ฮอนด้าชี้จยย.โตแค่3% ส่งรถเอทีบุกตลาดต้นปี


ผู้จัดการรายวัน(23 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ฮอนด้าชี้ตลาดรถจักรยานยนต์เจอมรสุมรอบด้าน ส่งผลตลาดปีนี้โตแค่ 3% ยอดขาย แค่ 2.1 ล้านคัน ชี้ปีหน้าหากผลกระทบต่อเนื่องตลาดคงไม่โต เตรียมส่งรถเอทีต้นปีหน้าเสริมตลาดรถเกียร์อัตโนมัติหวังดึงลูกค้า กลุ่มใหม่ พร้อมเพิ่มแอดวานซ์ ชอปครบ 200 แห่งในปีหน้า ระบุยังไม่จำเป็นต้องขยายโรงงานในตอนนี้เพราะกำลังการผลิตยังเพียงพอ

นายโมโตฮิเดะ ซูโดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า เปิดเผยว่า จากผลกระทบทางด้านราคาจำหน่ายน้ำมันที่สูงขึ้น สถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ รวมถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวมปีนี้มีอัตราการเติบโตที่ไม่สูงมากนัก โดยถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รวมทั้งสิ้น 2.1 ล้านคัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น

"ยอดขายรถจักรยานยนต์โดยรวมในปีนี้ไม่ค่อยมีอัตราการเติบโตมากนัก เนื่องจากสภาวะตลาดในปีนี้ประสบกับปัญหารอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องของน้ำท่วมที่ปีนี้เกิดเหตุหลายพื้นที่ของประเทศ ไทย ซึ่งมีผลกระทบต่อตลาดรถจักรยานยนต์โดยตรง และทำให้ตลาดชะลอตัวลงไปมาก แต่ถึงอย่างไรเมื่อดูจากยอดขายโดยรวมแล้วก็ยังคงเป็นที่พอใจเพราะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น"

และถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป บริษัทคาดว่ายอดจำหน่ายของรถจักร-ยานยนต์ในประเทศไทยจะไม่เติบโตขึ้นสูงกว่าปีนี้แน่นอน โดยน่าจะมียอดจำหน่ายไม่เกิน 2.1-2.25 ล้านคันเท่านั้น หากจะมีอัตราการเติบโตก็น่าจะไม่เกิน 7% โดยฮอนด้ามีเป้าหมายที่ยอดจำหน่ายในปีหน้ารวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านคัน และคิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้นจากยอดจำหน่ายที่ทำได้ในปีนี้ที่ 1.43 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วน 5% แม้จะเป็นสัดส่วนการเติบโตที่น้อยแต่หากเปรียบเทียบการการเติบโตของตลาดโดยรวมแล้วก็ถือได้ว่าเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ
สำหรับแผนงานในปีหน้านั้น ฮอนด้าจะทำ การเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ เกียร์อัตโนมัติ หรือรถในกลุ่มเอที ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ทางบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดรถเกียร์อัตโนมัติ กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมานั้นทางฮอนด้าเองก็ยังไม่เคยทำตลาดรถประเภทนี้ จึงเตรียมที่จะเปิดตลาดรถในเซกเมนต์ใหม่ เพื่อเข้ามาเสริมไลน์สินค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้า กลุ่มใหม่ โดยจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางในวันที่ 12 มกราคม 2549 ที่จะถึงนี้ และบริษัทเชื่อ ว่าเมื่อฮอนด้าเข้ามาทำตลาดรถกลุ่มนี้อย่างจริงจัง จะทำให้รถในกลุ่มเอทีขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่ารถในกลุ่มเอทีนี้จะมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 30% จากตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวมในปีหน้า

โดยในปีนี้สัดส่วนของตลาดอยู่ที่ประมาณ 15-20% เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มของรถครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในตลาด ปัจจุบันเริ่มหันมาใช้รถเกียร์อัตโนมัติกันมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบายมากกว่า จึงเชื่อว่าตลาดรถกลุ่มเอทีนี้จะต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน นอกจากนี้ฮอนด้ายังมีแผนในการพัฒนาเครือข่าย การจำหน่ายและยกระดับร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า CSI Shop สู่ร้าน Advanced CSI Shop ภายใต้แนวคิดของการบริการที่สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับ โดยขณะนี้มีศูนย์ดังกล่าวอยู่แล้ว 50 แห่ง โดยในปีหน้าไตรมาสแรกจะทำให้ครบ 100 แห่ง และครบ 200 แห่งภายในสิ้นปีหน้า

สำหรับการส่งออกรถจักรยานยนต์ของฮอนด้าในปีนี้ บริษัทมียอดส่งออกรถสำเร็จรูปทั้งสิ้น 3.5 หมื่นคัน และชิ้นส่วนเพื่อประกอบอีก กว่า 4 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1.5 หมื่นล้านบาท โดยในปีหน้าคาดว่าจะมีการส่งออก รถสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 หมื่นคัน เนื่องจากมีรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะส่งออกเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของการขยายโรงงานเพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด เนื่อง จากกำลังการผลิตที่มีอยู่ 1.5 ล้านคันสามารถรองรับการผลิตจริงได้มากขึ้นอีก 10% หรือกว่า 1.65 ล้านคัน ซึ่งหากดูความต้องการของปี 2549 ที่ฮอนด้าจะมีการผลิตรถในโรงงานแห่งนี้ทั้งสิ้นราว 1.548 ล้านคันแล้ว ก็ยังพอกับความต้องการ อยู่ แต่หากไม่เพียงพอทางบริษัทก็มีความพร้อม ที่จะขยายไลน์การผลิตเพื่อรองรับความต้องการ ของตลาด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.