|
สาวลึกปมทุจริตช่อง 5 ผลประโยชน์ตกในกระเป๋าใคร!?
ผู้จัดการรายสัปดาห์(19 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
-จับเข่าคุย ผอ.ททบ.5 คนล่าสุด ถึงที่มา-ที่ไป และแนวทางแก้ปมร้อนๆที่เกิดขึ้น
-เหตุผลลึกการดันคนไม่เคยดูรายการช่อง 5 มาบริหารสถานีท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงสุดๆ
-เรื่องวุ่นที่เกิดขึ้นมาจากทุจริตจริงหรือ ใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์นั้น
-อะไร ทำให้ผู้ประกอบการต้องหลั่งน้ำตาเมื่อทำงานกับทหาร
เป็นเรื่องแปลกของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ยุคพล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะกรรมการบริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ที่มอบหมายพล.ท. วุฒิชัย พรพิบูลย์ เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการททบ. 5 คนใหม่หมาดๆ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา แทนพล.ท. มีชัย ห้องริ้ว ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปีเดียวกัน และเพิ่งมีผลไปเมื่อ 2 ธันวาคม 2548
แม้หนังสือแต่งตั้งโยกย้ายผอ.ททบ.5 จะระบุถึงเหตุผลในการย้ายว่า เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของประธานบอร์ด โดยเฉพาะการพิจารณาผังรายการที่ได้ให้นโยบายไปเกิดความล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนด ซึ่งเดิมจะต้องให้เสร็จภายในวันที่ 23 พ.ย.2548 แต่ได้เลื่อนมาถึงวันที่ 28 พ.ย. 2548 ซึ่งไม่สามารถทำให้ผังรายการของททบ.5 ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม ...นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมถึงการวิ่งเต้นของบริษัทที่จะเข้ามาทำรายการใน ททบ.5 ซึ่งถือว่าส่อไปในทางทุจริตไม่เป็นไปตามนโยบาย รวมถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายการอย่างชัดเจนในสัดส่วน 60 ต่อ 40 ถือว่าเป็นการขัดนโยบายของประธานบอร์ด จึงต้องย้ายออจากตำแหน่ง...
ขณะเดียวกันสื่อหลายฉบับได้ตีพิมพ์เบื้องหน้า เบื้องหลังการกระเด้งของ ผอ.ช่อง 5 คนเดิมไปต่างๆนานาว่า เป็นเพราะไม่ยอมสนองตอบผังรายการที่บริษัทเอกชนต้องการ ถึงกับมีการวิ่งเต้นคนในรัฐบาล และกองทัพ ให้ปลดพล.ท.มีชัย เพื่อต้องการเวลาใหม่เพิ่ม และดึงรายการที่เคยถูกถอดออกไปแล้วกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังจากเปลี่ยนแปลงแล้วทำให้บริษัทดังกล่าวได้ผังรายการเพิ่มขึ้นทันที และนั่นเป็นที่มาของกระแสความไม่พอใจของบรรดาผู้ประกอบการ จนต้องเดินทางเพื่อไปเรียกร้องให้ทบทวนผังรายการดังกล่าวใหม่
กระนั้น เรื่องที่น่าแปลก และน่าสนใจยิ่งกว่า ความอลวนในการปรับผังรายการก็คือ การได้มาซึ่งผอ.ททบ.5 คนใหม่ ผู้ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาความไม่โปร่งใส ตลอดจนความไม่ชอบมาพากลต่างๆให้ลุล่วงลงไปได้ และจะเป็นความหวังใหม่ในการนำททบ. 5 ให้สามารถแข่งขันกับสถานีช่องอื่นๆ ทั้งที่เป็นฟรีทีวี เปย์ทีวี ตลอดจนการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่อย่างบรอดแบนด์ทีวี รวมถึงแซทเทิลไลท์ทีวี
ก่อนที่พล.ท. วุฒิชัย จะเข้ามารับตำแหน่งในททบ.5 นั้น ผบ.ทบ ได้มอบนโยบายให้กับผอ.ททบ. 5 คนใหม่ล่าสุด คือ ทำให้โปร่งใส และทำให้เป็น 30:30:40 (ข่าว 30% บันเทิง 30% และสาระอื่นๆ 40%) ไม่เน้นกำไร เน้นคืนตอบให้กับสังคม โดยหลักการคือเพิ่มสาระให้มากขึ้น และที่เน้นมากในเรื่องของข่าวต้องให้ดี อย่าให้ตามหลังช่องอื่น
