|
คอนซูเมอร์ฯงัดไซส์ซิ่งทะลวง แนวรบปีจอโชวห่วยแข่งเดือด
ผู้จัดการรายวัน(23 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
สมรภูมิรบคอนซูเมอร์โปรดักส์ ระเบิดกลยุทธ์”ไซส์ซิ่ง” ยึดหัวหาดโชวห่วย รับปีจอยังไม่ถึง 1 เดือน ผู้ประกอบการเทกระจาดสร้างเทรนด์บรรจุภัณฑ์ชนิดซอง-ขนาดจิ๋ว กระตุ้นกำลังซื้อ “พีแอนด์จี”ควงไซส์ซิ่ง-ราคา ถล่มตลาดแชมพู “ยูนิลีเวอร์”ชูกลุ่มสกินแคร์ราคาจับต้องได้ ตบเท้าคลอดพอนด์สขนาดซอง 10 บาท
เปิดรับปีจอยังไม่ถึงหนึ่งเดือนดี แนวรบระหว่างค่ายยักษ์ใหญ่คอนซูเมอร์โปรดักส์”พีแอนด์จี” และ”ยูนิลีเวอร์” ก็เริ่มเปิดสงคราม”ไซส์ซิ่ง”ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่งผ่านช่องทางร้านค้าปลีกรายย่อยหรือ”โชวห่วย”แนวรบที่กำลังกลายเป็นสมรภูมิฟาดฟันในปี 2549 นี้
แหล่งข่าวจากวงการสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า จับตาแนวรบคอนซูเมอร์โปรดักส์ปีนี้ให้ดี ระหว่างค่ายพีแอนด์จีและยูนิลีเวอร์ จะงัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่งขึ้นมาใช้มากขึ้น หรือเรียกว่าใช้หลักด้านจิตวิทยาควักเงินจ่ายครั้งละน้อยๆมากระตุ้นกำลังซื้อ ทั้งนี้เพราะในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยมีความระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคระดับรากหญ้ามีกำลังการซื้อลดลง เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น ผลพวงจากราคาสินค้าแพงขึ้น
ขณะเดียวกันแนวรบปีนี้ต้องจับตาสงครามผ่านช่องทางโชวห่วยหรือร้านค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิมจะทวีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะ”โชวห่วย”เป็นช่องทางที่ยังคงมีอัตราการเติบโตได้อีก หลังจากในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการคอนซูเมอร์โปรดักส์ หันไปให้ความสำคัญช่องทางโมเดิร์นเทรด เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนหันมาซื้อสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรดเชนต่างๆเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการความสะดวกสบาย
ขณะที่ช่องทางโชวห่วยถูกทิ้งร้างและไม่ได้รับการพัฒนาจากผู้ประกอบการ แต่ปัจจุบันโมเดิร์นเทรดกลายเป็นช่องทางที่ถึงจุดอิ่มตัว การเติบโตในช่องทางนี้หลักๆจะมาจาก การเปิดตัวสูตรใหม่หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขายเท่านั้น อย่างไรก็ตามสมรภูมิรบร้านโชวห่วยหลักๆจะมาจากการใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่งผนวกกับสงครามราคา เพราะผู้ที่ซื้อสินค้าในช่องทางนี้ส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าขนาดไม่ใหญ่มากนัก
ระเบิดสงครามซอง ณ ร้านโชวห่วย
