตลาดที่รุนแรงขึ้น

“แบงก์แอสชัวรันส์ยังเป็นหัวหอกหลักที่จะผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อไป โดยพยายามใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านการเงิน และความเชี่ยวชาญในธุรกิจของพันธมิตรคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็คาดว่าสายงานตัวแทน จะเติบโตอย่างมากในช่วงปีข้างหน้า ตามยุทธศาสตร์ของนิวยอร์คไลฟ์ทั่วโลก โดยวางเป้าหมายที่จะก้าวเป็น 1 ใน 3 ประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในด้านเบี้ยรับรวมภายในปี 2551"นายโดนอลด์กล่าว

ส่วนกลยุทธ์การตลาดนั้น บริษัทได้วางแผนปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ (รีแบรนด์) พร้อมเปลี่ยนโลโก้ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ เผยแพร่ชื่อเสียงของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง รวมทั้งเข้าถึงประชาชนทั่วประเทศยิ่งขึ้น และจะพัฒนากรมธรรม์ระยะยาวที่มีอัตราผลตอบแทนแน่นอน ให้ความคุ้มครองสูงโดยเฉพาะในภาวะที่ดอกเบี้ยผันแปร อีกทั้งพัฒนาคุณภาพทีมขาย ตัวแทนให้เป็นมืออาชีพ เพื่อสามารถวางแผนการเงินได้อย่างตรงกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนจะยังคงนโยบายการลงทุนแบบรอบคอบ และระมัดระวังเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือกรมธรรม์ โดยเน้นการลงทุนแบบระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนแน่นอนและความเสี่ยงต่ำ ซึ่งประมาณ 96% จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรที่มีจัดอันดับระดับA- ขึ้นไป ที่เหลือเป็นเงินกู้ตามกรมธรรม์ และเงินสด

สำหรับผลการลงทุน ณ เดือนกันยายน 2548 ที่ผ่านมา ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ มีสินทรัพย์ลงทุนเพิ่มจาก 7,900 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2547 ทำให้มีสินทรัพย์การลงทุนเพิ่มมาเป็น 12,200 ล้านบาท และมีรายได้จากการลงทุนรวม 349.69 ล้านบาท

ด้านนายพิเชฐ พิเชฐวิวัฒนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนประกันชีวิต ใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ยังคงใช้ระบบ Gold System ในการพัฒนาคุณภาพตัวแทน และนำระบบ GPA มาวัดผลงานของตัวแทน ซึ่งประกอบด้วย เบี้ยปีแรก จำนวนราย ตัวแทนใหม่ จำนวนตัวแทนทำงาน และอัตราความคงอยู่ของตัวแทนรวมทั้งใช้หลักสูตร Back to Basic มาฝึกอบรมตัวแทนให้ขายกรมธรรม์ที่เน้นความคุ้มครองมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีตัวแทนใหม่ประมาณ 2,000 คน และยังมีแผนเปิดสาขาใหม่ ได้แก่ สาขารามอินทรา และสาขาปราณบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอีกด้วย

ขณะที่นายไกดา ศรีเฟื่องฟุ้ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะออกกรมธรรม์แบบตลอดชีพที่การันตีเงินคืนรายปี กรมธรรม์สะสมทรัพย์ และการชดเชยรายได้กรณีรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมทั้งขยายตลาดเทเลมาร์เกตติ้งในต่างจังหวัด และฐานลูกค้าในช่องทางประกันชีวิตข้าราชการหรือ worksite มากขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 2548 บริษัทมีเบี้ยปีแรก 4,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เบี้ยรับปีต่อไป 4,023 ล้านบาท เติบโตถึง 116% ส่งผลให้เบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้นตามเป็น 49% หรือคิดเป็น 8,745 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของธุรกิจซึ่งอยู่ที่ 10% เกือบ 5 เท่าตัว จากเดิมเมื่อ 4 ปีก่อน บริษัทมีเบี้ยรับรวมเพียง 1,070 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งบริษัทดำเนินกลยุทธ์การจัดจำหน่ายแบบหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางที่ไม่ได้จัดจำหน่ายผ่านแบงก์ หรือนอนแบงก์ให้เติบโตพร้อม ๆ กัน

โดยสายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์แอสชัวรันส์ มีเบี้ยปีแรก 4,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น14% โดยเครดิตไลฟ์เพิ่มขึ้นถึง 85% ส่วนสายงานตัวแทนนั้น เติบโต 21% นับว่า โดดเด่นที่สุดในรอบ 5 ปีทั้งระบบ Base shop และ Career agency ขณะที่บริษัทหลายแห่งมีอัตราเติบโตติดลบในช่องทางนี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบฝึกอบรมตัวแทน Gold System ของนิวยอร์คไลฟ์ ที่สร้างการเติบโตทั้งยอดขายและผลกำไร


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.