พล.ท. วุฒิชัย คงมีอะไรดี มิเช่นนั้นคงไม่ถูก พล.อ. สนธิ เลือกมาช่วยงานในองค์ที่กำลังเต็มไปด้วยข่าวอื้อฉาว ท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรงของสถานีโทรทัศน์ เพื่อแย่งชิงเรตติ้ง และเม็ดเงินโฆษณาที่กำลังหดตัวลงไป อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลง เหตุที่เลือกคงไม่เกี่ยวกับการที่ ผอ.ททบ.5 คนใหม่ ที่ใครต่อใครเรียกว่า “บิ๊กผา” มีความสนิทสนมกับพลเอกสนธิ เนื่องจากเรียน วปรอ.รุ่น 4212 ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน นอนด้วยกัน พักด้วยกัน และอายุเกษียณก็พร้อมกันในปี 2550 (ไทยโพสต์ 3 ธันวาคม) เพราะหากดูประวัติการทำงานของท่านแล้ว ก็เหมือนกับผอ.ททบ.5 หลายต่อหลายคนในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ไม่เคยสัมผัสกับงานสื่อมวลชนมาก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก และน่าอัศจรรย์ใจแต่ประการใด
“อยู่ที่ใจท่าน (พล.อ.สนธิ) แล้วผมก็ไม่ได้ไปถามด้วย (ว่าทำไมให้มาดูททบ.5) ทหารไม่ถามกัน พิจารณาแล้วว่าเป็นผมก็คือผม ผมก็รับคำสั่งมาเพื่อทำงานให้ดีที่สุดเท่านั้น ...เรียนตรงๆผมดูช่อง 5 น้อยมาก ทีวีผมจะไปดูยูบีซี หรือข่าวจะไปดูซีเอ็นเอ็น เพราะข่าวชัดเจน รวดเร็วทันใจ” เป็นคำกล่าวของ พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ผอ.ททบ.5 คนใหม่
Surprise…Surprise และ Surprise
บางคนอาจจะอุทานเช่นนี้ เมื่อรู้ว่าผู้ที่จะมากุมบังเหียนช่อง 5 คนล่าสุดต้องใช้เวลาในการศึกษางาน ซึ่งเชื่อว่าคงจะไม่น้อยสำหรับองค์กรใหญ่เช่นนี้ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุมเร้า และรุนแรงเช่นทุกวันนี้ ....ซึ่งจุดนี้เองที่กลายเป็นปมปัญหาใหญ่ของช่อง 5 มาตลอดเวลา เพราะทำให้นโยบายการทำงานไม่ต่อเนื่อง เมื่อเปลี่ยนผบ.ทบ.ครั้งใด ก็ต้องเปลี่ยนผอ.ททบ.5 ครั้งนั้น ความเป็นมาและเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยาวนานเช่นนี้ ทำให้ ททบ.5 ต้องตกอยู่ในสภาพที่ยากจะแข่งขันกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆได้
พล.ท. วุฒิชัย บอกว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีความรู้เรื่องราวของททบ. 5 และดูรายการของช่อง 5 น้อยมาก แต่นับจากนี้จะดู และศึกษาให้มากขึ้น รวมถึงศึกษาบรรดาสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ ด้วย เพื่อจะได้สามารถวิเคราะห์ และรู้เรื่องราวความเป็นไปของวงการ
“ตอนนี้ต้องขอเวลาศึกษานิดนึง ผมอยากจะปรับปรุงในทุกด้าน ที่นี่มี 14 ฝ่ายเยอะมาก มีเรื่องเยอะแยะ เรื่องมหาศาล เรื่องเก่าด้วย จึงต้องมีคนมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรกันดี แต่ต้องขอลงไปที่หน่วยก่อน เพื่อขอรับทราบปัญหาว่าช้าเพราะอะไร ขัดข้องเพราะอะไร อยากได้อะไรที่จะเสริมเข้ามาให้เหมาะสม และพอควรแล้วมาลงมือกัน” ผอ.ททบ.5 อธิบาย
เมื่อศึกษาแล้วแนวทางการนำเสนอรายการทั้งข่าว สาระ และบันเทิงของช่อง 5 จะเปลี่ยนแปลงไปมาก-น้อยอย่างไร คงต้องจับตารออีกสักระยะ แต่สิ่งหนึ่งที่ผอ.ช่อง 5 ปรารถนาจะให้การนำเสนอข่าวในสถานีของตนก้าวไปสู่คือ การเป็นสถานีข่าวแบบซีเอ็นเอ็น หรือบีบีซี ที่ติดตามชมมานานนม ชนิดที่ผู้ประกาศข่าวจากที่เคยสาวและสาวมาเป็นสาวสูงวัย จนถึงวันนั้นคงเป็นเรื่องแปลกและฮือฮาของวงการอีกรอบ เมื่อข่าวของช่อง 5 พลิกขึ้นมาเป็นผู้นำในสถานีข่าว
สมาพันธ์คนทีวีมึนพฤติกรรม ผอ.สถานี
“30 ปีที่อยู่มากับช่อง 5 ปีนี้เป็นปีที่เสียใจที่สุด เสียความรู้สึกที่สุด”
