|
ค้าเหล็กไทยบุกลอจิสติกส์สรุปกลางปีนี้เอื้อธุรกิจหลัก
ผู้จัดการรายวัน(25 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บริษัทค้าเหล็กไทยเล็งรุกธุรกิจขนส่งหวังเกื้อหนุนธุรกิจหลัก คาดจะได้ข้อสรุปกลางปีนี้จะใช้เงินลงทุน 50-100 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 7% ผู้บริหารระบุที่ผ่านมาเก็บหุ้นเข้าพอร์ตตลอดแต่ไม่สามารถซื้อในจำนวนมากเหตุจะกระทบต่อฟรีโฟลทของหุ้นที่จะลดลง
นายปานชัย พิพัฒนสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทค้าเหล็กไทย จำกัด(มหาชน)(TMT)เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านการขนส่งและลอจิสติกส์ เพื่อที่จะนำมาสนับสนุนในธุรกิจหลักของบริษัทซึ่งเป็นธุรกิจเหล็ก ซึ่งมี 3 แนวทางประกอบด้วยแนวทางแรกการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจดังกล่าว ส่วนแนวทางที่สองคือการหาพันธมิตรแล้วเข้าไปร่วมทุนที่ผ่านมาได้มีการหารือกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านขนส่งและเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้แล้วหลายรายและแนวทางสุดท้ายคือการจ้างให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจขนส่ง
อย่างไรก็ตามคาดว่ามีโอกาสที่จะเลือกแนวทางที่หนึ่งหรือแนวทางที่สองเพราะบริษัทต้องการที่จะดำเนินธุรกิจเองซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการศึกษาแล้วประมาณ 60-70% และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีแรกนี้และคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50-100 ล้านบาทซึ่งธุรกิจขนส่งนี้จะช่วยทำให้เกื้อหนุนธุรกิจหลักในด้านการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้นรวมถึงทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้บริษัทก็มีแผนงานที่จะศึกษาเกี่ยวกับระบบสื่อสารกับลูกค้าให้เกิดความกระชับและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยนำเทคโนโลยีในด้านอินเตอร์เน็ตเข้ามาช่วยคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ภายในอนาคตเพราะจะทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตและรู้ถึงขั้นตอนการจัดส่งสินค้าว่าจะไปถึงเป้าหมายในช่วงเวลาใดซึ่งคาดว่าระบบดังกล่าวจะนำมาใช้ในอนาคตซึ่งจะช่วยทำให้การทำงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
นายปานชัย กล่าวว่า สำหรับในปี 2549นี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้น(gross margin)อยู่ในระดับ 7%ขณะที่ในปีก่อนแม้ว่าจะเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเหล็กไม่ดีแต่บริษัทก็ยังสามารถสร้างผลกำไรได้โดยในส่วนของยอดขายบริษัทอยู่ในระดับเกือบ 6.8 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้นับตั้งแต่บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2548 ผู้บริหารของบริษัทก็ได้มีการเข้าไปซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ตตลอดมาเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง และเห็นว่าระดับราคาดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานและไม่เคยมีการขายออกมาเลย
อย่างไรก็ตามการเข้ามาซื้อหุ้นของผู้บริหารก็เป็นการซื้ออย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหุ้นขาดสภาพคล่องเนื่องจากในช่วงที่บริษัทกระจายหุ้นเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)บริษัทกระจายหุ้นเพียง 20% เท่านั้นดังนั้นผู้บริหารของบริษัทจึงไม่สามารถซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ตได้เป็นจำนวนมากเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อฟรีโฟลทซึ่งอาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ได้
กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ค้าเหล็กไทยจำกัด(มหาชน)กล่าวต่อว่าคาดว่าบริษัทที่ประกอบธุรกิจเหล็กและมีคุณสมบัติที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในขณะนี้จะเหลือเพียง 3-4 บริษัทเท่านั้นหลังจากนั้นคงจะต้องรออีกประมาณ 5ปีจึงจะมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจเหล็กใหม่ๆเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่าสาเหตุที่หุ้นบริษัทค้าเหล็กไทยราคายังไม่ถึงราคาจองที่หุ้นละ 5.95 บาทนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เพราะก่อนหน้านี้ได้มีกองทุนบางกองทุนเทขายหุ้นออกมาเพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมเหล็กมีแนวโน้มที่ไม่ดีในช่วงปี 2548 ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามก็มีบางกองทุนที่ยังถือหุ้นบริษัทอยู่เพราะมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|