|
บลจ.เอ็มเอฟซีปันผลกองทุนMGE ผลตอบแทนย้อนหลัง1ปีพุ่ง14.09%
ผู้จัดการรายวัน(13 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บลจ.เอ็มเอฟซีประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุน MGE หลังโชว์ผลการดำเนินงานออกมาโดดเด่น ย้อนหลัง 1 ปีกว่า 14.09% ขณะที่กองทุนรวมเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) จ่อคิวจ่ายปันผลอีกกองทุน
นางประไพศรี นันทิยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ (MGE) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการลงทุน ได้อนุมัติ จ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิดเอ็มเอฟ ซี โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ สำหรับรอบ ระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548ในอัตรา 0.43 บาทต่อหน่วย และได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในเงิน ปันผลตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 มกราคม 2549 โดยจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2549
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กองทุนเอ็มเอฟซี โกลบอล อิควิตี้ฟันด์ (MGE) ณ วันที่ 6 มกราคม 2549 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,187.12 ล้านบาท จำนวนหน่วยลงทุน 147,277,327.87 หน่วย มูลค่าหน่วย 12.5496 บาทต่อหน่วย
ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน MGE ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2548 มูลค่าหน่วยลงทุน 12.3098 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนิน งานย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 2.02% ย้อนหลัง 6 เดือน 8.24% ย้อนหลัง 9 เดือน 17.06% ย้อนหลัง 1 ปี 14.09% ย้อนหลัง 2 ปี 26.87% และย้อนหลัง 3 ปี 46.68% ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกอง ทุนอยู่ที่ 30.12% ขณะที่เกณฑ์มาตร-ฐานอ้างอิงอยู่ที่ 29.03%
กองทุน MGE จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2545 เป็น กองทุนเปิด มีนโยบายลงทุนในตรา สารแห่งทุนในต่างประเทศ
สำหรับสัดส่วนหลักทรัพย์ที่กอง ทุนลงทุน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิ (% ของ NAV) ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ลงทุนในหุ้น 97.68% เงินฝากธนาคาร P/N และ B/E 5.98%
หลักทรัพย์ 10 อันดับแรกที่กองทุนลงทุน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (% ของ NAV) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิ (% ของ NAV) ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ประกอบด้วย 1. CITIBANK NA 5.95% 2. CITI GROUP INC 2.91% 3. ALTRIA GROUP INC 2.64% 4. BANK OF AMERICA CORP 2.52% 5. ASTRAZENECA PLC 2.27% 6. E.ON AG 2.18% 7. HARTFORD FINL SVCS 2.07% 8. MCKESSON CORPORATION 2.06% 9. ST PAUL COMPANIES 2.04% และ 10. MICROSOFT CORP 2.03%
นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศหยุดขายหน่วยลงทุน กองทุนเปิดเอ็ม เอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) เป็นการชั่วคราว เพื่อจ่ายเงินปันผล สำหรับรอบระยะเวลา วันที่ 4 พฤศจิกายน 2547 - 31 ธันวาคม 2548 โดยปิดสมุดทะเบียนและเริ่มทำการขายหน่วยลงทุนอีกครั้งวันที่ 16 มกราคม 2549
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2548 มูลค่าหน่วยลงทุน 11.1634 บาทต่อหน่วย ผลการดำเนิน งานย้อนหลัง 3 เดือน -1.28% ย้อนหลัง 6.02% ย้อนหลัง 9 เดือน 5.71% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 7.75% และผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 11.63% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอ้างอิงอยู่ที่ 13.62%
กองทุน MV-LTF ณ วันที่ 11 มกราคม 2549 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 239.83 ล้านบาท จำนวนหน่วย 20,066,871.28 หน่วย มูลค่าหน่วย 11.9517 บาท ราคาขาย 11.9518 บาท และราคารับซื้อคืน 11.9218 บาท
ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ลงทุนในหุ้น 86.85% เงินฝากธนาคาร P/N และ B/E 13.31% หลักทรัพย์ 10 อันดับแรกที่กองทุนลงทุน (เรียงจากมูลค่ามากไปหาน้อย) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (% ของ NAV) ณ เดือนพฤศจิกายน 2548 ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) 12.7% 2. UNITED OVERSEAS BANK (THAI)PLC. 10.45% 3. หุ้นสามัญ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) 8.81% 4. หุ้นสามัญ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) (SCC) 8.73% 5. หุ้นสามัญ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) 8.27% 6. หุ้นสามัญ บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) 6.9% 7. หุ้นสามัญ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) 6.04% 8. หุ้นสามัญ บ.ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) 4.8% 9. หุ้นสามัญ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) 3.83% 10. หุ้นสามัญ(TOP)
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|