น้ำเสียงแห่งความผิดหวัง ท้อแท้ ของหญิงแกร่งในวงการโทรทัศน์ จำนรรค์ ศิริตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอสแอล จำกัด ภายหลังสวมหัวโขน นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ นำคณะสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ป้อนสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ผ่าน พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบกคนใหม่ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบกระบวนการจัดผังรายการที่มีความไม่ชอบมาพากลส่อเค้าในทางทุจริต เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา
แต่ยังไม่ทันที่หนังสือร้องขอความเป็นธรรมจะส่งไปถึงมือผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.วุฒิชัยผู้อำนวยการ ช่อง 5 ที่เพิ่งรับตำแหน่งเพียง 5 วัน กลับให้คำตอบต่อคณะสมาชิกสมาพันธ์ฯ ที่เข้าพบว่า “ผมมีหน้าที่ลงนามเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่มาจัดผัง”
ลอยตัวจากตัวการวางผังรายการร้อน ๆ ไปเป็นคนแรก
และในที่สุดผังรายการประจำปี 2549 ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวงประชุมนั้น ท่ามกลางความงุนงงของนายกสมาพันธ์ฯ และคณะ ที่เข้าพบเพื่อขอให้ตรวจสอบ หวังชะลอการประกาศผัง แต่กลับได้รับผังรายการใหม่ติดมือกลับบ้านเป็นของฝาก ก่อนกำหนดการประกาศผังที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ท.ท.บ.5 ได้เคยแจ้งว่าจะแถลงต่อสื่อมวลชนในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม ถึง 2 วัน
เป็นที่มาของเรื่องวุ่น ๆ ระหว่างผู้ผลิตรายการ กับสถานีโทรทัศน์ ท.ท.บ. 5 ที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการปรับผังรายการ
โดยครั้งล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน 2547 จำนรรค์ ศิริตัน ในฐานะนายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เคยเดินเคียงคู่ ยุวดี บุญครอง ผู้บริหาร มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ดำเนินบทบาทเรียกร้องขอความเป็นธรรมในลักษณะเดียวกันนี้ มีประเด็นหลักเป็นกระแสทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ นายกรัฐมนตรีโดดลงมาร่วมวงให้ความเห็น ด้วยเหตุที่รายการโทรทัศน์น้ำดี ที่นี่...ประเทศไทย ถูกถอดออกจากช่อง 5 ชนิดไม่มีใครคาดคิด
เกิดประโยคทองจากผู้โดนกระทำในเวลานั้น ยุวดี บุญครอง ซึ่งมีเนื้อหาใจความคล้ายกับประโยคทองของจำนรรค์ในปีนี้ว่า “20 ปีที่อยู่ในวงการ ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตที่ถูกกระทำแบบนี้” พร้อมตั้งข้อหาว่า ช่อง 5 กำลังถูกครอบงำจากบริษัทที่ไม่ใช่มืออาชีพ แต่ต้องการหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน จำนรรค์ ศิริตัน ยืนยันว่า เป็นเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ทำให้ช่อง 5 ได้รับฉายา แดนสนธยา มาจากช่อง 9 มาใช้เป็นการถาวร
จำนรรค์ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า เกิดข่าวลือว่ามีผู้ผลิตรายการบางรายนำเวลาโฆษณารายการของตนที่อยู่ในผังรายการใหม่ของช่อง 5 ออกขาย ทั้งที่ช่อง 5 ยังไม่ได้ประกาศผัง แต่ยังคิดว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของผู้อำนวยการสถานีคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งมากกว่า
แต่เมื่อเห็นผังรายการที่ผู้อำนวยการสถานีคนใหม่แจกจ่ายให้ ก็ยอมรับว่า ข่าวลือลือจากข่าวจริง ผู้อำนวยการสถานีคนก่อน พล.ท.มีชัย ห้องริ้ว เคยกล่าวไว้กับจำนรรค์ ภายหลังจากพ้นตำแหน่งว่า ปวดหัวกับการจัดผังรายการอย่างมาก ที่มีกระแสจากหลากหลายทิศทางเข้ามาชี้นำ ทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา จิ้มเลือกว่าจะเอารายการตรงนี้ เอาตรงนั้น จนตนในฐานะผู้อำนวยการสถานีกลับไม่มีโอกาสได้จัดผังเอง
ลอยตัวจากปัญหาผู้วางผังรายการฉาวไปอีกคน!
