|
สวนสนุกถอดใจ คนไทยหมดอารมณ์กรี๊ด!
ผู้จัดการรายสัปดาห์(19 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ปลายปีนี้สวนสนุกไม่ได้สาดแสง ส่งเสียงยึดเมืองกรุงเหมือนปลายปีกลาย สวนสนุกอิมพอร์ท หมดโอกาสวาดลวยลาย หลังผู้จัดถอดใจ "ตี๋ แม็ทชิ่ง" ขออานิสงฆ์บอลโลก มาปลุก UK Fun Fair ปลายปีหน้า ฮาวคัม เดินตาม เก็บ Amazing Fun Park ลงกล่อง ส่งผลเจ้าถิ่น "ดรีมเวิลด์" ฉวยโอกาสพักรบ ควัก 30 ล้าน ปรับโฉมรอรับมือ ชี้ไม่หวั่นคู่แข่งเพราะมีแต่จะทำให้ตลาดเติบโต แต่ห่วงสารพัดโรคภัยที่ถาถม ฉุดนักท่องเที่ยวไทย-เทศหนีหาย
ย้อนกลับไปเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา เมื่อสายฝนลาจากฟากฟ้า ระหว่างที่ทุกคนรอคอยช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานสัปดาห์สุดท้ายของปี จู่ ๆ คนกรุงเทพฯ กลับกลายเป็นประชากรกลุ่มแรก ๆ ในโลกที่ได้เฉลิมฉลองความสนุกสนานส่งท้ายปีก่อนใคร เมื่อ 2 ผู้ประกอบการสวนสนุกระดับโลก UK Fun Fair และ Amazing Fun Park ได้รับการว่าจ้างจากเอกชนคนไทยให้มาเปิดบริการในเมืองกรุง ส่งให้กรุงเทพฯ ในตลอดเดือนธันวาคม 2547 จนถึงมกราคมของปี 2548 กลายเป็นเมืองแห่งสวนสนุกของโลกไปโดยปริยาย
ความแปลกใหม่ของการให้บริการสวนสนุก ที่คนไทยเคยรู้จักเพียงแค่สวนสนุกระดับรากหญ้า หรือที่เรียกกันว่า งานวัด กับสวนสนุกมาตรฐานไทย ๆ อย่าง ดรีมเวิลด์ หรือสวนสยาม ได้มาพบสวนสนุกมาตรฐานอินเตอร์ แต่ตั้งอยู่บนพื้นที่ข้างวัด อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศแสงสีเสียง ที่วัยรุ่นไทยในสมัยนี้น้อยคนนักจะได้พบเจอ เนื่องจากครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ Amazing Fun Park มาเปิดบริการในเมืองไทยก็ร่วม 10 ปีมาแล้ว สร้างกระแสสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสังคม ทั้งเด็กเล็ก เด็กใหญ่ วัยรุ่น วัยดึก ใครยังไม่เคยไปเล่นถือว่า เอ้าท์
แต่กระแสที่ลามไปถึงผู้บริหารสวนสนุกเจ้าของพื้นที่อย่าง ดรีมเวิลด์ และสวนสยาม กลับต้องนั่งเครียดอยู่พักใหญ่ ที่เกิดคู่แข่งขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนที่คลื่นยักษ์สึนามิ จะพัดพาความเศร้าหมองปกคลุมไปทั่วฟ้าเมืองไทย ส่งผลกระทบต่อไปถึงผู้ให้บริการสวนสนุกทุกรายเครียดกันถ้วนหน้า
เมื่อ UK Fun Fair และ Amazing Fun Park แพ็คของกลับไป บทลงท้าย ผู้จัดงานทั้ง แมทชิ่ง เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และฮาวคัม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ 2 บริษัทรุ่นใหม่กลับไม่เอ็นเทอร์เทนดังชื่อ เมื่อพบว่าผลประกอบการสวนสนุกเฉพาะกิจนี้ ขาดทุนยับเยิน
สวนสนุกขาจรกลัว ๆ กล้า ๆ