สมรภูมิรบตลาดแชมพูและครีมนวดผ่านช่องทางโชวห่วย ความเคลื่อนไหวล่าสุดของพีแอนด์จีงัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่งควบคู่กับราคา โดยเลือกแพนทีน สูตรแฮร์ปอล คอนโทรล ขนาดซองจากปกติขาย 3 บาท เหลือเป็น 2 บาท นอกจากนี้ยังบั๊บสินค้าคู่แข่ง”โดฟ” ว่าจะต้องจ่ายแพงทำไมถึง 3 บาท กลยุทธ์ราคาของแพนทีน ทำให้ผู้บริโภคจับต้องได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นการทดลองใช้โดยเฉพาะผู้บริโภคตลาดต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่ยังใช้แชมพูระดับพรีเมียมน้อย พร้อมกันนี้พีแอนด์จียังได้ส่งแพนทีน ครีมนวดไม่ต้องล้างออกขนาดราคา 29 บาทอีกต่อหนึ่ง นับเป็นหมัดเด็ดที่แพนทีนปล่อยออกมาเพื่อรักษาบัลลังก์ผู้นำตลาดแชมพูและครีมนวดระดับพรีเมียมจากปัจจุบันครองอยู่ที่ 14% ส่วนโดฟ 9% จากมูลค่าตลาดกว่า 8,700 ล้านบาท
ส่วนด้านยูนิลีเวอร์ ซึ่งมี”ซันซิล”แชมพูระดับแมสเป็นสินค้าเรือธงในพอร์ตฯ และปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดแชมพู 27.5% เลือกสูตรโยเกิร์ตซึ่งเป็นสูตรที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ระเบิดโปรโมชั่นซื้อแชมพูขนาดซอง 2 บาท แถมครีมนวดผม เพื่อประกบ”รีจอยส์”สินค้าค่ายคู่แข่งพีแอนด์จี หลังจากในช่วง 1ปีที่ผ่านมารีจอยส์ตีตื้นซันซิลกระทั่งมีส่วนแบ่ง 8% ขณะที่แนวรบเซกเมนต์ใหม่ปีนี้ที่มีแนวโน้มว่าจะระอุในเรื่องของไซส์ซิ่ง ก็คือครีมนวดชนิดไม่ต้องล้างออก เพราะเป็นตลาดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา มีมูลค่า6%ของมูลค่าตลาด 2,273 ล้านบาท โดยซันซิลผุดกลยุทธ์ไซส์ซิ่งในกลุ่มครีมนวดชนิดไม่ต้องล้างออกราคา 25 บาท ประกบรีจอยส์ที่ใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่งลงลึกไปอีกคือขนาดซอง ส่วนแพนทีนเปิดตัวขนาด 29 บาทลงสู่ตลาด
สกินแคร์สุดอั้นปล่อยไซส์เล็กกระทุ้ง
“สกินแคร์”เป็นอีกกลุ่มสินค้าหนึ่งในบรรดาคอนซูเมอร์โปรดักส์ที่มีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าราคาต่ำสุดเริ่มที่ 69 บาท ช่องว่างตรงนี้ทำให้พีแอนด์จีและยูนิลีเวอร์รวมทั้งค่ายอื่นๆเทกระจาดงัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง กระตุ้นพฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภค สำหรับค่ายยูนิลีเวอร์ระเบิดส่ง”พอนด์ส เฟอร์เฟค รีซัลต์ “ผลิตภัณฑ์ลบเรือนริ้วรอยขนาด10 กรัม 69 บาท เป็นราคาแนะนำใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมกันนี้ยังได้ส่ง”พอนด์ส ไวท์ บิวตี้ ดีทอกซ์” ทั้งชนิดซองขนาด 10 กรัมราคา 10 บาท และขนาดหลอด 10 กรัม ราคา20 บาท เพื่อขยายฐานสู่ตลาดต่างจังหวัดได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการประกบกับโอเลย์ โททัล ไวท์ ซึ่งก่อนหน้านี้พีแอนด์จีระเบิดศึกด้วยการปล่อยราคา 20 บาท และสามารถกวาดฐานลูกค้าจากต่างจังหวัดได้ท่วมท้น
ปรากฏการ์เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน สินค้าหลายตัวเริ่มสตาร์ด้วยการใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่ง ยังไม่รวมถึง “นูโทรจีน่า”ของค่ายจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ออกขนาดใหม่ 50 กรัม ราคา 69 บาท หรือกระทั่งผงปรุงรสคนอร์ราคา 7 บาท จากปกติราว 12 บาท ฯลฯ ของยูนิลีเวอร์เพื่อเจาะกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ปีจอปีนี้จึงนับว่าเป็นปีทองแห่งการนำกลยุทธ์”ไซส์ซิ่ง”ขึ้นมาใช้ในสมรภูมิสินค้ากลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์เลยก็ว่าได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|