ไอทีวี บิ๊กสเต็ปป์ ปฏิบัติการดับรัศมี ช่อง 3 - ช่อง 7


ผู้จัดการรายสัปดาห์(23 มกราคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ไอทีวี ประกาศกร้าวดับรัศมีคู่หู ช่อง 3 - ช่อง 7 ชูคอนเซ็ปต์ "บิ๊ก สเต็ปป์" สถานีแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัว เป็นหัวหอกสู้ศึก ส่งละครไทย 5 เรื่อง เอเชียนซีรีส์ อีกชุดใหญ่ เสริมความแกร่ง ผสานจุดแข็งของรายการที่เป็นผู้นำอย่างวาไรตี้ - ข่าว พร้อมเกาะติดเทรนรายการผู้หญิง ดึง 3 นางสาวไทย นั่งทอล์ค แข่งกับผู้หญิงถึงผู้หญิง พร้อมก้าวเท้าครั้งใหญ่ 1 ก.พ.นี้

การปรับผังรายการใหม่ของไอทีวีครั้งนี้ถือเป็นการสานต่อกลยุทธ์พัฒนาช่วงเวลาออกอากาศ จากก่อนหน้านี้ที่เริ่มต้นด้วยการสร้างเวลานอนไพร์มไทม์(Non-primetime) ในช่วงเที่ยงถึงบ่ายด้วยรายการร่วมมือร่วมใจ ในวันธรรมดา รวมทั้งเอเชี่ยนซีรีส์ในวันเสาร์-อาทิตย์ ให้เป็นที่ยอมรับของแฟนทีวี ต่อจากนั้นจึงได้มีการปรับผังในช่วงซุปเปอร์ไพร์มไทม์(Super-primetime)ด้วยการเพิ่มรายการละครช่วงเย็น รวมถึงรายการวาไรตี้ช่วงหลังข่าวภาคค่ำและฮอตนิวส์ในภาคดึก ส่วนผสมทั้งหมดาทำให้ปัจจุบันภาพโดยรวมไอทีวีมีเรตติ้งและรายได้จากการโฆษณาเพิ่มขึ้นสูงขยับเป็นอันดับ 3 ที่มีรากฐานแข็งแกร่งของสถานีโทรทัศน์ทั้งหมด

ดังนั้น การปรับผังครั้งล่าสุดนี้จึงถือเป็นการเปิดศึกก้าวขึ้นท้าทายมือวางอันดับ1 แชมป์เก่าอย่างช่อง 3 และอดีตแชมป์หลายสมัย อย่างช่อง 7 อย่างชัดเจน

ไอทีวีประกาศใช้คอนเซ็ปต์บิ๊กสเต็ปต์ (Big step)สถานีแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัว มุ่งเน้นเวลาในช่วงไพร์มไทม์ซึ่งเป็นฐานอันแข็งแกร่งของช่อง 3 และ 7 เพื่อที่จะแย่งชิงเรตติ้งผู้ชมกลุ่มครอบครัวซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่มาให้ได้ รายการที่ปรับนี้แยกได้เป็น 4 ส่วนหลักคือรายการวาไรตี้, ละครและซีรีส์, ข่าว รวมถึงรายการสำหรับผู้หญิง

ทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการไอทีวี กล่าวเริ่มต้นเส้นทางบิ๊ก สเต็ปต์ที่ รายการวาไรตี้ซึ่งไอทีวีครองส่วนแบ่งมากเป็นอันดับ 1 อยู่แล้วด้วยส่วนแบ่ง 25.2% จากเม็ดเงินโฆษณา 12,105 ล้านบาทจำนวนเวลาในผังใหม่ครั้งนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากเนื่องจากมีความมั่นคงอยู่แล้ว ดังนั้นจึงหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนารายการที่อยู่ในช่วงละครและซีรีส์มากกว่าเนื่องจากช่อง 3 และช่อง 7 ครองส่วนแบ่งเม็ดเงินโฆษณาในรายการประเภทนี้จากมูลค่า 11,684 ล้านบาท สูงถึง 31.3% และ 51.7% ขณะที่ไอทีวีมีเพียง 6.4% เท่านั้น จึงเกิดการปรับเปลี่ยนเพิ่มเวลาดังกล่าวขึ้น

ละครไทยจากเดิมซึ่งเป็นจุดอ่อนมีเพียงวัยซนคนมหัศจรรย์เท่านั้น แต่ขณะนี้ไอทีวีมีละครมากถึง 5 เรื่อง ส่วนเอเชี่ยนซีรีส์ก็ได้เพิ่มเวลาขึ้นและส่วนหนึ่งย้ายไปอยู่ในช่วงไพร์มไทม์ด้วยทำให้คาดว่าจะมีเรตติ้งสูงขึ้น ถือเป็นการเดินหน้าเพื่อแย่งแชร์กวาดเรตติ้งเพิ่มรายได้จากรายการประเภทละครนี้ซึ่งหากดูจากเม็ดเงินแล้วก็มีการใช้จ่ายโฆษณาจำนวนมากเป็นอันดับ 2 รองจากรายการประเภทวาไรตี้

ขณะที่รายการประเภทข่าวซึ่งมีมูลค่าการใช้จ่ายงบโฆษณามากเป็นอันดับ 3 มูลค่าซึ่งไอทีวีก็ประสบความสำเร็จครองส่วนแบ่งสูงสุดถึง 26.2% แล้วก่อนหน้านี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนเสริมความแข็งแกร่งอีกเล็กน้อยโดยมีการเพิ่ม ฮอตนิวส์ ฮอตวีคเอนด์ (Hot news Hot week end), ข่าวเช้าสุดสัปดาห์ และ พิชิตธุรกิจ เข้ามา ซึ่งเป็นการนำเสนอในรูปแบบคุยข่าวซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชอบเพราะเข้าใจง่ายกว่านอกจากนี้ยังใช้รูปแบบจัดรายการนอกสถานที่เพิ่มสีสัน รวมถึงมีการเน้นนำเสนอตัวผู้ประกาศข่าวมากขึ้นแต่ละคนจะต้องมีความสวยหล่อและสมาร์ทด้วย ผิดจากยุคแรกของไอทีวีเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่เป็นสถานีข่าวจะเน้นที่ความสามารถของผู้ประกาศส่วนมากกว่าหน้าตา

นอกจากนี้ไอทีวียังได้มีการเพิ่มรายการผู้หญิงอย่างรายการ "ร้านชำยามเช้า" ที่มีการนำเอา3 นางสาวไทยมาพูดคุยกัน รวมถึง "เรื่องของผู้หญิง"ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" ของช่อง 3 ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วด้วยเนื่องจากมีกลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้หญิงเป็นแฟนหลักของรายการ

กลยุทธขยายฐานผู้ชมสู่กลุ่มครอบครัวที่ครอบคลุมมากขึ้นเจาะเข้าไปที่ช่วงเวลาไพร์มไทม์ครั้งนี้ถือเป็นการชลั่นกลองบุกครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของผังรายการให้สมบูรณ์มากขึ้นอีกด้วยทัดเทียมผู้นำอย่างช่อง 3 และ 7 โดยจะเน้นไปที่รายการบันเทิงและข่าวซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเม็ดเงินโฆษณารวมทั้งมีฐานผู้ชมสูงสุด โดยทรงศักดิ์ เปรมสุข ประกาศโชว์เริ่มโชว์บิ๊กสเต็ปป์ ของไอทีวี ให้ผู้ชมได้เห็นกันตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์นี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.