AH มั่นใจปีนี้เติบโตต่อเนื่องเกิน 15% เล็งลงทุนจีนเพิ่มเชื่อลูกค้ายังเพียบ


ผู้จัดการรายวัน(30 มกราคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

AH มั่นใจปีนี้เติบโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์ในระดับเกินกว่า 15% โดยยอดขายปี 48 ทำไว้กว่า 8 พันล้านบาท พร้อมได้อานิสงส์บริษัทลูกในจีนทำเงินให้บริษัทแม่หนุนรายได้พุ่ง เล็งลงทุนเพิ่มในจีนเชื่อลูกค้ายังเพียบ ขณะที่การลุยอินเดียจะเปิดเผยเมื่อข้อมูลชัดเจน พร้อมเร่งส่งออกกว้างขึ้น

นายเย็บ ซู ชวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) (AH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 49 จะเติบโตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-15% ซึ่งยอดขายในปี 48 ที่ผ่านมายอดขายประมาณกว่า 8 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะประเมินว่ายอดการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นจาก 1.1-1.2 ล้านคัน เป็น 1.3-1.4 ล้านคัน และผลดีจากการส่งออกรถยนต์ที่มีการขยายตัว รวมทั้งลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันโรงงานแห่งใหม่ที่อยุธยาและจีน เป็นแรงหนุนที่จะทำให้ยอดขายโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

"ปีนี้ผลงานของเราดีต่อเนื่อง เพราะโรงงานที่จีนที่ซื้อมาเมื่อปีก่อน เราเดินผลิตเต็มที่แล้ว ซึ่งทำเงินเข้าบริษัทแม่ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะนี้ผลิตเต็มกำลังแล้วแต่ก็ยังเล็ก เพราะเงินทุนเพียง 80 ล้านบาท เราเพิ่มไปอีก 80 ล้านบาท เรามองหาลู่ทางในการลงทุนเพิ่มที่จีนอีก เพราะโอกาสเติบโตและความต้องการของตลาดมีสูงมาก เป็นประเทศที่มีอนาคต" นายเย็บกล่าว

โดย AH ยังหาลู่ทางในการลงทุนเพิ่มเหมือนกับที่เข้าไปซื้อหุ้นใน บริษัท Kunshan Chaitai-Xinchen Precision Forging จำกัด จำนวน 75% ซึ่งเป็นการซื้อต่อจากผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทดังกล่าวสองราย และหลังจากซื้อมาด้วยเงินทุน 80 ล้านบาท AH ก็ลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโรงงานดังกล่าวอีก 80 ล้านบาท

สำหรับบริษัทที่ซื้อมาดังกล่าวมีความชำนาญพิเศษในการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีในการอัดฉีดส่วนประกอบเครื่องมือเครื่องจักร (Precision Forging Technology) ซึ่งบริษัทเป็นผู้ริเริ่มในการผลิตขอบนอกของล้อรถยนต์ อุปกรณ์ ก้านสูบ เครื่องยนต์ สำหรับรถจักรยานยนต์ ด้วยเทคโนโลยี Precision Forging ซึ่งเทคโนโลยี Precision Forging ในการทำอุปกรณ์สำหรับยานยนต์ของบริษัทได้ไปถึงระดับขั้นสูงในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว

การลงทุนในต่างประเทศ นอกจากที่จีนแล้ว AH ยังสนใจและหาโอกาสในการที่จะเข้าลงทุนในอินเดีย เพราะมีอนาคตและประชากรมีจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นการร่วมทุนหรือลงทุนซื้อโรงงานเก่าแล้วพัฒนาเพิ่มเหมือนที่จีน แต่บทสรุปของการลงทุนที่อินเดีย ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

"อินเดียก็เป็นประเทศที่มีอนาคต และเรามีลูกค้าที่นั่นด้วย ลู่ทางในการลงทุนของเรายังมองหาโอกาสและความเหมาะสมเหมือนกับการลงทุนที่จีน แต่จีนโชคดีที่เราหาโรงงานที่เข้าซื้อได้ แต่อินเดียหากเราไม่ชัดเจนก็ไม่อยากตอบ เอาไว้กลางเดือนหน้าเราจะให้ความชัดเจนในแผนงานเรา" นายเย็บกล่าว

สำหรับการลงทุนแต่ละครั้ง AH เน้นการเอื้อประโยชน์เพิ่มพูนและขยายธุรกิจของบริษัท โดยไม่จำเป็นว่าใหญ่หรือเล็ก ขอเพียงให้มีผลการดำเนินงานดีก็พร้อมเข้าลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงผลกำไรขนาดเล็กและมีประวัติการดำเนินงานที่ดี ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงให้กับบริษัท ขณะที่ลงทุนในบริษัทบางแห่งก็ต้องเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ โดยบริษัทใช้เงินจากการเพิ่มทุนด้วยการออกหุ้นบุริมสิทธิให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงเมื่อกลางปี 48 ได้เงินมาเกือบ 1 พันล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนที่จีน และอินเดียตลอดจนการขยายงานของ AH ในไทย

นอกจากนี้ AH ยังขยายการส่งออกสินค้าที่บริษัทเจรจากับพันธมิตรในสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน หลังจากที่เพิ่งได้ลูกค้ารายใหม่อย่างนิสสันเข้ามา ซึ่งจะทำให้รายได้จากส่วนนี้มาเพิ่มเกือบ 300 ล้านบาท หนุนรายได้บริษัทแม่ทะยาน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ AH ไตรมาส 3 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 2,189.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 1,736.49 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้มีกำไรสุทธิ 183.11 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 215.44 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทมีการรับรู้รายได้ ส่วนหนึ่งจากโครงการผลิตจิ๊กให้กับจีน ซึ่งมีมูลค่าโครงการถึง 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่งวด 9 เดือนมีรายได้ 6,305.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 4,872.26 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 573.76 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 555.33 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.