|
กองตราสารหนี้AJFผลตอบแทนพุ่ง ย้อนหลัง3เดือนเฉือนเกณฑ์มาตรฐาน
ผู้จัดการรายวัน(12 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เปิดผลตอบแทนย้อนหลังกองทุนตราสารหนี้-ตราสารเงิน ค่าย "เอเจเอฟ" ณ 30 พ.ย. ย้อนหลัง 3 เดือน เฉือนดอกเบี้ยเงินฝาก-เกณฑ์มาตรฐานเปรียบเทียบ ขณะที่บลจ.ทิสโก้เดินหน้าปรับพอร์ตการลงทุนตราสารหนี้ รับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยาเจเอฟ จำกัด (AJF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารเงิน และตราสารหนี้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2548 พบว่า กองทุน ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเอเจเอฟทั้ง 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน กองทุนเปิดอยุธยาตราสารปันผล และกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเพิ่มทรัพย์ ผลตอบแทนย้อนหลังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และเกณฑ์มาตรฐาน
โดยกองทุนอยุธยาตราสารเงิน ณ วันที่ 30 พ.ย. มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,226.22 ล้านบาท ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 2.22% ย้อนหลัง 6 เดือน 2.16% ตั้งแต่ต้นปี 2.00% กองทุนเปิดอยุธยาตราสารปันผล มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,077.13 ล้านบาท ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.32% ย้อนหลัง 6 เดือน 0.30% ตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทน 0.84%
ส่วนกองทุนอยุธยาตราสารเพิ่มทรัพย์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 474.56 ล้านบาท ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 3.33% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ -1.50% ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทน 0.12%
สำหรับผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สำหรับ 3 กองทุนให้ผลตอบแทนดังนี้คือ กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 1.96% กองทุนเปิดตราสารปันผล 0.89% และกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเพิ่มทรัพย์ ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 0.23%
ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ.ทิสโก้ ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ตลาดตราสารหนี้ไทยได้เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ลดลงอย่างชัดเจน โดยดัชนีพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงถึง 5.6% มาอยู่ที่ 146.79 จุด จากระดับ 155.53 จุด ณ สิ้นไตรมาส ที่ 2 โดยมีพันธบัตรกลุ่มอายุ 10 ปีขึ้นไป เป็น กลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดถึง 10.5% ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลกลุ่มอายุ 7-10 ปี, 3-7 ปี และ 1-3 ปี ก็ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ 6.9,4.4 และ 1.3 ตามลำดับ
ทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลโดยรวมได้ทยอยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตรา ดอกเบี้ยทั้งภายในและต่างประเทศ โดยทางธนาคารกลางสหรัฐฯได้ปรับอัตราดอกเบี้ย Fed Fund ขึ้น 0.50% สำหรับการประชุมสองครั้งในไตรมาสนี้ ส่วนคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรประเภท 14 วัน ถึง 0.75% สำหรับการประชุมสองครั้งในไตรมาสนี้ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 0.25%
นอกจากนี้ การประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝาก และเงินกู้อย่างต่อเนื่องของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ โดยเฉลี่ยที่อัตรา 0.25-0.50% การประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงถึง 5.6% และการที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขขาดดุลการค้าของเดือนสิงหาคม (เบื้องต้น) ซึ่งกลับมาเกินดุลอีกครั้ง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศก็มีส่วนช่วยผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับสูงขึ้นน้อยกว่าพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มช่วงอายุอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกันสาเหตุหลักมาจากความต้องการพักเงินในตราสารอายุสั้นๆ ที่มีสูงขึ้น จากนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เริ่มวิตกกังวลกับทิศทางขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนมากขึ้น
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ แข่งขันกันออกกองทุนรวมระยะสั้นที่เน้นลงทุนในพันธบัตรออกมาเป็นจำนวนมาก ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลช่วงอายุสั้น ปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างน้อย
สำหรับแนวโน้มในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าตลาดตราสารหนี้โดยรวมจะยังคงทยอยปรับตัวลดลงต่อไปจากแรงกดดันของทิศทางของอัตราดอกเบี้ยทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นระยะๆ จนถึงสิ้นปี อย่างไรก็ดี การประกาศตารางการประมูลพันธบัตรในตลาดแรกสำหรับไตรมาสที่ 4 และทิศทางของราคาน้ำมันคงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะมีส่วนกำหนดทิศทางของตลาดตราสารหนี้ในไตรมาสที่ 4 ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันเนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงกับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ
รายงานข่าวจากบลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนการลงทุนในไตรมาสที่ 4 โดยเน้นลงทุนในตราสารระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนเพื่อลดความเสี่ยงจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรวมถึงทยอยปรับพอร์ตการลงทุนให้มีอัตรา ผลตอบแทนสูงขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของ ธปท. และหาโอกาสลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวมากขึ้น เมื่อระดับผลตอบแทนปรับขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|