มาถึงปีนี้ "ตี๋ แม็ทชิ่ง" สมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทแม็ทชิ่ง จึงไม่เสี่ยงที่จะขาดทุนเป็นปีที่ 2 ชิงประกาศตัวเป็นรายแรกที่จะยกเลิกการเปิดสวนสนุก UK Fun Fair ทั้งที่นอนกอดสัญญา 3 ปีอยู่กับตัว ให้เหตุผลว่าผู้บริโภคไม่มีความมั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน คงไม่มีอารมณ์จะมาเที่ยวสวนสนุก โดยจะขอยกงบประมาณที่ตั้งไว้ทั้งหมดไปจัดในปลายปีหน้า ส่วนพื้นที่จัดงานบริเวณเมืองทองธานี คาดว่าจะใช้เป็นการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปี 2006 แทน
เหตุที่ตี๋ มองการณ์ไกลว่าปีหน้าจะเป็นโอกาสที่แม็ทชิ่งจะแก้ตัวหากำไรจากการทำธุรกิจสวนสนุก ก็ด้วยความเชื่อมั่นส่วนตัวตามประสาแฟนฟุตบอลตัวยงว่า มหกรรมฟุตบอลโลก 2006 จะเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นการจับจ่ายของคนไทยที่อั้นไว้ตลอดปีนี้ให้ระเบิดออกมาได้เป็นอย่างดี และตลอดปี
"UK Fun Fair จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในปลายปี 2549" ตี๋ แม็ทชิ่ง กล่าว แม้ตี๋ แม็ทชิ่ง จะใช้ความรู้สึกส่วนตัว ในการให้ความหวังในการรุกธุรกิจสวนสนุกอีกครั้งในปลายปีหน้า แต่ด้านฮาวคัม กลับไม่มีทิศทางใด ๆ ว่าจะรุกต่อหรือถอดใจลา
กรณีเฉพาะหน้าที่ว่า ปลายปีนี้ทำไม Amazing Fun Park ไม่กลับมาสร้างสีสันให้กับกรุงเทพฯ เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงของฮาวคัม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เล่าให้ฟังว่า บริษัทใช้มติในการตัดสินใจเรื่องนี้ โดยได้มีการยกหูโทรศัพท์คุยกับแม็ทชิ่ง เห็นตรงกันว่าไม่จัด จึงไม่จัดด้วยกันทั้งคู่เป็นกรณีศึกษาทางการตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจสวนสนุกหน้าใหม่ ที่ฟังดูสนุก ๆ
สวนสนุกเจ้าถิ่นไม่หวั่นใครมา-ใครไป
ด้านเจ้าถิ่น ดรีมเวิลด์ สวนสนุกสายเลือดแดนเนรมิต ที่ฉลองอายุ 10 ขวบเมื่อปีที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์ทางธุรกิจที่ตึงเครียดตั้งแต่ต้นปี ข้ามไปถึงอีกปี
อำพล สุทธิเพียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อะมิวเม้นท์ ครีเอชั่น จำกัด ผู้บริหารสวนสนุกดรีมเวิลด์ กล่าวยอมรับว่า สวนสนุกเคลื่อนที่จากต่างประเทศดึงลูกค้าไปจากดรีมเวิลด์บ้าง แต่มองในภาพรวมแล้ว กลับถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่าที่สวนสนุกเหล่านี้เกิดขึ้น
"ผมว่ามันเป็นสีสัน ทำให้ตลาดคึกคักขึ้น สร้างพฤติกรรมการเที่ยวสวนสนุกให้กับคนไทยได้คุ้นเคยมากยิ่งขึ้น และจุดสำคัญ คนที่เข้าไปเที่ยวสวนสนุกจากต่างประเทศเหล่านี้ จะได้รู้กันเสียทีว่า การเข้าไปเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์ที่เคยบอกว่าแพง จริงๆ แล้วถูกกว่าสวนสนุกเหล่านี้เยอะ"
