|

5ตลาดหุ้นตั้งกองทุนETF
ผู้จัดการรายวัน(12 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
คลอดกองทุนอีทีเอฟ ลงทุนในดัชนี FTSE/ASEAN40 พร้อมนำไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ภายในครึ่งปีแรกปี 49 "เศรษฐพุฒิ"เชื่อมั่นว่าจะเป็นกองทุนที่ได้รับความสนใจ เหตุสามารกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และประหยัดต้นทุนที่จะลงทุน แต่บลจ.ของไทยที่จะออกกองทุนเอฟไอเอฟเมินที่จะออกกองทุนลงทุนใน หุ้นที่อยู่ในดัชนีFTSE/ASEAN40 เหตุสภาพตลาดหุ้นในอาเซียนมีความใกล้เคียงกัน
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากตลาดหลักทรัพย์ได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ของประเทศในกลุ่มอาเซียนและได้ออกดัชนี FTSE/ASEAN 40 ขึ้นมา ขณะนี้ได้มีแผนจะออกกองทุนอีทีเอฟ (Exchange Traded Funds:ETF) ซึ่งเป็นกองทุนที่จะลงทุนในหุ้น 40 บริษัทที่อยู่ในดัชนีFTSE/ASEAN 40 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการสถาบันการเงินหลายแห่งที่เสนอตัวจะเป็นผู้จัดการกองทุนอีทีเอฟดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้มีการคัดเลือกแล้ว 1 ราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผย โดยสถาบันการเงินดังกล่าวถือเป็นบริษัทที่มีประสบการการซื้อขายและการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกองทุนนี้จะเอานำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ภายในครึ่งปีแรกของปี 2549 และต่อไปในอนาคตก็มีแผนที่จะนำเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์นับเป็นตลาดที่มีความพร้อมมากที่สุดเมื่อพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มประเทศอาเซียน 5 แห่ง เนื่องจากว่าเป็นตลาดที่มีกองทุนอีทีเอฟ เข้าจดทะเบียนและซื้อขายแล้วประมาณ 7-8 กอง ดังนั้นถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีประสบการณ์ และเชื่อว่ากองทุนอีทีเอฟที่กำลังออกซึ่งจะลงทุนในดัชนี FTSE/ASEAN 40 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศ 5 ประเทศได้ รวมถึงยังช่วยประหยัดต้นทุนในการลงทุน เพราะการลงทุนในกองทุนดังกล่าวก็เหมือนกับลงทุนในหุ้น 5 ตลาดในภูมิภาคอาเซียนเลย โดยผลตอบแทนที่จะได้รับนั้น จะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของดัชนี FTSE/ASEAN 40 ส่วนขนาดของกองทุนนั้นไม่ได้จำกัด ขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อของนักลงทุน แต่จะมีการกำหนดมูลค่ากองทุนขั้นต่ำไว้ ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้กำหนด
กองทุนอีทีเอฟ ในต่างประเทศนั้นถือว่ามีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนได้ และคาดว่าในอนาคตกองทุนอีทีเอฟ จะได้รับความสนใจในตลาดทุนไทยเช่นเดียวกัน
นายเศรษฐพุฒิกล่าวต่อว่า เนื่องจากประเทศไทยนั้นมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เสียก่อน ดังนั้นกองทุนอีทีเอฟที่จะออกนั้น อาจจะใช้ช่องทางที่ไม่ผิดกฎ โดยให้ผู้จัดการกองทุนเป็นสถาบันการเงินต่างประเทศ เพราะต่างประเทศสามารถลงทุนได้อย่างเสรี โดยสามารถไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างๆ ได้
นอกจากนี้ ดัชนี FTSE/ASEAN40 เป็นสินค้าที่หวัง นำไปใช้สร้างรายได้เก็บค่าธรรมเนียมในการใช้ ซึ่งผู้คิด 5 ประเทศเป็นเจ้าของสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการโปรโมทแนะนำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ของไทย ที่มีแผนจะออกกองทุนในลักษณะ กองทุนเพื่อลงทุนต่างประเทศ(FIF)นำไปใช้ แต่ปรากฏว่าบลจ.ส่วนใหญ่ไม่สนใจเท่าที่ควรเพราะมองว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนนี้มีความใกล้เคียงและกองทุนเอฟไอเอฟ ของบลจ.นั้นสามารถลงทุนได้ทั่วโลก ซึ่งมีความน่าสนใจมากกว่า อย่างไรก็ตามหวังในอนาคตได้รับการตอบรับที่ดี จากพวกบลจ.ในประเทศ
ส่วนSET100 นั้นนายเศรษฐพุฒิกล่าวว่า หลังตลาดหลักทรัพย์ได้ออกมา โดยได้คัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงสุด 100 อันดับแรก และเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องนั้น ขณะนี้มีบลจ.ต่าง ๆ สนใจนำไปใช้มากขึ้น เนื่องจากสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนได้ และภายในเดือนนี้จะมีการประกาศชื่อหุ้นที่อยู่ใน SET 100 ชุดใหม่ออกมา
ส่วนกรณีที่บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ตลาดหลักทรัพย์ก็คงไม่มีการเพิ่มจาก SET 100 ให้เป็น SET 150 เพราะเชื่อว่า SET 100 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ถือว่าครอบคลุมหุ้นทั้งตลาดคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมหรือมาร์เกตแคปแล้วประมาณ 80%แล้ว
อนึ่งดัชนี FTSE/ASEAN40 ถือเป็นความร่วมมือตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน 5 แห่งประกอบด้วยตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซ่ามาเลเซีย,ตลาดหลักทรัพย์จาการ์ต้า,ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์,ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้เริ่มใช้และเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา โดยดัชนีดังกล่าวเป็นดัชนีที่สามารถซื้อขายได้ สำหรับกองทุนต่างๆ กองทุนประเภทอีทีเอฟ รวมถึงเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงสำหรับสัญญาอนุพันธ์ต่างๆ เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|