นักลงทุนดักซื้อหุ้นปิดงบดันดัชนีขึ้น ตลาดฯศึกษาแก้ราคาหุ้นน้องใหม่ต่ำจอง


ผู้จัดการรายวัน(21 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลท.ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาหุ้นต่ำกว่าจอง ดูตัวอย่างเกาหลีใต้เปิดทางให้เจ้าของรับซื้อหุ้นคืนนอกตลาด แต่ยังไม่สรุปเหตุมีหลายแนวทาง ที่ศึกษาอยู่ ส่วน "เอ็มเอไอ แมชชิ่ง ฟันด์" หวังดึงเวนเจอร์แคปฯเข้าร่วมสร้างความแข็งแกร่ง ให้ผู้ประกอบการ ด้านภาวะตลาดหุ้นนักลงทุนแห่ซื้อดักทำราคาปิดงบท้ายปี ดันดัชนีขึ้น 7.40%

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณี ของหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายหลายบริษัทปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจองว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหลายแนวทาง โดยหนึ่งในแนวทางที่กำลังศึกษา คือ ที่ตลาดหุ้นของประเทศเกาหลีใต้พบว่าได้อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของบริษัทแสดงความมั่นใจว่า หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจองก็สามารถรับซื้อคืนหุ้นได้แต่เป็นการแยกออกมาซื้อนอกตลาด ซึ่งแนวทางนี้อาจจะมีผลกระทบในแง่ของฟรีโฟลตที่จะน้อยลงนั้นก็จะต้องหาแนวทางแก้ไขที่จะเหมาะสมกับตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนและเป็นแนวทางหนึ่งจากหลายๆ แนวทางที่กำลังศึกษาเบื้องต้น
ก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำระบบกรีนชู ออปชัน ซึ่งเป็นแนวทางของตลาดหุ้นต่างประเทศมาใช้แล้วเช่นกัน ซึ่งหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากจะมีการนำกรีนชูออปชัน มาใช้เพื่อสร้างเสถียรภาพของราคาหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่

นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรที่จะให้ความสำคัญกับราคาวันแรกที่หุ้นเข้ามาซื้อขายแต่ควรที่จะพิจารณาในระยะยาว ซึ่งการที่ราคาหุ้นจะมีทิศทางเป็นอย่างไรนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายว่า มีการจัดสรรหุ้นอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพราะจะมีการจัดสรรให้กับนักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันเพราะเชื่อว่าก็ยังมีนักลงทุนสถาบันบางส่วนที่มีความ ต้องการซื้อและมีจุดประสงค์เพื่อถือหุ้นในระยะยาว

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนเอ็มเอไอ แมชชิ่งฟันด์ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะดึงกองทุนร่วมทุน(เวนเจอร์แคปปิตอล)เข้าถือหุ้นในบริษัทที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและมีศักยภาพการเติบโตใน อนาคต อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้กองทุนร่วมทุนในประเทศไทยยังมีไม่มากนักดังนั้นจึงต้องสร้างกลไกที่จะสร้างกองทุนร่วมทุนดังกล่าวให้มีมากขึ้นโดยหวังว่าภาครัฐบาลจะให้การส่งเสริม

ทั้งนี้ นโยบายการลงทุนของ กองทุนเอ็มเอไอ แมชชิ่ง ฟันด์นั้นจะมีการกำหนดระยะเวลาการเข้าถือหุ้นประมาณ 5-7 ปี และจะกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นไว้ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดใน รายละเอียดซึ่งในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุนคงจะได้รับไม่มากนัก เพราะจุดประสงค์ของกองทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการเพื่อ ที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai)ในอนาคต

ด้านภาวะการลงทุนในตลาด หลักทรัพย์วานนี้(20 ธ.ค.) ดัชนีผันผวนตลอดทั้งวัน โดยในช่วงท้ายตลาดมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ เพื่อเก็งกำไรก่อนการปิดงบการเงินงวดปี 48 ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 698.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.40 จุด หรือ 1.07% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัน ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 690.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,085.90 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 649.29 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 99.53 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 549.76 ล้านบาท

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทีเอสอีซี จำกัด กล่าวถึงการปรับขึ้นของราคาหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากนักลงทุนดักซื้อก่อนที่บริษัทจดทะเบียน(บจ.)จะต้องเข้ามาทำราคาแต่งงบบัญชี (Window Dressing) ก่อนช่วงปิดเทศกาล คริสต์มาสและปีใหม่

ทั้งนี้ แรงซื้อที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง โดย บล.ทีเอสอีซี ยังแนะนำให้ลงทุนหากดัชนียังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 700 จุด ในกลุ่มธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ เป็นต้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มเก็งกำไรบางบริษัทยังลงทุนในช่วงที่มีข่าวเข้ามา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.