|

ช้างไปสิงคโปร์ได้2เด้ง ทุนติดท็อป5-หักแม้ว
ผู้จัดการรายวัน(6 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บอร์ด "ไทยเบฟเวอเรจ" ไฟเขียว "ช้าง" เดินหน้าเข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ "เกษมสันต์" ฟุ้งถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มูลค่าติด 1 ใน 5 ด้าน "กิตติรัตน์" บ่นเสียดายก็สายไปแล้ว ยอมรับพลาดท่าสิงคโปร์ แฉเบื้องลึก "เจ้าสัว"เร่งไสช้างไปนอกส่งซิกถึง "แม้ว" เลือกผิดข้าง
นายเกษมสันต์ วีระกุล ผู้อำนวยการสื่อสาร องค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วานนี้( 5 ม.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติการนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าไปจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยจะยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต) ในวันนี้หรือช้าที่สุดในวันจันทร์หน้า
ทั้งนี้ หากสำนักงานก.ล.ต.อนุมัติให้ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์ได้ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะในการพิจารณาแบบรายการแสดงข้อมูล(ไฟลิ่ง) ซึ่งเท่าที่หารือกับประธานตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ระบุว่า หากเข้าจดทะเบียนได้ทันในปีนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่ไฟลิ่งที่ยื่นต่อสำนักงานก.ล.ต.ของไทยบริษัทจะไม่ถอนที่เคยยื่นไว้ ซึ่งไฟลิ่งหมดอายุบริษัท ก็จะยื่นขอต่ออายุต่อไป
สำหรับข้อมูลไฟลิ่งจะเป็นข้อมูลเดียวกับที่ยื่นต่อก.ล.ต.ของไทย โดยระบุว่าบริษัทมีทุนจดทะเบียน 22,000 ล้านบาท และจะเพิ่มทุนเป็น 29,000 ล้านบาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 7,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยจะจัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไปไม่เกิน 6,000 ล้านหุ้น และเพื่อรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินอีกไม่เกิน 1,000 ล้านหุ้น
วัตถุประสงค์ของเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปชำระหนี้เงินกู้ และใช้เป็นเงินหมุนเวียน รวมถึงเป็นเงินทุนในการดำเนินงานทั่วไปเพื่อใช้ในการ ประกอบธุรกิจการลงทุน โดยการถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ
"เราไม่ได้มีความจำเป็นเรื่องเงินที่จะได้จากการระดมทุน ฐานะการเงินของบริษัทถือว่าแข็งแกร่งมาก เราต้องการที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนและให้มีการตรวจสอบการทำงานจากนักลงทุน เพราะหากบริษัท ต้องการเงินทุนเพิ่มเติม การกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งด้วยขนาดของบริษัทไม่ใช่เรื่องที่ยาก" นายเกษมสันต์กล่าว
ฃนายเกษมสันต์ กล่าวอีกว่า หากบริษัทเข้าจด-ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์จะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 5 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์และจะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแอลกอฮอล์ที่ใหญ่ที่สุดจากจำนวน 4 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเรื่องการจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ 2 ประเทศก็ไม่ถือว่าผิดกฎเกณฑ์ แต่อย่างใด ส่วนคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ไทย และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ถือว่ากฎเกณฑ์ที่ได้มีการกำหนดไว้มีความใกล้เคียงกัน
ในส่วนของมูลค่ารวม(มาร์เกตแคป)ของบริษัทจะต้องพิจารณาจากราคาที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นหลัก ถึงจะสามารถคำนวณมาร์ เกตแคปของบริษัทที่แท้จริงได้ โดยคาดว่าจะอยู่ในระดับ 200,000-300,000 ล้านบาท
"เท่าที่ได้มีการพูดคุยกับประธานตลาดหุ้นสิงคโปร์ เชื่อว่านักลงทุนสิงคโปร์มีความสนใจในหุ้นของบริษัทเป็นอย่างมาก"
นายเกษมสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาภายหลังหากบริษัทสามารถเข้าจดทะเบียน 2 ประเทศได้(Dual Listing) ทั้งเรื่องการกำหนดราคาในการซื้อขาย รวมถึงเรื่องการชำระราคาซื้อขายที่ยังต่างกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงของทั้ง 2 ประเทศคง จะต้องมีการหารือเพื่อแก้ไขในเรื่องดังกล่าว ซึ่งปัญหา ดังกล่าวเป็นปัญหาทางเทคนิคที่แก้ไขได้ไม่ยาก
