พาณิชย์เล็งคุมทองคำ สกัดเก็งกำไรลดขาดดุล


ผู้จัดการรายวัน(16 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ชง "สมคิด" บรรจุทองคำเป็นสินค้าควบคุม หลังพบราคาจำหน่ายในประเทศเวอร์เกินจริง แถมยังมีการกักตุน เผยหาก เป็นสินค้าควบคุมแล้ว ใครนำเข้า ขายให้ใคร เก็บสต๊อกไว้เท่าใด ต้อง แจ้งทางการหมด ทำให้รู้เส้นทางเดินของทองคำได้ พร้อมขอความร่วมมือสรรพากรเก็บภาษีรายได้ คนเก็งกำไรทองคำ เผย 10 เดือนแรกปีนี้ ไทยนำเข้าทองคำเพิ่ม 94%

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรมศุลกากร กรมสรรพากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) กรมการค้าภายใน เพื่อหามาตรการดูแลการนำเข้าและการเก็งกำไรทองคำ วานนี้ (15 ธ.ค.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติที่จะเสนอ ให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาให้นำสินค้าทองคำบรรจุเป็นสินค้าควบคุม เพื่อป้องกันการกักตุนและการเก็งกำไร

"ขณะนี้มีการนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นมาก และยังได้รับรายงานว่ามีการกักตุน และมีการเก็งกำไรทองคำ เพราะแม้ว่าราคาทองคำในตลาด โลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ราคาทองคำของไทยกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น มากกว่า แสดงว่ามีการเก็งกำไรเกิดขึ้น รัฐจึงต้องเข้าไปดูแล"
ทั้งนี้ การเสนอเป็นสินค้าควบคุมจะทำให้ ภาครัฐสามารถกำหนดมาตรการที่จะนำเข้ามาใช้ในการดูแลได้ เช่น การกำหนดให้ต้องแจ้งให้ทางการทราบหากมีการนำเข้าทองคำ การขายทองคำ ซึ่งจะต้องแจ้งว่ามีปริมาณนำเข้าและขายไปปริมาณเท่าใด ขายไปให้ใคร ซึ่งจะมีการกำหนดปริมาณเอาไว้ว่าถ้าขายให้ใครเกินไปกว่าที่รัฐกำหนดจะต้องแจ้ง การให้ แจ้งราคาจำหน่ายในแต่ละวัน รวมไปถึงการให้แจ้งปริมาณสต๊อกที่เก็บไว้ เพื่อให้ภาครัฐสามารถติดตาม เส้นทางของทองคำได้

นางนันทวัลย์กล่าวว่า ยังได้มีการหารือถึงกฎหมายที่แต่ละกระทรวงดูแลอยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทองคำว่ามีอะไรบ้าง และแต่ละหน่วยงานจะมีมาตรการอะไรออกมาใช้จัดการกับการเก็งกำไรทองคำในขณะนี้ โดยพบว่าในส่วนของกรมสรรพากร ขณะนี้ไม่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั้งในส่วนของการซื้อและขาย และไม่มีการเก็บภาษีรายได้จากการเก็งกำไรทองคำ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าใครมีกำไรจากการเก็งราคาทองคำบ้าง แต่ต่อไปจะรู้ หากทองคำเป็นสินค้าควบคุม เพราะจะรู้ได้ว่าทองคำมีเส้นทางเดินทางยังใครบ้าง โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการค้าล็อตใหญ่ นอกจากนี้ มาตรการดูแลราคาทองคำ สคบ. แจ้งว่า สามารถดูแลได้ในเรื่องของการปิดป้ายแสดง ราคา ซึ่งหากพบว่าร้านค้าปิดป้ายราคาซื้อหรือขายไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ก็สามารถที่จะเข้าไปดำเนินการได้

ส่วนในเรื่องที่ราคาทองคำที่ปรับขึ้นลงเป็นรายวันนั้น ที่ประชุมได้หารือกันอย่างกว้างขวาง แต่คงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะราคากำหนด โดยสมาคมการค้าทองคำ นอกจากการเอาผิดกรณีที่ปิดป้ายแสดงราคาแล้วไม่ซื้อขายตามราคานั้นเท่านั้น

"ขณะนี้ แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกกำลังเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายในประเทศกลับเพิ่มขึ้นมาก กว่าราคาตลาดโลก ดังนั้นจึงต้องมีใครได้ประโยชน์จากกำไรส่วนเกิน แต่คงทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นราคาที่กำหนดโดยสมาคมการค้าทองคำ และเชื่อว่า สมาคมคงไม่ประกาศราคาเกินกว่าราคาตลาดโลกมากจนต้องกำหนดมาตรการออกมาจัดการ" นางนันทวัลย์กล่าว

สำหรับปริมาณการนำเข้าทองคำในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) นำเข้าแล้ว 126.79 ตัน เพิ่มขึ้น 94% มูลค่า 1,740.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการนำเข้าจากออสเตรเลียมากที่สุด ขณะที่การ นำเข้าในปี 2547 ทั้งปีนำเข้า 90.27 ตัน มูลค่า 1,146 ล้านเหรียญสหรัฐ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.