|
TKTปรับแผนงานเน้นลดต้นทุน ดันมาร์จิ้นเพิ่มผลงานโตกำไรงาม
ผู้จัดการรายวัน(2 มกราคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
TKT เดินหน้าปรับแผนงาน เน้นลดต้นทุนผลิต หวังดันมาร์จิ้นเพิ่ม เพื่อให้ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องและกำไรงาม เผยขณะนี้ มีงานใหม่ที่อยู่ในระหว่างการเจรจาคาดสรุปได้ ขณะที่สินค้า OEM และ เครื่องใช้ไฟฟ้ายังต้องการใช้ชิ้นส่วนเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเพิ่ม 10-15%
นายจุมพล เตชะไกรศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีกรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (TKT) เปิดเผยแผนงานปี 49 ว่าบริษัทจะปรับแผนการดำเนินงานใหม่ ด้วยการหันมาเน้นลดต้นทุนการผลิตตลอดจนการดำเนินงานของบริษัท ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการปรับปรุงการปฏิบัติงานของพนักงาน โดยการลดต้นทุนโดยรวมของบริษัท เพื่อต้องการให้กรอส มาร์จิ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น
"เดิมกรอสมาร์จิ้นของเรามีต่ำกว่า 20% แต่หลังจากปีหน้าไปเราต้องปรับใหม่ให้ได้เกินกว่า 20% เพราะเราเน้นมาควบคุมต้นทุนการผลิต ซึ่งเราเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่กลางปีนี้แล้ว แต่จะยังไม่เห็นผลชัดเจนนักในปีนี้ ผมเชื่อว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 49"นายจุมพลกล่าว
จากการปรับปรุงระบบการบริหารงานใหม่ และการควบคุมต้นทุน ตลอดจนออเดอร์ที่มีจากลูกค้าเข้ามาอยางต่อเนื่อง ทำให้บริษัทปรับเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้เพิ่มไปที่ระดับ 30-35% เพราะมองว่าธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโตได้และเชื่อว่าปี49 ยังจะเติบโตต่อเนื่อง
TKT จึงตั้งเป้ารายได้ของปี49 เติบโตจากปีนี้เพียง 10-15% เท่านั้น พร้อมกับการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเพิ่มอีก เนื่องจากออเดอร์ที่บริษัทเชื่อว่าน่า จะได้เข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งคาดว่าการเจรจากับลูกค้าน่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งแรกของปีหน้าและบริษัทยังมีกำลังการผลิตที่รองรับได้
อย่างไรก็ตาม หากปีหน้าพบว่าลูกค้ายังมีเข้ามาต่อเนื่อง TKT ต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็นลำดับต่อไป โดยเตรียมทุนไว้ซื้อเครื่องจักรใหม่ที่จะเริ่มผลิตได้ในปี 50 และรองรับออเดอร์ล็อตใหม่ที่จะได้รับมาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อผลการดำเนิน งานของบริษัทด้วย เพราะหลังจากปรับแผนการดำเนินงานใหม่ จะลดต้นทุนผลิตเพื่อดันให้รายได้และกำไรงาม ขณะที่ยอดขายอาจไม่ได้ขยับมากนัก
โดย TKT ยังเชื่อว่ารายได้จากการผลิตพลาสติก OEM เพื่อป้อนลูกค้าบริษัทรถยนต์ก็ยังเติบโตได้ดี จากความต้องการของผู้ผลิตที่มีเข้ามา รวมทั้งชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกรณีที่ต้นทุนค่าวัตถุดิบปรับราคาเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากหากพบว่าราคาวัตถุดิบอย่างพลาสติกที่ปรับตามราคาในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทก็สามารถผลักภาระให้กับลูกค้าได้ โดยปรับขึ้นตามราคาวัตถุดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นแต่ละครั้งเช่นกัน ซึ่งในอนาคตไม่มีปัจจัยเรื่องต้นทุนค่าวัตถุดิบเพิ่มก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
นายจุมพลกล่าวต่อว่า ในระยะเวลาอันใกล้ หากบริษัทลดต้นทุนจนสามารถทำให้กำไรจากการดำเนินงานเติบโตได้ จะเป็นผลดีต่อการจ่ายเงินปันผลของบริษัทด้วย เพราะเมื่อปี47 บริษัทจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 5 สตางค์ และคาดว่าสิ้นปี 48 ยืนยันปีนี้มีจ่ายปันผลต่อเนื่อง แต่มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นสำคัญ
สำหรับ TKT บริษัทเป็นผู้ให้บริการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกด้วยกระบวนการฉีดขึ้นรูปพลาสติก ภายหลังจากการฉีดขึ้นรูปแล้วชิ้นส่วนพลาสติกบางชนิดจะผ่านไปสู่กระบวนการอื่น เช่น การพ่นสี (Spray Painting) การพิมพ์สี (Silk-Screen & Hot Stamping) รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนพลาสติก (Sub Assembly) โดยบริษัทแบ่งสายการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกออกเป็น 3 กลุ่ม ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ และสายการออกแบบ ผลิตและซ่อมแซมแม่พิมพ์สำหรับการฉีดพลาสติกการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ และ การซ่อมแซม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|