"ลูกเล่นการเงินของพ่อค้ารถเบนซ์ เมื่อลงมาทำคอนโดฯ"


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

หาดปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อ 10 กว่าปีก่อนนั้น เคยขึ้นชื่อนักว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของบรรดาพวกโจร และมือปืนชื่อดัง ที่มาหลบเงื้อมมือกฎหมายอยู่ที่นั่นจนกระทั่งประมาณปี 2524 พ.ต.อ. ชัยชาญ เงินมูล ผู้กำกับการตำรวจภูธร จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งในขณะนั้น มีตำแหน่งเป็นสารวัตรใหญ่อำเภอท่ายางได้ไปซื้อที่ดินต่อจากญาติคนหนึ่งแล้วลงมือบุกเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยมีความหวังว่านอกจากจะได้พัฒนาที่ดินแล้วยังเป็นการพัฒนาคนไปพร้อม ๆ กันด้วย

เมื่อสิ้นเสียงปืน ชายหาดปึกเตียนก็มีแต่เสียงคลื่นลมที่บริสุทธิ์เข้ามาแทนที่โครงการต่าง ๆ ของผู้กำกับก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา ภายใต้ชื่อของบริษัทปึกเตียนวิลล่า เจ้าของโครงการปึกเตียนบีชคอนโดเทล ปึกเตียนรีโชเทล ซึ่งมีทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านพักตากอากาศ นับพันยูนิต ซึ่งบางโครงการก็ยังมีขายต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ และด้วยคลื่นลมของกระแสธุรกิจ ที่วิกฤติรุนแรงจนเสียต้องหยุดเปิดโครงการใหม่ไปหลายปีทั้ง ๆ ที่ดินติดริมทะเลปึกเตียน ประมาณ 600 ไร่นั้นยังพัฒนาไม่หมด

แต่เมื่อประมาณกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง ผู้กำกับคนดังของเมืองเพชรฯ ก็ได้เปิดโครงการใหม่ขื้นจนได้ คือ ปึกเตียน แกรนด์ คอนโดเทล" บนเนื้อที่ 3 ไร่กว่า เป็นคอนโดฯ ตากอากาศสูง 8 ชั้น 2 ตึกจำนวน 336 ยูนิต ราคายูนิตละ 789,000-1,470,000 บาท โดยคราวนี้มอบหมายให้ สมสุข ทรัพย์อัประไมย ลูกเขย เป็นประธานกรรมการบริษัทฯ และดูแลโครงการโดยตรง

สมสุข จบปริญญาโทด้านการบริหารจากอเมริกา เริ่มช่วยธุรกิจของครอบครัวในเรื่องกิจการของฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ รวมทั้งประกอบธุรกิจด้านการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ของนครปฐม โดยเป็นผู้นำเข้ารถเบนซ์ และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของค่ายสยามนิสสันมาประมาณ 3 ปี

ถ้าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศริมทะเลธรรมดา ๆ ก็คงไม่น่าสนใจแน่นอน จะมีคำถามแถมท้ายอีกว่าขายรถเบนซ์ธรรมดาก็ดีอยู่แล้ว ทำไมกระโดดมาทำโครงการตากอากาศ ในบรรยากาศทางการตลาดที่แทบตายสนิท มิหนำซ้ำขายทะเลปึกเตียน และหาดใกล้เคียงเช่น หาดเจ้าสำราญ หาดหัวหิน ยังมีโครงการที่สร้างแล้วขายไม่หมดอีกมาก

ดังนั้นกลยุทธ์ที่สมสุขนำมาใช้ในโครงการนี้จึงไม่ธรรมดา โดยการนำห้องชุดของลูกค้าที่ซื้อไว้ เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไปในรูปแบบของโรงแรม หรือที่พักตากอากาศ โดยจะมีการจ่ายผลตอบแทนกลับคืนลูกค้า ตลอดระยะเวลาเข้าร่วมโครงการที่กำหนดไว้ 10 ปี ซึ่งจะจ่ายคืนเป็นรายเดือนโดยทางโครงการฯ จะประกันไว้ว่าอย่างน้อยต้อง 45% ของเงินค่างวดที่ชำระกับสถาบันการเงิน

