|
Q3บจ.ลงทุนได้ผลตอบแทนไม่คุ้ม
ผู้จัดการรายวัน(20 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลท.สรุปผลประกอบการ บจ.ไตรมาส 3/48 พบกำไรก่อนหักภาษี ( EBITDA ) พลังงาน-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น ส่วน สื่อสาร-วัสดุก่อสร้าง กำไรลดลงหลังการก่อสร้างภาครัฐลดลง การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัว 142.2% ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของกลุ่มทรัพยากร แต่พบประสิทธิภาพการใช้ทุนของ บจ.โดยรวมลดลง
รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแจ้ง ว่า ตลาดหลักทรัพย์สรุปตัวเลข ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/48 ซึ่งพบว่าสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจมหภาค บริษัทจดทะเบียนมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นการ ลงทุนของบริษัทในกลุ่มทรัพยากรเป็นหลัก
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ปี 2548 สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัว 5.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 อยู่ที่ 4.6% โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือการเพิ่มขึ้นของการผลิตปิโตรเลียมและการผลิตของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ และอาหารทะเลแปรรูป โดยสาขาที่มีการผลิตชะลอลงมาก ได้แก่ สาขาก่อสร้างขยายตัว 2.9% ลดลงจากปี 2547 ที่มีอัตราการขยายตัวสูงถึง 9.6% และการค้าปลีก ก็มีอัตราการเติบโตที่ลดลงจาก 3% เหลือ 2.8%
ฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้วิเคราะห์ผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ปี 2548 เพื่อเผยแพร่ให้นักวิเคราะห์และผู้ที่ใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ภาวะในภาคเศรษฐกิจจริง พบว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลัก-ทรัพย์ฯ (ไม่รวมภาคการเงิน) มี EBITDA เพิ่มขึ้น 22.4% ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับการขยายตัวของการผลิตในระดับมหภาค
ทั้งนี้ หมวดที่มี EBITDA เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่มีการผลิตขยายตัวในระดับเศรษฐกิจมหภาค ได้แก่ หมวดพลังงานและหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยกเว้นหมวดยานยนต์ที่บริษัทจดทะเบียนมี EBITDA ชะลอลงจากเดิมที่ขยายตัว 34% ในปี 2547 เหลือ 25.2% ในปี 2548 สำหรับหมวดที่มี EBITDA ลดลง ได้แก่ หมวดสื่อสาร และ หมวดวัสดุก่อสร้าง ซึ่งสอดคล้องกับการก่อสร้างภาครัฐที่ลดลง
ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวได้ดี โดยเพิ่มขึ้นถึง 142.2% เทียบกับการลงทุนภาคเอกชนในระดับเศรษฐกิจมหภาคที่ขยายตัวในอัตรา 11.5% อย่างไรก็ตาม การลงทุนของบริษัทจดทะเบียนมาจากกลุ่มผู้ผลิตปิโตรเลียม เป็นส่วนใหญ่ ส่วนหมวดผลิตภัณฑ์กระดาษ หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดยานยนต์ มีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการใช้กำลังการผลิตที่อยู่ในระดับสูง ยกเว้นกลุ่มชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ที่การลงทุนลดลงแต่เป็นผลมาจากการขยายการลงทุนตั้งแต่กลางปี 2547
แม้หมวดธุรกิจข้างต้นจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นมาก แต่หากพิจารณาที่ประสิทธิภาพของการ ใช้ทุน (ROCE หรือ Return on Capital Employed) พบว่ามีเพียงหมวดธุรกิจปิโตรเลียม และหมวดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นที่ประสิทธิภาพการใช้ทุนเพิ่มขึ้น ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ มีประสิทธิภาพการใช้ทุนลดลง ทำให้โดยรวมแล้วบริษัทจดทะเบียนมีประสิทธิภาพการใช้ทุนลดลง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|