จำนรรค์ตั้งข้อสังเกต ประเด็นของความไม่ชอบมาพากลส่อเค้าทางทุจริตของผังรายการใหม่ช่อง 5 คือ การเกิดผู้จัดรายการหน้าใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการผลิตรายการจากที่ใดมาก่อน ได้รับการจัดสรรเวลาหลายช่วง บีบให้ผู้จัดรายการเดิมต้องหลุดผังไปโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
“ผู้ที่เข้ามาใหม่ ๆ แทบไม่รู้จักรายการในสถานี ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละรายการที่ออนแอร์หน้าตาเป็นอย่างไร ไม่รู้จักผู้จัด ไม่เคยเห็นผลงาน ตอนนี้นโยบายของผู้บัญชาการทหารบก บอกว่าอยากให้ทำรายการที่มีสาระประโยชน์ คนที่เข้ามาใหม่ก็เสนอรายการที่เป็นสาระประโยชน์ทั้งสิ้น แต่ไม่รู้ฝีมือ”
แต่หากพิจารณาจากผังรายการใหม่ กลับพบว่า แท้จริงแล้ว ผู้จัดรายการหน้าใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์และได้รับการจัดสรรเวลาหลายช่วง น่าจะเป็น บริษัท อาร์.ที.เอ.โปรดักชั่นแอนด์ เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ในเครือช่อง 5 โดยมีชื่อรายการที่อยู่ในผังใหม่เน้นหนักไปในด้านสาระ อาทิ มองไทยรายวัน, ร้อยใจไทยใต้ร่มเย็น, ห้าแยกแจกข่าว, และสามัคคี 4 เหล่าทัพ ฯลฯ
พิจารณาจากจุดนี้ก็น่าจะพอเข้าใจได้ หากการปรับผังรายการครั้งนี้ ช่อง 5 จะเก็บเวลาส่วนหนึ่งไว้เพื่อให้บริษัทผู้ผลิตรายการของสถานีเอง ผลิตรายการด้านสาระ ข่าวสาร และรายการที่จะช่วยสนับสนุนภาพพจน์อันดีให้กับกองทัพ
จำนรรค์ก็ไม่น่าจะต้องออกมาเรียกร้องอะไร
หันไปดูหน้าใหม่รายย่อยอื่น ๆ ที่เข้ามาจับจองเวลา จะว่าใหม่ถอดด้ามก็มองไม่เห็นใคร แม็กซิม่า เจ้าของรายการสถานีสนามเป้า ก็หน้าเก่าที่เคยมีผลงานมาแล้วที่ช่อง 3 รายย่อย ๆ ลักษณะนี้อาจมีรายย่อยอื่น ๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักอีกสัก 1-2 ราย ได้รับเวลาเจียดไปเจ้าละ 1 รายการ ก็ไม่น่าที่สมาพันธ์ฯ จะมาร้องเรียนคนทำมาหากิน หรืออย่างรายการ น้าติงมาแล้ว บอกแค่นี้ก็เดากันได้ทั่วเมืองว่า เป็นรายการมวยปล้ำ กีฬายอดฮิตบนเคเบิลทีวี ที่มีสุวัฒน์ กลิ่นเกษร หรือน้าติง ผู้บรรยายมวยปล้ำมือ 1 ของไทย เป็นเจ้าของรายการ
ยิ่งทำให้ข้อมูลสนับสนุน ข้อกล่าวหา ผังรายการส่อเค้าทุจริต มีน้ำหนักเบาราวปุยนุ่น
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
ถ้าจะบอกว่าสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ยกเรื่องการทุจริตบนผังรายการของช่อง 5 มาร้องเรียนแบบเลื่อนลอย ชูประเด็นข่าวลือการเร่ขายโฆษณาล่วงหน้าก่อนการประกาศผัง แต่เมื่อลงรายละเอียดนายกสมาพันธ์กลับไปกล่าวถึงผู้จัดหน้าใหม่ ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ายึดผังช่อง 5 หาไม่เจอว่าหมายถึงใคร ก็คงไม่ถูกนัก