อย่างเช่นสมมติว่าในห้องชุดพื้นที่เล็กสุด 32 ตารางเมตร ราคาขาย 787,000 บาท หลังจากผ่อนดาวน์ 30% ไปแล้วต้องผ่อนต่อกับสถาบันการเงิน ระยะเวลา 15 ปี ประมาณ 604,454 บาท เจ้าของห้องได้จากค่าบริหารห้อง 455 ต่อเดือน เป็นเงินประมาณ 2,900 บาทก็เท่ากับต้องผ่อนต่องวดอีก 3,549 บาทเท่านั้น

วิธีการเอาที่ห้องที่ว่างไปจัดให้เช่าไม่ใช่เรื่องที่แปลก โครงการที่พักริมทะเลหลายโครงการก็ใช้วิธีนี้เพียงแต่ว่าจะไม่มีโครงการไหนที่ประกันได้ว่าจะได้ค่าเช่าห้องกลับคืน เจ้าของโครงการถึง 45% และเป็นจุดสำคัญที่ผู้กำกับต้องกำชับลูกเขยว่าต้องทำให้ได้

ซึ่งตามเงื่อนไขนี้ลูกค้าต้องยอมรับว่าวันพักของตนจะได้น้อยลง เพราะจำนวนวันส่วนหนึ่งในแต่ละเดือนต้องให้เข้าของโครงการเอาไปให้เช่า ซึ่งก็หมายความว่าลูกค้าจะได้พัก 2 คืนติดต่อกันในช่วงเทศกาลจำนวน 2 ครั้งต่อปี และพักได้ 2 คืนติดต่อกันในช่วงวันหยุดประจำสัปดาห์จำนวน 10 ครั้งต่อปี ใช้บริการได้เดือนละ 1 ครั้ง ส่วนในวันธรรมดาพักได้ 4 คืนต่อเดือน ส่วนการใช้บริการนอกเหนือจากนี้จะได้ส่วนลด 60%

ดังนั้นการบริหารห้องพักหลังโครงการสร้างเสร็จเป็นการท้าทายความสามารถของผู้บริหารกลุ่มนี้มาก สมสุขกล่าวว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็คือกรุ๊ปทัวร์ บริษัทต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งตรงจุดนี้จำเป็นต้องติดต่อดึงผู้บริหารมืออาชีพเข้ามา

"ถ้าไม่ใช้วิธีการนี้ขายได้ยากมากเลยครับ เพราะภาวะตลาดไม่เป็นใจ บอกขายใครว่ายูนิตละ 7-8 แสนบาท หรือเป็นล้านบาทก็ไม่มีใครเอาแล้ว แต่ถ้าบอกว่าผ่อนแค่เดือนละ 3,000 กว่าบาทก็จะเป็นที่สะดุดใจสนใจกันเลยเชียว" สมสุขยอมรับและอธิบายต่อว่า เมื่อที่ดินแปลงนี้เป็นของครอบครัวภรรยาซึ่งซื้อไว้นานแล้ว ต้นทุนที่ดินเลยไม่มี เงินกู้สถาบันการเงินก็เพียงประมาณ 80 ล้านบาท เงินสร้างโครงการส่วนหนึ่งก็เอามาจากเงินดาวน์ แถมยังได้เงินจากค่าเช่าห้องในแต่ละเดือนอีก

"เป็นการทำโครงการที่ฉลาดมาก เพราะวิธีการนี้ก็คือการสร้างโรงแรม ซึ่งถ้าสร้างจำนวน 300 ห้อง ต้นทุนห้องละ 1 ล้านบาท ต้องลงทุนเองทั้งหมด 300 ล้านบาท ดอกเบี้ยปีละ 5% ทั้งปีประมาณ 45 ล้านบาท หรือเดือนละ 3-4 ล้านบาท ถ้าไม่หาผู้ร่วมทุนซึ่งก็คือลูกค้าที่ยอมให้เอาห้องพักไปให้เช่าต่อ ก็ไม่สามารถทำได้" แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์วิเคราะห์ให้ฟัง

อย่างไรก็ตามสมสุขกล่าวว่ามีลูกค้าบางรายอยู่ในฐานะที่ผ่อนส่งได้โดยไม่ต้องการแชร์ห้องให้คนอื่นมาพักก็สามารถซื้อได้ในเงื่อนไขปกติ โดยทางโครงการจะกันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ให้

ปึกเตียน แกรนด์ คอนโดเทลจะเริ่มลงมือก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2540 เสร็จประมาณปลายปี 2541

ทุกวันนี้สมสุขเลยต้องลุ้นอยู่ 2 เรื่องคือยอดขายคอนโดฯ กับยอดขายรถเบนซ์ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องของคนรวย ๆ ทั้งนั้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.