|
แอลจีชิงธงแอร์เชิงพาณิชย์ ทุ่ม400ล.ดันไทยศูนย์ผลิตเซาท์อีสต์เอเชีย
ผู้จัดการรายวัน(20 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"แอลจี"ประกาศกร้าวปีจอ เปิดสมรภูมิรบทุกเซกเมนต์ ทุ่มงบลงทุน 400 ล้าน บาท โดดลงตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ปีหน้าเปิดตัว 26 รุ่น ขอ 2 ปีแจ้งเกิดเต็มตัว พร้อมชูไทยเป็นศูนย์การผลิตเซาท์อีสต์เอเชีย ส่วนปีหน้าเน้นสินค้าเรือธง "แอลจี อาร์ท คูล อินเวอร์เตอร์" ชูจุดขายด้านดีไซน์ สุขภาพ ดูดแชร์ คู่แข่ง ตั้งเป้ากวาดยอดขาย 1.8 แสนเครื่อง โต 80%
นายซี เค ชอย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศแอลจี เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดเครื่องปรับอากาศ แอลจีในปีหน้านี้ วางไว้ภายใต้คอนเซ็ปต์ "แอร์ คอนดิชันเนอร์ โซลูชั่น" มุ่งเจาะตลาดเครื่องปรับอากาศทุกเซกเมนต์ ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศครัวเรือนหรืออาคารขนาดย่อม, เครื่อง ปรับอากาศติดผนัง
โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เป็นเซกเมนต์ที่บริษัทฯจะเริ่มรุกตลาดมากขึ้น ซึ่งได้เตรียมงบลงทุน 200 ล้านบาท ผลิตคอมเพรสเซอร์ และเพิ่มไลน์การผลิตแอร์เชิงพาณิชย์ 3 แสนยูนิตต่อปี หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทฯได้ใช้งบ 200 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงงานที่จังหวัด ระยอง โดยปัจจุบันโรงงานแอลจีมีกำลังการผลิตมากกว่า 2 ล้านยูนิตต่อปี และผลิตชิ้นส่วน 3 ล้านชิ้นต่อปี
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้แอลจีก็ทำตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ แต่เป็นการนำเข้าสินค้าจาก ประเทศเกาหลีทั้งหมด จึงต้องเสียภาษีนำเข้าถึง 50% ทำให้บริษัทฯไม่สามารถเปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัว จึงตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานในไทย โดยขณะนี้ได้เตรียมการผลิต 99% แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้วางเป้าหมาย ให้ไทยเป็นศูนย์การผลิตเครื่องปรับอากาศ เชิงพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในปีหน้าวางไว้ 1.5 ล้านเครื่อง แบ่ง เป็นส่งออก 90% และภายในประเทศ 10% โดยล่าสุดบริษัทฯได้พัฒนารูปแบบการขายเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ในประเทศเวียดนาม และอินโด นีเซีย
แผนการตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในไทย ปีหน้าบริษัทฯเตรียมเปิดตัวมาก กว่า 26 รุ่น โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนเป็นหลัก ในช่วงแรกจะเริ่มสร้างตลาดไปเรื่อยๆ ผ่านช่องทางนักวางแบบ และดีลเลอร์เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจากับดีลเลอร์บางรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบริษัทฯไม่ได้คาดหวังในเรื่องของยอดขายในช่วงแรก แต่เน้นการเสริมสร้างฐานการผลิต และบุคลากรให้มีความแข็งแกร่ง จากนั้นปี 2550 บริษัทฯจะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจัง โดยปัจจุบันผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ คือ เทรน, แคร์เรีย และยอร์กตามลำดับ
แนวโน้มตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ในปีหน้านี้มีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ 25% โดยปัจจุบันตัวเลขในเชิงปริมาณมีถึง 2.2 แสนยูนิต และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 2.7 แสนยูนิต ขณะที่สภาพตลาดเครื่องปรับอากาศภายในบ้านหรือติดผนังในเชิงปริมาณ 6.5 แสนยูนิต ยังคงมีอัตราการเติบโต 30% เนื่องจากอัตราการถือครองเครื่อง ปรับอากาศต่อครัวเรือน 11% ต่อจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศ ถือว่ายังเป็นตลาดที่มีพื้นที่ว่างอีกมาก อย่างไรก็ตาม ปีหน้ามองว่าปัจจัยลบตลาดเครื่องปรับอากาศยังคงขึ้นอยู่กับผลพวงด้านราคาน้ำมันและภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก
นายซี เค ชอย กล่าวต่อถึงแผนการตลาดเครื่องปรับอากาศติดผนังว่า จะเปิดตัว 23 รุ่น โดยเน้นจุดขายที่การดีไซน์ในรุ่น แอลจี อาร์ท คูล อินเวอร์เตอร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ เบสต์ ออฟ ฟอร์ม แอนด์ ฟังก์ชัน รวมทั้งจุดขายเทคโนโลยีนีโอ พลาสมา พลัส ระบบฟอกอากาศลิขสิทธิ์เฉพาะ ของ แอลจี ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับกระแสสุขภาพที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ แอลจียังเน้นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และจากนี้ไปจะไม่เน้นกลยุทธ์ราคา แต่จะเน้นการเป็นผู้เชี่ยวชาญการติดตั้ง
สำหรับรายได้ในปีหน้านี้ บริษัทฯตั้งเป้าเครื่อง ปรับอากาศติดผนัง 1.8 แสนยูนิต หรือมีอัตราการเติบโต 80% เมื่อเทียบกับปีนี้มียอดขาย 1 แสนยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท โต 50% จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,200 ล้านบาท โดยปัจจุบันแอลจีเป็นอันดับสองไล่เลี่ยกับ พานาโซนิค มีส่วนแบ่ง 16% ส่วนผู้นำตลาดมิตซูบิชิ ครองส่วนแบ่ง 23-25% ขณะที่รายได้รวมปีนี้ใน ช่วง 11 เดือน มียอดขายถึง 90% และคาดว่าสิ้นปี จะมีรายได้ 12,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้
"ปัจจัยที่ทำให้แอลจีประสบความสำเร็จเครื่องปรับอากาศ มาจากการปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯให้ความสำคัญกับการผลิตแอร์เชิงพาณิชย์มากขึ้น การพัฒนาจุดขายเครื่องปรับอากาศระดับไฮเอนด์ แอลจี อาร์ท คูล แอร์ แกเลอรี ซึ่งขณะนี้ได้เปิดบริการ 4 แห่ง และมีแผนจะเปิดให้ครบ 70 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ"นายซี เค ชอย กล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|