แอดวานซ์กดดัชนีทรุดเทนเดอร์ฯฉาวพ่นพิษนักลงทุนแห่ทิ้งหุ้น


ผู้จัดการรายวัน(25 มกราคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

หุ้นแอดวานซ์กดดัชนีหลังวูบเกือบ 5% ขณะที่หุ้นค่ายชินคอร์ปจูงมือกัน ไอทีวี ชินแซทฯ ส่วนซีเอส ล็อกอินโฟร์ รูดหนักสุดเกือบ 10% ผสมโรงทิศทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเป๋ทำตลาดหุ้นไทยทรุดบล.พัฒนสิน ระบุนักลงทุนเทขายแอดวานซ์ จากราคาเทนเดอร์ฯต่ำกว่าในกระดาน วันนี้จับตาราคาน้ำมัน ด้าน บล.เกียรตินาคินชี้หุ้นชินคอร์ป อาจถูกเพิกถอน ส่วนแบงก์ใบโพธิ์รับอานิสงส์ ดีลยักษ์กวาดค่าคอมฯกว่า 150 ล้าน ดันราคาหุ้นพุ่ง 3.42%

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ ( 24 ม.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบๆ โดยเกือบตลอดทั้งวันดัชนีแกว่งตัวในแดนลบ ก่อนที่ดัชนีจะปิดที่ 745.95 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวัน โดยลดลง 4.33 จุด หรือ 0.58% โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 751.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,662.11 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 676.61 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 179.95 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 856.56 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มชินคอร์ปวานนี้ทรุดตัวเกือบทั้งกลุ่ม โดยเฉพาะบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ราคาปิดที่ 99 บาท ลดลง 5 บาท หรือ 4.81% มูลค่าการซื้อขาย 1,893.53ล้านบาท, บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL ราคาปิดที่ 3.64 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 9.90% มูลค่าการซื้อขาย 100.81 ล้านบาท, บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV ราคาปิดที่ 11.20 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 5.88% มูลค่าการซื้อขาย 406.41 ล้านบาท และบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL ราคาปิดที่ 15.10 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 2.58% มูลค่าการซื้อขาย 321.02 ล้านบาท,

ยกเว้นหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ซึ่งตระกูลชินวัตรยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.40 บาท หรือ 15.89% มูลค่าการซื้อขาย 485.18 ล้านบาท

ส่วนหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SHIN ซึ่งตกเป็นของกลุ่มเทมาเส็กโฮลดิ้ง ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ปิดที่ 48.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,010.77 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ SHIN-W1 ราคาปิดที่ 28 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.67% มูลค่าการซื้อขาย 431.59 ล้านบาท

นายชัย จิระเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าความชัดเจนในกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกลุ่มเทมาเส็กจะชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นในต่างประเทศหลายแห่งก็ปรับตัวขึ้น แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยที่ถูกถ่วงน้ำหนักจากการปรับลดลงของราคาหุ้นแอดวานซ์ เนื่องจากมีการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดในราคาที่ต่ำกว่าราคาในกระดานส่งผลทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ ก็เริ่มอ่อนตัวลงมา สอดรับการปรับลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มชินคอร์ปฯ จึงเป็นสาเหตุทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้(25ม.ค.)คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนต้องติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มชินคอร์ป และหุ้นในกลุ่มพลังงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาดล่วงหน้าหลังจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ที่ออกมาระบุว่า พร้อมที่จะผลิตน้ำมันมากขึ้นถ้าจำเป็น และกลุ่มประเทศโอเปกจะไม่เปลี่ยนแปลงกำลังการผลิตในการประชุม 31 ม.ค.นี้ โดยมองแนวรับที่ 732-740 จุด แนวต้าน 750-755 จุด

นายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าบุคคล บล.กรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่า การปรับลดลงของราคาหุ้นแอดวานซ์จากราคาปิดครั้งก่อนที่ 104 บาท โดยราคาเปิดที่ 96 บาท ลดลง 8 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำสุดของวัน เนื่องจากราคาที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ตั้งโต๊ะรับซื้อคืนจากรายย่อยอยู่ที่ 72.31 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่ากระดานมาก ทำให้นักลงทุนเทขายเพื่อทำกำไรมากกว่าที่จะไปขายคืนผู้ถือหุ้นใหม่

ขณะที่ หุ้นชินคอร์ป มีแรงซื้อจากนักลงทุนเข้ามา เนื่องจากราคาที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯยังต่ำกว่าราคาที่บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ ซื้อและต่ำกว่าราคาที่ 2 บริษัทจะตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนรายย่อย (Tender Offer) ที่ราคาหุ้นละ 49.25 บาท ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรเพื่อรอการขายคืนให้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่

บทวิเคราะห์จาก บล.เกียรตินาคิน จำกัด ระบุว่า การกำหนดราคารับซื้อหุ้นชินคอร์ป ที่ 49.25 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดเป็นปัจจัยหลักที่ดึงดูดให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยตัดสินใจรอที่จะขายผ่านการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์(รับซื้อคืนจากนักลงทุนทั่วไป) ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 2 ก.พ. - 23 มี.ค.2549

ทั้งนี้กลุ่มผู้ซื้อซึ่งเป็นบริษัทในเครือเทมาเส็ก โฮลดิ้ง มีแนวโน้มจะเข้ามาถือหุ้นในชินคอร์ปมากกว่า 90% ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหากผลการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ทำให้สัดส่วนการกระจายหุ้นต่อประชาชน หรือ Free Float ต่ำกว่า 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ว่ากลุ่มเทมาเส็กฯอาจพิจารณาเพิกถอนหุ้นชินคอร์ปออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)

หุ้นไทยพาณิชย์ฉลุยฟันค่าคอมฯ

ด้านความเคลื่อนไหวหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซึ่งได้รับผลประโยชน์จากการที่ บล.ไทยพาณิชย์ บริษัทลูกได้เป็นที่ปรึกษาในกรณีการซื้อขายหุ้นของ SHIN ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก และได้รับประโยชน์ในเรื่องค่าธรรมเนียม(คอมมิสชั่น) ประมาณ 150 ล้านบาทจากการเป็นผู้เสนอซื้อและขายหุ้นในดีลดังกล่าว โดยราคาหุ้นปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 3.42% มูลค่าการซื้อขาย 1,473.48 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บล. โกลเบล็ก ระบุว่าดีลการซื้อหุ้นชินคอร์ปถือว่าเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ด้วยมูลค่าซื้อขายรวมกว่า 7.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่งผลในทางด้านจิตวิทยาต่อกลุ่มหลักทรัพย์เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยปรับขึ้นอย่างโดดเด่น

ทั้งนี้ การซื้อขายกระจุกตัวอยู่ในบริษัทหลักทรัพย์ 6 แห่ง ที่ปรากฎชื่อเป็นผู้ซื้อและขาย ซึ่งหากคิดค่าธรรมเนียมทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขายหุ้นที่ 0.25% จะส่งผลทำให้บริษัทหลักทรัพย์ 6 แห่งจะมีรายรับรวมราว 360 ล้านบาท

ในส่วนของ บล.ไทยพาณิชย์จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการซื้อขายในครั้งนี้ เนื่องจากมูลค่าฝั่งซื้อราว 5 หมื่นล้านบาท จะได้ค่าธรรมเนียมราว 150 ล้านบาท และยังรวมไปถึงรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดจะถูกคำนวณเข้าไปในงบการเงินรวมของธนาคารไทยพาณิชย์ในงบไตรมาส1/49 ซึ่งจะส่งผลทำให้เป็นส่วนเพิ่มต่อ EPS Fully diluted ประมาณหุ้นละ 0.44 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.