จำนรรค์ ไม่เคยบอกตรง ๆ ว่าใครเร่ขายโฆษณา เพราะด้วยบทบาทนายกสมาพันธ์ของผู้ประกอบอาชีพผลิตรายการโทรทัศน์ค้ำยันเอาไว้ จะไปพูดจายัดข้อหาใครก็คงไม่สวยนัก ทั้งที่รู้ทั้งรู้กันทั่วทั้งตลาด ก็บริษัทหัวแถวในสมาพันธ์นั่นแหละที่สร้างพฤติกรรม “เร่ขายของก่อนมีของขาย ”
ยืนยันความเลอะเทอะของผลประโยชน์ส่วนตัวในเขตทหารที่กันกินภาพพจน์สถานีโทรทัศน์กองทัพบกแห่งนี้ ให้เป็นสถานีโทรทัศน์ฉาวโฉ่ได้ทุกครั้งที่มีการปรับผังรายการ
เผยเหตุผลการร้องเรียนของสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่แท้จริงว่า ผังรายการที่มีความไม่ชอบมาพากล ส่อเค้าในทางทุจริต ต้นทางของเรื่องไม่ใช่ใครที่ไหน ก็บริษัทที่เคยจับมือกันสร้างสมาพันธ์ เคยกอดคอกันร้องหาความเป็นธรรม
วรรณี รัตนพล กรรมการผู้จัดการ อินิทิเอทีฟ บริษัทซื้อสื่อโฆษณารายใหญ่ของประเทศ ยืนยันปรากฎการณ์ใหม่ของพฤติกรรมล้าหลัง ที่เกิดขึ้นภายในเขตรั้วทหาร เนื่องจาก อินิทิเอทีฟก็ได้รับการติดต่อจากทางด้านการตลาดของทั้ง 2 บริษัทผู้ผลิตรายการยักษ์ใหญ่ ก่อนที่ทางช่อง 5 จะประกาศใช้ผังรายการใหม่อย่างเป็นทางการเช่นกัน รายหนึ่งเสนอขายโฆษณาในรายการที่แจ้งว่าได้รับจัดสรรใหม่จากช่อง 5 ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของเวลาในผังเดิมก็เข้ามาเสนอขายรายการช่วงเวลาเดียวกันให้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าวิ่งกันเข้ามาทั้ง 2 ฝ่าย แต่หลังจากได้รับการเสนอมาแล้วบริษัทเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจแต่อย่างใด เพราะก่อนจะวางแผนซื้อสื่อโฆษณาในรายการใดเราต้องรอจนกระทั่งทางช่องประกาศผังรายการอย่างเป็นทางการเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยดูปัจจัยอย่างอื่นประกอบ
แหล่งข่าวในวงการโทรทัศน์ ชี้ให้เห็นปัจจัยการจะอยู่ หรือไปของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่ฝากชีวิตไว้กับสถานีโทรทัศน์ทหารแห่งนี้ว่า คุณภาพของรายการไม่ใช่ปัจจัยหลัก หากแต่การจับติดขั้วอำนาจทางการทหารได้ถูกฝั่งมากกว่า จะเป็นดัชนีชี้วัดว่าจะได้อยู่อย่างปลอดภัย หรือต้องจรลีไปหาสถานีใหม่ รอวันเปลี่ยนขั้วอำนาจของกองทัพ เพื่อย้อนกลับมาอีกครั้ง
มีเดีย ออฟ มีเดียส์ เจ้าของรายการที่นี่...ประเทศไทย เป็นเจ้าเก่าที่เคยครวญครางด้วยความเจ็บปวดก่อนถูกไล่ส่งออกจากช่อง 5 เมื่อปี 2547 การแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ และการปรับเปลี่ยนผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ที่ผ่านมา ลงตัวกับบารมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่คุ้มครอง มีเดีย ออฟ มีเดียส์ อยู่ แม้จะมีปัญหาภาระหนี้สินที่มีอยู่กับช่อง 5 กว่า 100 ล้านบาท แต่ก็ยังสามารถผลักดัน บ้านเลขที่ 5 และเวทีไท มาแจ้งเกิดในผังใหม่ได้อีกครั้ง โดยไม่หวั่นว่าจะมาสร้างหนี้เพิ่ม