"ช่วงเดือนก.ย. ในปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ของไทยได้บรรลุข้อตกลงกับนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่ผลักดันให้ทั้ง 2 ประเทศมีความร่วมมือกันทางด้านตลาดทุน ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 แห่งสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านกันได้" นายเกษมสันต์กล่าว "โต้ง"ถอดใจพลาดท่าให้ลอดช่อง
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวด้วยท่าทางถอด ถอนใจว่า เป็นที่น่าเสียดาย หากปล่อยให้บริษัทจดทะเบียนของไทยที่มีพื้นฐานทางการเงินดี ๆ ตกไปอยู่ในตลาดสิงคโปร์ ทั้งนี้เป็นเพราะปัญหาทางสังคมไทยที่ไม่สามารถยอมรับ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องมีการแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วย
"วันนี้ต้องดีใจกับสิงคโปร์ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะปล่อยให้บริษัทดี ๆ ไปอยู่ในตลาดต่างประเทศ แทนที่จะสร้างมูลค่าให้ตลาดไทยมากกว่า ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำอะไรเลย เพราะทุกวันนี้ผมยังไม่เคยละความพยายาม ที่จะดึงให้เขากลับมาอยู่กับเรา แต่ก็เป็นปัญหาทางสังคมที่เราต้องแยกออกจากเรื่องธุรกิจ"
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากปัญหาความขัดแย้งการนำเบียร์ช้างเข้าจดทะเบียนใน ตลท. ยุติได้ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน รวมทั้งบรรยากาศการลงทุนก็สดใสขึ้น
"เจ้าสัว" ส่งซิก "แม้ว" เลือกข้างผิด
แม้ในทางตรง สาเหตุที่ตัดสินใจนำเบียร์ช้างไป จดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จะอธิบายเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ต้องการนำบริษัทไปสู่การค้าสากล เพราะหลังจากได้ไปโฆษณาที่หน้าอกทีมเอฟเวอร์ตัน มีคนทั่วโลกซื้อสินค้าของบริษัทมากขึ้น จึงอยากที่จะนำกำไรของฝรั่งเข้ามาเมืองไทยด้วย และต้องการ ทำให้ทั่วโลกได้เห็นว่า บริษัททำทุกอย่างถูกกฎหมาย ถูกกฎระเบียบ อีกทั้งการค้าเสรีที่เร็วขึ้น จะเห็นการเข้ามาของต่างชาติในเมืองไทยแล้วทำให้บริษัทช้าไม่ได้ แต่โดยทางอ้อมหลายฝ่ายก็เชื่อว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของเจ้าพ่อน้ำเมาเป็นสัญญาณที่ส่งไปถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจนที่สุด
"เจ้าสัวเจริญเคยเข้าพบนายกฯเพื่อเคลียร์เรื่องเข้าตลาด หลังจากกระแสต้านที่มีพล.ต.จำลอง ศรีเมืองเป็นหัวหอกแรงขึ้น แต่นายกฯไม่ยอมตัด สินใจให้เด็ดขาดเพราะเกรงใจพล.ต.จำลอง มิหนำซ้ำ ปล่อยให้ สสส.หนุนม็อบต้านอีก ทำให้เจ้าสัวต้องทำ อย่างใดอย่างหนึ่งให้พ.ต.ท.ทักษิณได้เห็นพลังช้างบ้าง"แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กล่าว
ขณะเดียวกัน ก็มีข้อสังเกตต่อไปอีกว่า สัญญาณที่นายเจริญส่งถึงนายกฯนั้นจะพัฒนาไปถึงขั้นสั่นคลอนเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลทักษิณร้ายแรงแค่ไหน เพราะเท่ากับว่า สัญญาใจระหว่างเบียร์ช้างกับพ.ต.ท.ทักษิณถูกสะบั้นไปแล้วเรียบร้อย กระแสรัฐบาลทักษิณขาลงยิ่งเร่งเร็วขึ้น อีกนัยครั้งนี้จึงมีมากกว่าการเดินหนีตลาดไทยเพื่อโกอินเตอร์เท่านั้นหากแต่รัฐบาลมีแต่เสียกับเสียในสายตาต่างชาติ เพราะความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน และ ธุรกิจขนาดใหญ่
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ช่วงที่เบียร์ช้างยังไม่ตัดสินใจเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ทำไมรัฐบาลไม่รีบแก้ไข พอเบียร์ช้างประกาศว่าจะไปสิงคโปร์ นายทนง พิทยะ รมว.คลัง ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจกลับออกมาพูด ว่าเข้าตลาดหุ้นไทยได้จะพิจารณา และยังพูดทำนอง ว่ามีสัญญาใจกับเบียร์ช้างอยู่จึงเชื่อว่าเบียร์ช้างไม่ไปสิงคโปร์ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลพลาดไปมองว่าการระดม ทุนของเบียร์ช้างในไทยไม่ดี แต่ซีกตลาดทุนได้ประโยชน์ สิงคโปร์เขาเปิดกว้างก็ได้ไป
"เข้าตลาดไทยไม่ได้ สุดท้ายแล้วเบียร์ช้างก็ระดมทุนจากที่อื่นได้อยู่ดี แล้วที่สำคัญเบียร์ก็ยังมีขายในเมืองไทยเหมือนเดิม"
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|