|
"ราชธานีลิสซิ่ง"ดึง"SCIB"ร่วมทุนเสนอขาย150ล้านหุ้นพ่วงวอร์แรนต์75ล้านหน่วย
ผู้จัดการรายวัน(27 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บอร์ด "ราชธานีลิสซิ่ง" อนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 22.82% ราคาหุ้นละ 1.15 บาท ให้ธนาคารนครหลวงไทย พร้อมแถมวอร์แรนต์ 75 ล้านหน่วยฟรี ระบุเงื่อนไขจะต้องขายหุ้นสามัญที่ซื้อคืนในโครงการจำนวน 1.30 ล้านหุ้นให้เสร็จสิ้นก่อน พร้อมยืนยันไม่ให้ถือหุ้นเกิน 25% ด้านผู้บริหารแบงก์นครหลวงไทย เผยเดินหน้าขยายธุรกิจด้านการเงินครบวงจร
นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2549 อนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น พร้อใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (วอร์แรนต์) จำนวน 75 ล้านหุ้น ให้แก่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB ในราคาหุ้นละ 1.15 บาท รวมมูลค่า 172.50 ล้านบาท
ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนและวอร์แรนต์ดังกล่าว เป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2548 ที่มีมติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น พร้อมกับให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) จำนวน 75 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือนักลงทุนประเภทสถาบัน
สำหรับราคาเสนอขายที่หุ้นละ 1.15 บาทนั้น อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ราคาขายต้องไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด ที่คำนวณจากราคาปิดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเวลา 15 วันทำการติดต่อกัน (23 ธันวาคม 2548 ถึง 13 มกราคม 2549) ก่อนวันกำหนดราคาเสนอขาย ซึ่งตรงวันที่ 16 มกราคม 2549 โดยราคาตลาดเฉลี่ยดังกล่าวเท่ากับ 1.265 บาท
พร้อมกันนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและวอร์แรนต์ให้แก่ธนาคารนครหลวงไทย จะต้องอยู่บนเงื่อนไขว่าบริษัทจะจำหน่ายหุ้นสามัญที่ซื้อคืนในโครงการจำนวนทั้งสิ้น 1.30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.32% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว มูลค่ารวมเท่ากับ 1,837,978 บาทให้เสร็จสิ้นก่อน โดยบริษัทจะขายหุ้นจำนวนดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2549 เป็นต้นไป
นายอรุณ จิรชวาลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นใน THANI ในสัดส่วน 22.82% จะทำให้ธนาคารมีสถานะเป็น Universal Bank เต็มรูปแบบที่สามารถให้บริการทางการเงินหลัก ๆ ครบทุกด้าน นอกเหนือจากบริการด้านประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน
"การร่วมทุนครั้งนี้ ทำให้ธนาคารสามารถขยายบริการด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้น และเป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้ให้กับธนาคาร" นายอรุณ กล่าว
สำหรับสาเหตุที่ธนาคารเลือกการร่วมทุนกับ THANI เพราะเห็นว่ามีเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน รวมทั้ง THANI มีทีมงานที่มีความพร้อมและมีประสบการณ์ด้านนี้มากกว่า 20 ปี มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์มากกว่า 120 แห่ง จึงมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะตลาดเช่าซื้อรถยนต์มือสองที่กำลังเติบโต เป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานดี มีความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2545 และทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจด้านลิสซิ่งได้ทันที
ส่วนรายละเอียดของมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 ได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากทุนเดิม 500 ล้านบาท เป็น 986 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 486 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการออกเพิ่มทุน 125 ล้านหุ้น 3 ครั้ง และยังเพิ่มทุนอีก 150 ล้านหุ้น 75 ล้านหุ้นและ 11 ล้านหุ้นตามลำดับ เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ครั้งที่ 1 ชุดที่ 2 และชุดที่ 3 ที่ออกให้บุคคลในวงจำกัดตามเงื่อนไข
โดยบริษัทจะจำหน่ายหุ้นสามัญที่ซื้อคืนให้เสร็จสิ้นก่อนการเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้น และเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือนักลงทุนประเภทสถาบัน ตามลำดับ โดยบริษัทฯจะทำการขายหุ้นสามัญที่ซื้อคืนในโครงการ จำนวนทั้งสิ้น 1,300,000 หุ้น หรือคิดเป็น 0.32 % ของทุนชำระแล้วในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2549 ถึง 31 มีนาคม 2552
หลังจากที่บริษัทฯทำการขายหุ้นสามัญที่ซื้อคืนในโครงการตามจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยบริษัทจะเรียกชำระหุ้นเพิ่มทุนสามัญซึ่งเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้น 125 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ1 บาท ยกเว้นวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯซึ่งเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นสามัญใหม่ดังกล่าว โดยไม่คิดมูลค่า 125 ล้านหน่วย จะขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
การเรียกชำระหุ้นเพิ่มทุนจากแบงก์นครหลวงไทย ซึ่งบริษัทได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯให้ 150 ล้านหุ้น พร้อมวอร์แรนต์ 75 ล้านหน่วย ) ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.15 บาท ขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติของธนาคารแห่งประเทศไทย และการทำการตรวจสอบทรัพย์สินของธนาคารนครหลวงไทย
ทั้งนี้ หากธนาคารนครหลวงไทยซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวนดังกล่าวหลังจากที่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของบริษัทใช้สิทธิซื้อหุ้นหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งจำนวน ธนาคารนครหลวงไทยจะมีสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯอยู่ที่ 22.17 %ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วซึ่งอยู่ที่ 676,524,480 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมการใช้สิทธิซื้อวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นสามัญเดิม ซึ่งได้สิทธิดังกล่าว และไม่รวมสิทธิของธนาคารนครหลวงไทยที่จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวนดังกล่าว) โดยบริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะให้ธนาคารนครหลวงไทยถือหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในสัดส่วนมากกว่า 25%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|