อาร์เอสโปรโมชั่น หนึ่งในสมาชิกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ที่มีรายชื่อว่าจะเข้าร่วมร้องเรียนให้มีการตรวจสอบผังเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ตีชิ่งหนีออกจากขบวน เป็นอีกบริษัทที่ถูกจับตามองว่า มีสายสัมพันธ์อันดีกับกองทัพหลายยุคหลายสมัย กำลังภายในในการเขี่ย ที่นี่...ประเทศไทย ให้หลุดจากผังเมื่อปีที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาได้ระดับหนึ่งแล้วแต่อาจยังไม่ได้มากไปกว่า การเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ที่มีรายการอยู่ในผังใหม่ของช่อง 5 มากที่สุด 16 รายการ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พึ่งพิงของอาร์เอส เข้ากับผู้ใหญ่ของกองทัพได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย
ด้านจำนรรค์ ศิริตัน ที่สวมหมวกอีกใบ คือ ผู้บริหาร เจเอสแอล ที่เคยผลิตรายการพลิกล็อค ยุทธการขยับเหงือก และเจาะใจ สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับช่อง 5 มาหลายยุคหลายสมัย ผังใหม่นี้ ถูกถอดหลุดผัง 2 รายการ และรายการหลัก เจาะใจ ถูกลดเวลาลง เสมือนว่าบารมีผู้ใหญ่ของเจเอสแอล ไม่ทำงาน
“ผู้ใหญ่เราก็มี เรารู้จัก เยอะด้วย แต่ผู้ใหญ่ไม่ได้มีเพื่อใช้เป็นคอนเนกชั่นแสวงหาผลประโยชน์ ผู้ใหญ่มีไว้เป็นปรึกษาเวลามีปัญหา มีไว้ให้เคารพนับถือเป็นที่อุ่นใจ ยามใดที่ถูกรังแกจะสามารถช่วยเราได้ แต่ไม่ได้มีไว้สำหรับวิ่งเต้นเส้นสาย ขณะนี้พี่เสียใจที่เขาใช้ผู้ใหญ่กันแบบนี้ เขาใช้เงินกันแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วใครจะทำอะไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์ต้องมีจุดยืนที่จะอยู่บนความถูกต้อง” ผู้บริหารเจเอสแอลกล่าว
ชี้พฤติกรรมร้อนรนส่อเค้าทุจริต
จำนรรค์ ขยายต่อพฤติกรรมของช่อง 5 ที่ส่อให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ส่อเค้าทุจริตในภาคปฏิบัติว่า โดยปกติการปรับผังรายการ ทุกสถานีต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับผลทั้งหมดมาคุยกัน ใครอยู่ ใครไป ใครมาใหม่ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีการเตรียมตัว ทั้งผู้ผลิตที่หลุดผัง จะได้หยุดผลิตรายการ หยุดการขายโฆษณา ผู้ที่อยู่ต่อก็ผลิตรายการ และขายโฆษณาต่อไป หรือผู้ที่ได้รายการใหม่ ก็เตรียมตัวผลิตรายการ และขายโฆษณา โดยอย่างช้าทุกฝ่ายต้องได้รับทราบล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน
“กรณีนี้อย่างสายที่สุดเดือนพฤศจิกายนทางช่อง 5 ต้องเรียกทุกคนมาคุย แต่นี่อุบเงียบ แล้วประกาศผังล่วงหน้า 3 สัปดาห์ สร้างความเสียหายอย่างมาก ขณะนี้เราทำรายการสต็อคไว้ถึงปีหน้าแล้ว เดี๋ยวนี้การขายโฆษณาก็ทำกันล่วงหน้า 6 เดือน การวางแผนงาน การขายโฆษณามันเป็นของปีหน้าหมดแล้ว ผู้ผลิตอื่นบางรายการเขาทำเป็นซีรีส์ เกมโชว์บางรายการก็มีการแข่งแบบชิงแชมป์ แข่งไปได้ครึ่งเดียวยกเลิก เสียหายหมด ทำมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ หายไป ผู้ผลิตถูกมองว่าหลอกลวง สถานีก็เสียภาพพจน์ สปอนเซอร์ก็เสียหาย หาว่าไม่กล้าแจกจริง”
