ดัชมิลล์เทงบ250ล.ดึงคอนมคืน อิงกระแสแลคโตบาซิลลัส-ดันดีไลท์เข้ากรุง


ผู้จัดการรายวัน(12 มกราคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ดัชมิลล์อัดฉีดงบ 250 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเท่าตัวกระตุ้นตลาด หวั่นเศรษฐกิจไม่นิ่งผู้บริโภคหันซดเครื่องดื่มอื่นทดแทน เผยแผนปี 49 ชูสินค้าเรือธงนมเปรี้ยวพร้อมดื่มคัพโยเกิร์ต ล่าสุดปรับการสื่อสารใหม่ ชูแลคโตบาซิลลัสนมเปรี้ยวเกาะกระแสตลาดไปสวย พร้อม เปิดตัวนมเปรี้ยวผสมแลคโตบาซิลลัส "ดีไลท์-เคซีไอ" สิ้นปีแชร์ 28% ไล่บี้เบอร์สองบีทาเก้น ส่วนผลประกอบการตั้งเป้าโต 10% จาก 3,400 ล้านบาท

นายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายนมเปรี้ยวพร้อมดื่มและโยเกิร์ต "ดัชมิลล์"เปิดเผยถึงทิศทางการตลาดในปีนี้ว่า บริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาดถึง 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปีนี้ยังไม่นิ่ง จึงต้อง ใช้งบมากเพื่อกระตุ้นตลาด ขณะเดียวกันโอกาส ที่ผู้บริโภคจะหันไปดื่มเครื่องดื่มอื่นที่มีราคาถูกกว่าทดแทนมีสูง

โดยในปีนี้บริษัทฯจะเน้นการสื่อสารการตลาดด้านฟังก์ชันนัลของสินค้าเป็นหลัก ทั้งการ ทำบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ภายใต้การทำตลาดในเชิงรุก 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบ ด้วยกลุ่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่มและคัพโยเกิร์ต หลังจากปีที่ผ่านมาเน้นทำตลาดเฉพาะคัพ โยเกิร์ตเท่านั้น

ล่าสุดได้ปรับการสื่อสารทางตลาดในกลุ่มนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาแนวคิด "อย่าลืมโยเกิร์ตพร้อมดื่มดัชมิลล์ทุกขวดมีแลคโตบาซิลลัส" เพื่อสร้างการรับรู้ว่านมเปรี้ยวพร้อมดื่มก็มี แลตโตบาซิลลัส สกัดผู้บริโภคหันไปดื่มเครื่อง ดื่มชนิดอื่นทดแทน โดยได้เตรียมจัดโรดโชว์ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพื่อตอกย้ำการสื่อสารในครั้งนี้ภายใต้สาวดัชชี่เกิร์ล 2005 ทั้ง 4 คน พร้อมกันนี้บริษัทฯยังได้สร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคถึงประโยชน์ของแลคโตบาซิลลัสของนมแต่ละชนิดแตกต่างกันภายใต้การใช้งบ 100 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ นมเปรี้ยวผสมจุลินทรีย์ 2 ตัว ได้แก่ ดีไลท์เน้น เจาะช่องทางเทรดิชันนัลเทรดเป็นหลัก และเคซีไอชนิดไขมัน 0% เจาะช่องทางโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทฯเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นเพราะตลาดนมเปรี้ยวผสมจุลินทรีย์เป็นตลาด ใหญ่มูลค่าถึง 3,100 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 33% ของตลาดโยเกิร์ตโดยรวม 9,463 ล้านบาท และเป็นตลาดที่มีการเติบโตต่อเนื่อง

โดยปีที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวและทดลองจำหน่ายในต่างจังหวัดผ่านสาวดีไลท์ 1,000 คน ดีไลท์เติบโต 17% มีส่วนแบ่ง 25% และปีนี้บริษัทฯเริ่มขยายสู่กรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้ส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 27-28% หรือขึ้นมา ไล่เลี่ยกับอันดับสองของตลาด จากปัจจุบันอันดับสอง คือ บีทาเก้น ส่วนผู้นำตลาดคือยาคูลท์ครองส่วนแบ่ง 50%

สำหรับแผนการทำตลาดคัพโยเกิร์ตเน้นจัดแคมเปญ I Love Yoghurt ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม หลังจากในปี 2548 แคมเปญดังกล่าว สามารถกระตุ้นภาพรวมตลาดโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวพร้อมดื่มโตขึ้นกว่า 10% จากมูลค่าตลาด 5,450 ล้านบาท เพิ่มเป็น 6,100 ล้านบาทในปี 2548 สำหรับปีนี้ประเดิมจัดกิจกรรมแรกในวันเด็ก "ดัชมิลล์ โยเกิร์ต พาราไดซ์" ในวันที่ 14-15 ม.ค นี้ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อม ทั้งเตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์เข้าโรงเรียน ระดับประถมทั่วประเทศในปีการศึกษาหน้า รวมทั้งจัดกิจกรรมการประกวดดัชชี่บอย แอนด์ เกิร์ล ปี 2006 ฯลฯ

"ดัชมิลล์เริ่มจัดกิจกรรมสำหรับกลุ่มเด็กๆ มากขึ้น จากที่ผ่านมาเราเน้นจัดกิจกรรม เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลักมาโดยตลอด อย่าง 1ปีที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวนมเปรี้ยวผสม แลคโตบาซิลลัสดีไลท์ ก็ได้จัดกิจกรรมเจาะกลุ่มเด็กประถมศึกษา ทั้งนี้เป็นเพราะเรามีเป้า หมายขยายฐานกลุ่มเป้าหมายลงมาสู่กลุ่มเด็กมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทรุกตลาดอย่างหนักในปีนี้คาดว่าจะผลักดันให้ตลาดนมเปรี้ยว โดยรวม 9,463 ล้านบาทในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตกว่า 10% เมื่อเทียบ กับตลาดนมพร้อมดื่มปีนี้คาดว่าจะโต 4-5"

สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% จากในปีที่ผ่านมากลุ่มดัชมิลล์มีรายได้ 3,400 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโต 12% แบ่งเป็นกลุ่มโยเกิร์ตถ้วยดัชชี่ มีอัตราการเติบโต 15% ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 72% รองลงมาเป็นบีทาเก้น 9% โฟร์โมสต์ 7% จากมูลค่าตลาด 1,610 ล้านบาท กลุ่มนมเปรี้ยวพาสเจอไรซ์ดัชมิลล์โต 3%ในขณะที่สภาพตลาดมูลค่า 2,000 ล้านบาทเติบโตน้อย โดยดัชมิลล์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 33% ซีพีเมจิ 19% ยาคูลท์ 15% ขณะที่ตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มดัชมิลล์มีส่วนแบ่ง 97% เป็นผู้นำตลาด รองลงมาเป็น เมจิ และโยโมสต์มีส่วนแบ่งไล่เลี่ยกัน 5%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.