อำพล ยังกล่าวถึงฮ่องกง ดีสนีย์แลนด์ ที่มีหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่าจะเป็นตัวแย่งชิงนักท่องเที่ยวจากดรีมเวิลด์ว่า กระแสของฮ่องกง ดีสนีย์แลนด์จะเป็นส่วนที่กระตุ้นให้ธุรกิจสวนสนุกคึกคักเช่นเดียวกัน เพราะตนไม่เชื่อว่าลูกค้าของดรีมเวิลด์ซึ่งเป็นชาวไทยกว่า 70% จะเปลี่ยนใจหันไปเที่ยวฮ่องกง ดีสนีย์แลนด์ ที่อยู่กันคนละระดับ ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวต่างกันลิบลับ ส่วนลูกค้าต่างประเทศ ราว 30% ก็เชื่อว่าจะฮือฮาอยู่ 3 เดือนแรก แล้วก็จะกลับสู่ภาวะปกติ
แต่สำหรับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อดรีมเวิลด์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กลับกลายโรคภัยไข้เจ็บที่ผ่านเข้ามาในประเทศไทย ไข้หวัดนก ไข้หวัดมรณะ หรือโรคซาร์ และส่งท้ายปลายปี 2548 ด้วยคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ละกรณีดูจะมีผลกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวของดรีมเวิลด์ให้ลดลงมากบ้าง น้อยบ้างในแต่ละช่วงที่เกิดแต่ละปัญหา
ต้นทุนการบริหารที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมัน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ดรีมเวิลด์ต้องปรับราคาค่าเข้าชมจาก 290 บาท เป็น 330 บาท
ทั้งหมดส่งผลให้การคาดหวังจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวดรีมเวิลด์ ต้องประมาณการการเติบโตลดลงจากปีก่อน ๆ
จำนวนนักท่องเที่ยวของดรีมเวิลด์ ขยายตัวถึง 10% ในช่วงสิ้นปี 2547 ซึ่งแม้จะเป็นปีที่เกิดทั้งโรคภัยไข้เจ็บ คู่แข่งเข้าสู่ตลาด และภัยพิบัติปลายปี แต่ด้วยกิจกรรมฉลองครบรอบ 10 ปี ที่มีการดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีการขยายตัวสูง
มาถึงปีนี้ตัวเลขผู้เข้ามาใช้บริการดรีมเวิลด์ มีราว 2.1 ล้านคน เติบโตขึ้นจากปี 2547 เพียง 5% แสดงถึงพิษภัยของปัญหาต่าง ๆ ยังลามมาถึง และตัวเลข 2.1 ล้านคนนี้ ก็เป็นตัวเลขที่ผู้บริหาร ดรีมเวิลด์ พึงพอใจที่จะรักษาไว้ในปีหน้า โดยไม่คาดหวังว่าจะต้องเติบโตขึ้นแต่อย่างใด
แผนงานของดรีมเวิลด์ในปีหน้า อำพล สุทธิเพียร จะใช้งบลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อหันกลับมาปรับโฉมกันจริงจัง หลังจากใช้งานสถานที่แห่งนี้มากว่า 10 ปี แต่จะไม่มีการซื้อเครื่องเล่นใหม่
