|
ดอกเบี้ยบ้านคงที่สูญพันธ์
ผู้จัดการรายวัน(9 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
นายแบงก์ ประสานเสียงดอกเบี้ยเงินกู้บ้านคงที่ปีจอสูญพันธ์ กสิกรไทย-กรุงศรีอยุธยา ประกาศปรับดอกเบี้ยเป็นลอยตัว ระบุการแข่งขันยังคงเป็นเรื่องของราคา ที่เปลี่ยนแปลงลูกเล่นลอยตัวพิเศษระยะ 1-3 ปี ลดระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่อเร็วขึ้น เน้นบริการหลังการขาย ดึงพันธมิตรเข้าเสริมเพื่อบริการควบวงจร
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในปี 2549 นี้จะมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเป็นแบบคงที่มาเป็นแบบลอยตัวมากขึ้นเพื่อเป็นการบริหารต้นทุน เนื่องจากการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ส่วนใหญ่ธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งขาดทุน แต่เพื่อการแข่งขันเพื่อจูงใจลูกค้า จำเป็นเป็นต้องออกแคมเปญดังกล่าว และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่จะมีผลขาดทุนมากยิ่งขึ้น
สำหรับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในปีนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งธนาคารได้มีการประกาศปรับยกเลิกอัตราดอกเบี้ยคงที่ไปแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติระยะยาวประมาณ 1-3 % เพื่อเป็นทางเลือกและแรงจูงใจให้กับลูกค้า และปัจจุบันธนาคารยังคงมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ยังใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม ซึ่งจะปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวทันที ดังนั้นต่อไปธนาคารจะยังไม่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์อาจจะออกแคมเปญ สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงทีอีกครั้ง แต่จะเป็นกรณีพิเศษ ทีมีงานมหากรรมบ้านใหญ่ๆ จะออกแคมเปญมาเฉพาะลูกค้าในงาน เพื่อกระตุ้นหรือดึงดูดความสนใจในช่วงนั้นๆ เป็นเพียงแคม เปญระยะสั้นๆ เป็นการตอบแทนบุญคุณ ส่วนลูกค้าทั่วๆไปยังคงจะต้องใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ปกติ
สำหรับการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น คงมีการแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของระดับราคา และอัตราดอกเบี้ย ยังคงเป็นกลยุทธ์หนึ่งของการแข่งขันในปีนี้ ถึงแม้ว่าจะปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวแล้วก็ตาม แต่ยังสามารถปรับลกยุทธ์ เพื่อเป็นลูกเล่นในการแข่งขันได้อีกทางหนึ่ง เช่น การใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ ที่ใช้เอ็มแอลอาร์ลบ ในระยะ 1-3 ปี หลังจากนั้นจะเป็นเอ็มแอลอาร์ตลอดอายุสัญญา ซึ่งถือว่าราคายังคงเป๋นปัจจัยที่ดึงดูดลูกค้า ด้านการอนุมัติสินเชื่อจะต้องแข่งขันเพื่อให้รวดเร็วมากขึ้น ธนาคารแต่ละแห่งต่างแข่งขันการอนุมัติสินเชื่อรวดเร็วตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยทั่วไปลูกค้าต้องการที่จะทราบผลการอนุมัติอย่างน้อย 3-5 วัน ซึ่งธนาคารแห่งใดสามารถอนุมัติสินเชื่อได้เร็วยังแสดงให้เห็นถึงระบบและศักยภาพของธนาคารนั้นๆด้วย
ส่วนของสมนาคุณ หรือของแถมต่างๆนั้น ยังคงเรียกร้องความสนใจให้กับลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งธนาคารกสิกรไทยสามารถทำแล้วสำเร็จในปีที่ผ่านมา เช่น แคมเปญกู้บ้านแถมแจ๋ว รวมทั้งการบริการหลังการขาย ที่ธนาคารพยายามดึงพันธมิตรเข้มมาร่วมสนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ทั้งยังสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เช่น การจัดกิจกรรมให้กับลูกค้าเก่า พบปะสังสรรค์ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยยังคงให้น้ำหนักในการแข่งขันด้านการบริการอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้านราคานั้นธนาคารพยายามที่จะรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ใมนอันดับที่ 2-5 ของระบบธนาคารพาณิชย์ จะไม่เข้าเป็นผู้นำหรือหลุดออกจากระดับ 1ใน5 ของระบบ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ตั้งเป้าที่จะขยายสินเชื่อบ้าน 20,000 ล้านบาทในปี 2549 จากปี 2548 ที่ 22,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเนื่องจากภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์มีการทรงตัวหรือลดลง ทั้งยังคาดว่าสินเชื่อบ้านทั้งระบบจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% จากปี 2548 ที่คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 14% เนื่องจากโครงการต่างๆมีการเข้าจดทะเบียนในการสร้างบ้านลดลง มูลค่า ราคา ก็ลดลง ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านอยู่ในระดับที่ 5 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2-5 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มในปีนี้จะอยู่ที่ คอนโด และทาวเฮาส์ ในปีนี้คาดว่าสินเชื่อบ้านจะไม่โตเท่าปีที่ผ่านมา
**แบงก์กรุงศรีฯ เตรียมยกเลิกดอกเบี้ยคงที่สัปดาห์นี้
นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ธนาคารจะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านใหม่ โดยจะทบทวนอัตราดอกเบี้ยคงที่ เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว
สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้ถึง 20,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 18,000 ล้านบาท หรือเท่ากับ 11 % โดยลูกค้าที่ขอใช้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารนั้นสามารถแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือเป็นลูกค้าจากโครงการจัดสรรที่ธนาคารให้การสนับสนุนซึ่งคิดเป็น 47 % สูงกว่าปี 2547 ถึง 7% และลูกค้าทั่วไปอีก 53% โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่ขอใช้สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารเพื่อเป็นการซื้อบ้านเดี่ยว และรองลงมาก็เป็นทาวน์เฮ้าส์ และห้องชุดพักอาศัยตามลำดับซึ่งเฉลี่ยแล้วลูกค้าจะขอใช้บริการสินเชื่อเคหะของธนาคารรายละประมาณ 1.65 ล้านบาท สำหรับในด้านของสินเชื่อบุคคลธนาคารก็สามารถปล่อยกู้ได้ 1,000 ล้านบาทซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
สำหรับแนวโน้มของสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 2549 ธนาคารคาดว่าทั้งระบบจะมีการเติบโตประมาณ 5-10% เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัวตามการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจ แต่ปัจจัยที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจของผู้ซื้อคืออัตราดอกเบี้ย ซึ่งปีนี้แนวโน้มการปรับตัวของดอกเบี้ยจะไม่รุนแรงมากนัก โดยประมาณการว่าจะมีการปรับขึ้นเพียง 1.5 - 2% และอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่คงจะหมดไป และจะเป็นอัตรากึ่งลอยตัวมาแทนที่ สำหรับทิศทางการแข่งขันนั้นจะเป็นการแข่งขันทางด้านการตลาด บริการ และการเข้าถึงลูกค้ามากกว่าการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|