|
"เนื่องจำนงค์"ทุ่ม400ล.ลุยโรงแรม นำร่องโครงการแคมป์ทัวร์ชลบุรี
ผู้จัดการรายวัน(12 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
กลุ่มทุน "เนื่องจำนงค์" จับทางรัฐบาลโปรโมตท่องเที่ยว-เปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ชักที่ดินเก่าย่านบ้านบึงผุดโครงการที่พักและแหล่งท่องเที่ยวแนวผจญภัย ก๊อบแบบ "โชคชัย แคมป์" หวังรับอานิสงส์นักท่องเที่ยวทะลักเข้าพัทยา-ชลบุรี ระบุยังเป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่งในย่านเดียวกัน ชี้แนวอีโคทัวริสซึ่มเป็นเทรนด์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่กำลังเป็น ที่นิยม เผยแผน 3 ปีแตกไลน์เข้าธุรกิจโรงแรมจับเซกเมนต์ บูติก โฮเตล ทุ่ม 400 ล้านเปิด 4 แห่ง หัวหิน ภูเก็ต ชลบุรี และเขาใหญ่
นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไพร์มเนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้จัดทำแผนธุรกิจ 3 ปีจากนี้ไป โดยจะขยายไลน์ธุรกิจเปิดกิจการโรงแรมที่พัก โดยตั้งงบประมาณที่จะใช้ลงทุนในธุรกิจนี้ราว 300-400 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ทำเฉพาะธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้าน ที่อยู่อาศัยเท่านั้น
ซึ่งจากแผนงานที่วางไว้ ได้เตรียมที่จะนำที่ดินเปล่าซึ่งมีอยู่แล้ว ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี กว่า 2 หมื่นไร่ มาแบ่งพัฒนาเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ภายใต้คอนเซ็ปต์ อีโคทัวริสซึ่ม หรือแนวผจญภัย รูปแบบ จะคล้ายกับโชคชัย แคมป์ ที่ จ.นครราชสีมา โดยจะให้มีกิจกรรมต่างๆ ในแนวผจญภัยเหมือนเดินป่าหรือ ออกแคมป์ให้ลูกค้าที่มาพักได้เลือก ใช้บริการ โดยเฟสแรกคาดว่าจะเริ่ม ดำเนินการได้ภายในปีนี้ใช้พื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ส่วนเงินลงทุนขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการประเมิน
ทั้งนี้ สาเหตุที่เลือกเปิดธุรกิจบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ จ.ชลบุรี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีที่ดินอยู่แล้วซึ่งเป็นของครอบครัวขณะเดียวกัน มองว่าศักยภาพ ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีจะมีเพิ่มมากขึ้น ภายหลังการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิที่จะเริ่มประมาณกลางปีนี้ โดยจะทำให้ ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้สนามบินมากที่สุด ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมงจากสนามบิน
ประกอบกับจากการสำรวจตลาดแหล่งท่องเที่ยวและโรงแรมในพัทยา และ จ.ชลบุรีแล้วพบว่า ยังไม่มีที่พัก หรือแหล่งท่องเที่ยวแนวอีโคทัวริสซึ่มในรูปแบบ แคมปิ้งเลย และการท่องเที่ยวในแนวนี้ก็มีการเติบโตสูง เพราะกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว และคนรุ่นใหม่
"ตรงนี้ถือเป็นโอกาสและ ช่องว่างทางธุรกิจให้เราแทรกตัวเข้าไปอยู่ในธุรกิจนี้ได้อย่างไม่มีคู่แข่งขัน ซึ่งเบื้องต้นที่วางแผนงานไว้จะจับตลาดลูกค้าคนไทยเป็นหลัก ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าทางกา ท่องเที่ยวให้เขาได้เลือกใช้บริการ เพราะเทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนของคนรุ่นใหม่ วัยทำงานก็ ชอบที่จะเดินทางแบบที่มีกิจกรรมผจญภัยอยู่แล้ว การเปิดใช้สนามบิน สุวรรณภูมิจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้ามาที่ จ.ชลบุรี และพัทยามากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการจะต้องเตรียมความพร้อมรับมือ"
นอกจากนั้น ยังเตรียมขึ้นโครงการโรงแรมที่พักในเมือง ท่องเที่ยวอีก 3 แห่งที่ดูทำเลไว้คือ หัวหิน ภูเก็ต และเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา โดยบางโครงการจะพัฒนาเองทั้งหมด เช่น ที่หัวหิน และเขาใหญ่ ส่วนที่ภูเก็ตจะร่วมลงทุนกับเจ้าของที่ดินที่เกาะยาวทำเป็น รีสอร์ต โดยบริษัทจะออกค่าก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนที่หัวหินอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกซื้อที่ดิน ซึ่งขณะนี้มีผู้มาเสนอขายหลายราย แต่จะเน้น ที่ติดทะเล ขนาดประมาณ 10-20 ไร่ ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท สำหรับที่เขาใหญ่กำลังอยู่ระหว่างศึกษา แต่ได้ซื้อที่ดินไว้แล้ว
"คอนเซ็ปต์ของโรงแรม ของไพร์มเนเจอร์ จะเป็นแนวบูติก โฮเตล ขนาดไม่เกิน 50 ห้อง และจะพัฒนาบุคลากรขึ้นมาบริหารเอง ไม่ใช้เชนในการบริหาร เพราะเราเชื่อมั่นในความสามารถและการทำตลาดที่คล่องตัวกว่า และเดี๋ยวนี้ก็มีการทำตลาดแบบบุ๊กกิ้งออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ รวมถึงเครือข่ายอื่นๆ จึงไม่ยากนักที่จะทำตลาด ประกอบกับส่วนหนึ่งของแนวคิดสร้างโรงแรมก็เพราะต้องการทำไว้เพื่อรองรับความต้องการของลูกบ้านในโครงการไพร์มเนเจอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นเจ้าของธุรกิจที่อาจต้องการจัดมิตติ้งส่วนตัวกับแขกสำคัญ หรือพนักงานในองค์กร เราก็จะปิดโรงแรมมาจัดงานให้ได้ทันที"
อย่างไรก็ตาม แผนทั้งหมด ที่กล่าวมาจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 ปีจากนี้ไป ซึ่งเงินลงทุน ส่วนหนึ่งจะเป็นเงินสดของบริษัทเอง โดยเราวางเป้าหมายไว้ว่า เมื่อโรงแรมเปิดดำเนินการครบทั้งหมด จะทำให้มีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า คิดเป็น 30% ของรายได้รวม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|