"จริง ๆ แล้วดรีมเวิลด์มีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ทุก ๆ สัปดาห์จะมีการทำวิจัยหาความต้องการของผู้ใช้บริการ เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุง อาทิ การปรับสถานที่ให้เย็นขึ้น โดยการใช้พัดลมปรับอากาศรอบสวนสนุก แต่สิ่งที่จะปรับปรุงในปีหน้า จะเป็นภาพรวมของสวนสนุก สิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคทั้งหมดจะต้องดีขึ้น ที่จอดรถ ปรับปรุงร้านอาหาร ขยายเวทีการแสดง จัดแลนด์สเคปภายในสวนสนุกใหม่ โดยเฉพาะสวนดอกไม้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ถ่ายภาพอย่างเต็มที่ ปรับการแสดง สร้างบรรยากาศโดยรวมของสวนสนุกให้สดใสขึ้น"
ปัจจุบันดรีมเวิลด์มีเครื่องเล่นทั้งหมด 26 ชนิด และจะเพิ่มเครื่องเล่นใหม่ราวทุก ๆ 3 ปี แต่อำพลก็ยืนยันว่า ไม่มีความเป็นห่วงแม้สวนสนุกนำเข้าจะมีเครื่องเล่นสูงนับ 100 ชนิด เพราะเครื่องเล่นของดรีมเวิลด์เองก็มีหลายชนิดที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ อาทิ เมืองหิมะ หรือเครื่องเล่นแกรนด์แคนยอน หาเล่นที่ไหนไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแม่เหล็กตัวสำคัญที่ดึงดูดให้คนเข้ามาเที่ยวดรีมเวิลด์ กลับกลายเป็นการแสดง ว่ากันว่า โชว์ที่แสดงอยู่ในสยามนิรมิต ขายบัตรรอบละหลายพันบาท มีต้นกำเนิดมาจากการโชว์ภายในสวนสนุกดรีมเวิลด์นี่เอง
อำพล ตั้งใจจะสร้างโชว์ดี ๆ ที่จะเป็นตัวดึงดูดผู้ใหญ่ในครอบครัวที่พาเด็กมาเล่นเครื่องเล่น ได้รับความเพลิดเพลิน และพยายามบรรจุการแสดงพิเศษชุดต่าง ๆ ที่เคยจัดไว้ในช่วงเทศกาล หรือวันหยุด ให้มีการแสดงทุกวัน เพื่อสร้างทัศนคติในการเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์ใหม่ว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของครอบครับ ที่สามารถเที่ยววันไหนก็จะได้รับความบันเทิงเท่ากัน ไม่จำเป็นต้องรอวันหยุดเทศกาล โดยช่วงเทศกาลปลายปี คริสต์มาส และปีใหม่ ทุกวันตลอดเดือนธันวาคม 2548 - มกราคม 2549 ก็จะมีการแสดงแสงสี
Dream...Light...Magic ชุดใหญ่ตระการตา
อำพล สุทธิเพียร ยังฝากมุมมองในธุรกิจสวนสนุกว่า เป็นธุรกิจที่ไม่น่าสนุกเท่าไรนัก ดรีมเวิลด์ที่ลงทุนแรกเริ่ม 1,500 ล้านบาท และมีการลงทุนต่อมาเรื่อย ๆ กว่าจะถึงจุดคืนทุนได้ต้องรอถึงปีที่ 7 แต่อย่าคิดว่าเมื่อผ่านปีที่ 7 แล้ว ผู้บริหารดรีมเวิลด์จะนั่งกอบโกยกำไร
"ธุรกิจสวนสนุกเป็นธุรกิจที่ลงทุนไม่รู้จบ รายได้ที่เข้ามาก็ต้องกลับเป็นเงินทุนในการพัฒนาสวนสนุกอยู่ตลอดเวลา ปรับปรุงสถานที่ ซื้อเครื่องเล่นใหม่ ๆ จะเห็นศูนย์การค้าหลาย ๆ แห่งที่เคยใช้สวนสนุกเป็นจุดขายเมื่อหลายปีก่อน ถึงเวลานี้ปิดตัวกันไปเกือบหมดแล้ว"
จึงถือเป็นเรื่องปกติที่ธุรกิจนี้จะเปิดตัวด้วยความหวือหวา สร้างสีสันให้กับสังคมสุด ๆ แล้วก็ถอยฉาก วูบหายไป เป็นเรื่องของสวนสนุกที่สร้างแค่ความสนุกในใจของผู้ประกอบการ แต่หาความสนุกจากผลประกอบการไม่ค่อยได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|