"กิตติรัตน์ ณ ระนอง" คว้านักการเงินปีนี้โชว์ผลงานเข้าตากก.


ผู้จัดการรายวัน(14 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"กิตติรัตน์ ณ ระนอง" คว้านักการเงินแห่งปี 2548 โชว์ผลงานเยี่ยม สร้างระบบพื้นฐานดันตลาดทุนไทยเป็นตลาดที่สมบูรณ์และครบวงจร ผลักดันให้มีการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนฉบับแรก สนับสนุนให้จัดตั้งสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาตลาดทุนที่จะเชื่อมโยงกับกลไกอื่นๆ ในระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม

วารสารการเงินธนาคาร ประกาศผลการตัดสินรางวัลเกียรติยศ "นักการเงินแห่งปี" ประจำปี 2548 (Financier of the Year 2005) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้บริหารในตลาดเงิน ตลาดทุนที่มีคุณสมบัติ ครบถ้วนและโดดเด่นมาตั้งแต่ปี 2525 ปรากฏว่าในปีนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้ครองตำแหน่ง "นักการเงินแห่งปี 2548" ซึ่งเป็นนักการเงิน แห่งปีคนที่ 17 ของวารสารการเงินธนาคาร ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการ 4 ด้าน คือ

1. เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ด้วยการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน ต่างๆ เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นตลาดที่สมบูรณ์และครบวงจร ทั้งตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (SET), ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai), ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า(AFET), ตลาดตราสารหนี้ (BEX) และ ตลาดอนุพันธ์ (TFEX)

2. เป็นนักการเงิน มืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ โดยเฉพาะเป็นผู้ผลักดันให้มีแผนแม่บทพัฒนา ตลาดทุนเกิดขึ้นและสามารถปฏิบัติได้อย่าง เป็นรูปธรรม เพื่อทำให้ตลาดทุนไทยมุ่งสู่การเป็นตลาดทุนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance)

3. เป็นนักการเงินที่สามารถสร้างความเจริญเติบโตให้แก่องค์กร และเป็นผู้ ที่ปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงานของตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจนเป็นที่ยอม รับของสาธารณชน

4. เป็นนักการเงินที่ทุ่ม เททำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคม

บทบาทของกิตติรัตน์ต่อการพัฒนาตลาดทุน เริ่มต้นขึ้นด้วยการผลักดันให้มีการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนฉบับแรก เพื่อให้ตลาดทุนไทยสามารถเกื้อหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รองรับการเติบ โตในอนาคต เป็นตลาดทุนที่มีการลงทุนครบถ้วน ตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่รองรับ การจดทะเบียนของบริษัทขนาดใหญ่, ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ที่รองรับการจดทะเบียนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงตลาดตราสารหนี้ และตลาดตราสารอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการจัดตั้งตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย อีกด้วย

ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุน กิตติรัตน์ได้เข้ามาจัดระบบค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยการกำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์มีแนวทางในการกำหนดต้นทุนในการให้บริการ ซึ่งจะเป็นผลให้สามารถให้บริการแก่ผู้ลงทุนได้อย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ แทนการแข่งขันกันด้านราคา และยังจัดระบบการซื้อขายออนไลน์ หรือ Internet Trading, การพัฒนาระบบการจองหุ้นออนไลน์, การเตรียมการเพื่อลดเวลาการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เป็น T+2 รวมไปถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น STE100, SET50 เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนมากขึ้น

กิตติรัตน์ยังได้ผลักดันให้จัดตั้งสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาตลาดทุน ที่จะเชื่อมโยงกับกลไกอื่นๆ ในระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมการจัดตั้งสถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) ให้เป็นศูนย์กลางส่งเสริมความรู้และประสบการณ์ของผู้บริหารในแวดวงตลาดทุน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคต

ในด้านของการขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ที่มีคุณภาพ กิตติรัตน์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร จัดงานมหกรรมการลงทุนครบวงจร หรือ SET in the City ต่อเนื่องมาถึง 4 ปี รวมทั้งร่วมมือกับสมาคมนักวิเคราะห์ จัดงานตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร เพื่อขยายฐานผู้ลงทุนในต่างจังหวัด

นอกจากนี้ ยังได้ริเริ่มที่จะนำบริษัทจดทะเบียนไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนในต่างประเทศหรือ International Roadshow ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้จัดการกองทุนยักษ์ใหญ่อย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกัน ได้ริเริ่มนำนักลงทุนและผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศเข้ามารับฟังข้อมูลประเทศไทย โดยการจัด Thailand Focus ที่ได้รับความสนใจอย่าง มากเช่นเดียวกันควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีช่องทางในการนำเสนอข้อมูล ของบริษัทให้แก่ผู้ลงทุนและนักวิเคราะห์โดยตรง เช่น การจัดสัมมนาบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน สถาบัน (Opportunity Day) การสนับสนุนกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relation : IR) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การริเริ่มโครงการ Top Executive Networking Forum ที่นำผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนไปใช้ชีวิตและสัมมนาร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมี Connection ระหว่างกัน

พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาระบบบรรษัทภิบาลที่ดี โดยนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและเป็นมาตรฐานสากล และการให้ความสำคัญกับบทบาทและหน้าที่ของกรรมการ ซึ่งกำหนดเป็นข้อบังคับว่า ผู้ที่เป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียนจะต้องผ่านหลักสูตร Directors Accredited Program (DAP) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งเป็นหลักสูตรขั้นต่ำของกรรมการบริษัทจดทะเบียน

กิตติรัตน์ได้มองเห็นความสำคัญในเรื่องของคุณภาพและความโปร่งใสในการบริหารงานขององค์กรในตลาดทุนไทย จึงได้ร่วมกับวารสาร การเงินธนาคาร จัดงานมอบรางวัล SET Awards เพื่อยกย่องบริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีความยอดเยี่ยมทั้งในด้านผลการดำเนินงาน การบริหารจัดการและการให้บริหารจัดการ การให้บริการด้านต่างๆ รวมไปถึงผู้บริหารดีเด่นของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งได้จัดต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปีแล้วกิตติรัตน์ยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความรู้ความ เข้าใจเรื่องการออมและการลงทุน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.