"วงการน้ำเมา"ออกโรงโต้ภาครัฐ ชี้ห้ามโฆษณาแก้ปัญหาไม่ตรงจุด


ผู้จัดการรายวัน(18 มกราคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้ประกอบการน้ำเมาระบุ มาตรการลดเวลาโฆษณา-ห้ามโฆษณา 24 ชั่งโมงแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ยันหากผุดมาตรการห้ามโชว์เหมือนบุหรี่สินค้าหนีภาษีทะลัก ส่วนอุตสาหกรรมโฆษณาเจ็บหนักคาดสูญเสียเม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี "เมเจอร์ฯ" เชื่อไม่กระทบรายได้โฆษณาน้ำเมาโรงหนัง ด้าน "ไอทีวี" ชี้โฆษณา

น้ำเมาทางทีวีน้อยติดอันดับรั้งท้าย

นายสมชัย สิทธิกุลพาณิช รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจมาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง เปิดเผยว่า หลังจากที่ภาครัฐมีแนวทางห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โฆษณา 24 ชั่วโมง ซึ่งมาตรการนี้ช่วยลดปริมาณการดื่มได้จริงหรือ จริงๆ แล้วมีวิธีการลดปริมาณการดื่มลงหลากหลายวิธี แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเหมาะสมให้ แก่กลุ่มผู้ดื่มมากกว่าการที่ใช้มาตรการคุมเข้มอย่างเดียว

ส่วนแนวคิดของภาครัฐที่จะห้ามโฆษณาผ่านสื่อทางวิทยุโทรทัศน์เหลือเพียง 3 ชั่งโมง ตั้งแต่เวลา 02.00-05.00 น. จากเดิมสามารถโฆษณาได้ 7 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 22.00-05.00 น. ก็เท่ากับว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้โฆษณาอยู่แล้ว เพราะช่วงเวลาดังกล่าวก็แทบไม่มีใครดู ก็สู้ไม่ต้องให้โฆษณาเลยจะดีกว่า

"เราอยากให้ภาครัฐหันมารณรงค์ด้วยการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคที่ถูกต้องมากกว่าการออกมาประกาศมาตรการบังคับใช้ ส่วนเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามสถานที่ราชการ สถานศึกษา และวัดนั้นบริษัทเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว"

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ประกอบการภายใต้บริษัทไทยเบฟเวอเรจฯ ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐออกมา แต่เชื่อว่ามาตรการ ที่ออกมานอกจากจะกระทบต่อภาพรวมตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ขณะเดียวกันยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมโฆษณาทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้โฆษณาผ่านสื่อในแต่ละปีประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท

นายสมชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า หากภาครัฐมีมาตรการห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งโชว์เหมือนกับบุหรี่ เชื่อว่าจะมีเหล้าหนีภาษีเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น ขณะเดียวกัน ชาวบ้านระดับรากหญ้าก็อาจจะมีการต้มเหล้าเถื่อนกลับมาขายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว การที่สินค้าขายไม่ต้องตั้งโชว์ทำให้เหล้า ที่ขายอยู่ในตลาดไม่มีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าได้จากมาตรการห้ามตั้งโชว์สินค้าของรัฐบาล

บุญรอดฯ-ริชมอนเด้จุกปาก

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอเบียร์ และไทเบียร์ กล่าวว่า รัฐไม่จำเป็นต้องออกมาตรการใหม่เข้ามามากมายหากมีการควบคุมกันอย่างจริงจัง เพราะมาตรการของภาครัฐที่ออกมาควบคุมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีปริมาณมากพออยู่แล้วที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการดื่มได้ตามวัตถุประสงค์

ขณะเดียวกัน นายวรเทพ รางชัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชมอนเด้ (บางกอก) จำกัด เปิดเผยจากการที่ภาครัฐมีแนวคิดที่จะไม่ให้มีการตั้งโชว์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า เป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะอาจทำให้สินค้าหนีภาษีเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งขณะนี้แม้ว่าภาครัฐยังไม่มีมาตรการห้ามตั้งโชว์สินค้า แต่บริษัทก็ได้รับผลกระทบในเรื่องดังกล่าวบ้าง เช่น จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ เรด เลเบิ้ล มีสินค้าลักลอบเข้ามาตามชายแดนภาคใต้ ทำให้ยอดขายหายไป 50% เพราะสินค้าหนีภาษีมีราคา 400 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าถูกต้องตามกฎหมายราคา 580 บาท

"ปัจจุบันมาตรการในการควบคุมการจำหน่ายและโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีอยู่มากพอแล้ว ทั้งนี้ ถ้าหากภาครัฐมีการนำมาตรการบังคับใช้ที่เคยประกาศออกไป ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดเวลาจำหน่าย หรือการห้ามจำหน่ายให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี นำมาปรับบังคับใช้อย่างจริงจัง น่าจะสามารถช่วยแก้ปัญญาได้ดีกว่าการห้ามตั้งโชว์สินค้า"

เมเจอร์ฯยัน AD โรงหนังไม่กระทบ

ด้าน นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ‰ป จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวว่า คงจะไม่กระทบต่อรายได้โฆษณาในโรงหนังของเมเจอร์ฯเท่าใด เพราะสื่อโฆษณาในโรงหนังในตลาดรวมแล้วมีเพียง 2% เท่านั้นจากมูลค่าตลาดโฆษณามากกว่า 80,000 ล้านบาท ส่วนสัดส่วนรายได้โฆษณาจากสื่อในโรงหนังของเมเจอร์ฯ จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีเพียง 2%

นอกจากนี้ผู้ประกอบการบางรายก็ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยที่ไม่ได้โฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่หันมาเน้นการโฆษณาตัวแบรนด์หรือสินค้าอื่น เช่น น้ำดื่มเป็นหลัก เช่น สิงห์ ที่เป็นพันธมิตรกับบริษัท ส่วนไฮเนเก้นนั้นเป็นเพียงการทำเช็กเสียง ไม่ใช้เป็นการโฆษณา ส่วนมาตรการนี้จะออกมาใช้อย่างไรนั้นไม่ขอออกความเห็นมากกว่านี้ ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการที่ดีก็ต้องทำตามกฎระเบียบของสังคมที่ถูกต้องอยู่แล้ว

ไอทีวีชี้เม็ดเงิน AD น้ำเมาไม่ติดฝุ่น

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นว่า มาตรการที่ภาครัฐออกมากระทบต่อไอทีวีบ้างแต่ไม่มาก เพราะปัจจุบันโฆษณาที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีน้อยอยู่แล้ว หลังจากที่ภาครัฐเคยประกาศห้ามโฆษณาก่อน 22.00 น. ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาที่ใช้ในสินค้ากลุ่มนี้มีน้อยลงและอยู่อันดับท้ายๆ โดยเม็ดเงินโฆษณาส่วนใหญ่ลูกค้าจะใช้ไปในกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ โปรดักต์เป็นอันดับ 1 รองมาเป็นกลุ่มอาหาร โทรคมนาคมและงานราชการ เป็นต้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.