เช่นเดียวกับวรรณา รัตนพล กล่าวในฐานะบริษัทผู้วางแผนสื่อ ว่า ระยะเวลาที่ทางช่อง 5 ประกาศผังใหม่ก่อนออกอากาศจริงเพียง 3 อาทิตย์นั้นก็ถือได้ว่าค่อนข้างกระชั้นชิดพอสมควร เพราะปกติเราจะวางแผนขั้นสุดท้ายก่อนซื้อสื่อก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนโดยจะทำในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ซึ่งการประกาศผังใหม่ที่เพิ่งจะออกมาในช่วงต้นเดือนนี้ก็มีส่วนทำให้การทำงานของเรายากขึ้นบ้างอย่างหลีกเลี่ยงด้วยไม่ได้เช่นกัน
สำหรับรายการบางส่วนที่ได้มีการวางแผนซื้อโฆษณาระยะยาวไปล่วงหน้าก่อนแล้วและรายการหลุดจากผังใหม่ในคราวนี้ บริษัทก็ต้องยกเลิกการลงโฆษณาทั้งหมดและเริ่มต้นแพลนนิ่งใหม่โดยดูจากตามรูปแบบของรายการใหม่และกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก
จำนรรค์ ยังได้ฝากข้อคิดในมุมของผู้มีประสบการณ์ในวงการโทรทัศน์กว่า 30 ปี ไปถึงผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และผู้อำนวยการ สถานีวิทยุและโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ซึ่งทั้งสองเคยออกตัวว่า ไม่มีความรู้ด้านสถานีโทรทัศน์เท่าไรว่า
“ก่อนจะทำอะไรไม่ควรรีบร้อน ทำอะไรต้องศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน ผังรายการใหม่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวันที่ 1 มกราคม คุณเข้ามาใหม่ ต้องศึกษาให้เรียบร้อย ละเอียดถี่ถ้วน แล้วค่อยไปเปลี่ยนเดือนมีนาคมก็ยังได้ เข้ามาแล้วคุณต้องศึกษา ดูทุกรายการของช่อง 5 ดูให้รู้ว่ารายการไหนดี รายการไหนไม่ดี
30 ปีที่อยู่มากับช่อง 5 ปีนี้เป็นปีที่เสียใจที่สุด เสียความรู้สึกที่สุด เราทำงานมาตลอด 30 ปีด้วยความเชื่อมั่นว่า ทำงานกับใครก็ไม่สบายใจเท่าทำงานกับทหาร เพราะทหารรักศักดิ์ศรี แต่ถึงเวลานี้ ไม่รู้ทำเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ”
ผอ.ยันทุกอย่างเหมือนเดิม
แม้จะมีกระแสข่าวความไม่ชอบมาพากลในการปรับผังของททบ.5 ทยอยผ่านหน้าหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง กระนั้นทางผอ.สถานีช่อง 5 ออกมายืนยันกับ “ผู้จัดการรายสัปดาห์” ว่า จะไม่มีการรื้อผังรายการใหม่อย่างแน่นอน คนก่อนจะทำอย่างไรไว้ ตนไม่สนใจ เมื่อประกาศออกไปแล้วต้องยอมรับ และกรุณาทำตามนั้น ถ้าจะให้ตนขยำผังเดิมทิ้ง คงทำไม่ได้ เพราะจะไม่เป็นธรรมกับคนที่ได้เวลาไปแล้ว แถมคนที่ได้เวลาไปแล้วก็ต้องกลับมาต่อว่าตนอีก
“อยากบอกให้ทราบเราเป็นสื่อโทรทัศน์ เราเป็นกลาง ใครจะมาใช้ก็เชิญ เราได้ค่าเวลา ใครจะมาใช้สื่ออย่างไร ถ้ามาถูกต้องจะห้ามเขาไม่ได้ เขามีเงินมาจ่าย แข่งขันกับคนอื่นมา และบอกว่าเขาดีกว่า เขาก็ต้องได้รายการไป ผมเพิ่งเข้ามาต้องเห็นใจนิดนึง”
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|