|
เอ็กโก้เล็งส่งบ.ลูกเข้าประมูลไอพีพี
ผู้จัดการรายวัน(26 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
“เอ็กโก้”เตรียมส่งบริษัทลูกเข้าร่วมประมูลไอพีพีรอบใหม่ หากเรคกูเรเตอร์กำหนดชัดห้ามบ.ลูกกฟผ.เข้าประมูล ระบุมีพื้นที่เตรียมพร้อมรองรับการประมูลแล้ว เผยขณะนี้กล่อมซีแอลพี เพื่อซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีทั้งหมด 50% คาดได้ข้อสรุปกลางปีนี้
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (เอ็กโก้ ) เปิดเผยกรณีที่คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า (เรคกูเรเตอร์)บางคนออกมาระบุว่าไม่เห็นด้วยที่บริษัทลูกบมจ.กฟผ.เข้าร่วมประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี)ว่า บริษัทฯควรจะได้เข้าร่วมประมูลไอพีพีรอบใหม่ เนื่องจากเอ็กโก้มีความพร้อมในการเข้าประมูล และจะทำให้ค่าไฟฟ้าที่ไปถึงมือประชาชนอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่สุด
โดยขณะนี้เอ็กโก้ได้เตรียมพื้นที่ไว้ถึง 3 แห่งเพื่อรองรับการประมูลไอพีพี ได้แก่ พื้นที่ในจังหวัดระยอง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1,400 เมกะวัตต์ จังหวัดราชบุรี 1,400 เมกะวัตต์ และพื้นที่โรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช อีก 700 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม หากเรคกูเรเตอร์ออกระเบียบห้ามเอ็กโก้เข้าร่วมประมูล ถือว่า ไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย เพราะปัจจุบันผู้ถือหุ้นรายย่อยมีสัดส่วนในเอ็กโก้มากกว่า 50 % ขณะที่ กฟผ. ถือหุ้นเพียง 25% และไชน่า ไลท์ เพาวเวอร์(ซีแอลพี)จากฮ่องกง 22 %
" หากเรคกูเรเตอร์ เสนอมาคือไม่ให้บริษัทลูกกฟผ.เข้าประมูลไอพีพี เอ็กโก้ก็จะส่งโรงไฟฟ้าแก่งคอย ของบริษัท กัลฟ์อิเลคตริก จำกัด(มหาชน)ที่เอ็กโก้ถือหุ้นอยู่ 50% และบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด ที่ทำโรงไฟฟ้าขนอมเข้าไปแข่งขันแทน เพราะถือว่าไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ของเรกูเลเตอร์ที่ห้ามบริษัทลูกเข้าประมูลเท่านั้น"
ส่วนกรณีการเจรจากับบริษัท ไชน่าไลท์ พาวเวอร์ (ซีแอลพี) เพื่อเข้าไปร่วมถือหุ้นกับโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์ นายวิศิษฎ์ คาดว่าเอ็กโก้จะใช้เงินประมาณ 3 พันล้านบาทในการเข้าไปถือหุ้นในโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่ซีแอลพีถือทั้งหมด 50%โดยจะได้ข้อสรุปกลางปีนี้ ซึ่งจะเป็นการยุติปัญหากรณีซีแอลพีเข้ามาถือหุ้นในบีแอลซีพี โดยไม่ผ่านการลงทุนของเอ็กโก้ตามที่มีสัญญาการลงทุนร่วมกัน
“ในอนาคตเอ็กโก้จะให้ความสำคัญกับโรงไฟฟ้าถ่านหินมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าให้ผลตอบแทนที่ดี และในอนาคตก๊าซธรรมชาติจะหมดไป ดังนั้นจึงต้องการซื้อหุ้นบีแอลซีพี เพราะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งแรก และมีผลตอบแทนค่อนข้างดี”
สำหรับแผนการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในลาว ล่าสุดได้เจรจาที่จะลงทุนในโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 กำลังการผลิต 525 เมกะวัตต์ โดยลงทุนในสัดส่วน 50% ร่วมกับบริษัท GUBUDAจากมาเลเซีย คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในโครงการนี้ประมาณ 630 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามโครงการนี้จะต้องรอความเห็นชอบจากกระทรวงพลังงานในการอนุมัติรับซื้อไฟฟ้าก่อน ขณะที่ปัจจุบันเอ็กโก้ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ของลาว กำลังผลิต 1,200 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้เอ็กโก้จะมีรายได้เพิ่มจากโรงไฟฟ้ายะลากรีนที่จะเข้าระบบอีก 20 เมกะวัตต์ และปี 2550 จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ที่เป็นไอพีพีที่จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ส่วนโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 จะผลิตไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2552
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะรีไฟแนนซ์หนี้โรงไฟฟ้าระยองประมาณ 4 พัน ล้านบาทในช่วงกลางปี 2549 เพื่อชำระหนี้สกุลดอลล่าร์สหรัฐทั้งหมด โดยจะให้โรงไฟฟ้าระยองมากู้เงินจากเอ็กโก้แทน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|