ก.ล.ต.สั่งไมด้าเมดดาลิสท์แจงกำไร 'กมล' มั่นใจธุรกิจโตดันหุ้นพ้นจอง


ผู้จัดการรายวัน(8 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ก.ล.ต. สั่งไมด้าเมดาลิสท์ฯ แจงข้อมูลผลการดำเนินงาน พร้อมเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย หลัง 'กมล' ทำนายกำไรปี 2548 จะเพิ่มขึ้นราว 500% จาก 19 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท ทั้งมั่นใจแม้ว่าราคาจองหุ้นสูง แต่อัตราการเติบโตของบริษัทจูงใจ ด้านบริษัทฯเผยอยู่ระหว่างทำหนังสือชี้แจงเชื่อไม่กระทบการซื้อขาย

วันนี้(8 ธ.ค.) จะมีหุ้นใหม่ 3 บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นวันแรก โดยหุ้นที่จะเข้าซื้อขาย ใน SET ประกอบด้วย บมจ. ไมด้า-เมดาลิสท์ เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ (MME) จำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรร 60 ล้านหุ้น ราคาจองซื้อหุ้นละ 8 บาท และ บมจ. ไทยยูนีคคอยล์ เซ็นเตอร์ (TUCC) จำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรร 85 ล้านหุ้น ราคาจองซื้อหุ้นละ 2.70 บาท ส่วน บมจ.124 คอมมิวนิ- เคชั่นส (PR124) จะเข้าซื้อขายในตลาด mai

นายกมล เอี้ยวศิริกูล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไมด้า-เมดาลิสท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กล่าวว่า การเข้าซื้อขายของ หุ้นบริษัทในวันนี้เชื่อว่าราคาจะปรับขึ้นเหนือราคาจองซื้อได้ เนื่อง จากหุ้นของบริษัทได้รับการตอบสนองจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก แม้ว่าในวันนี้จะมีหุ้นที่เข้าซื้อขายถึง 3 บริษัท แต่เชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับหุ้น MME มากกว่า เนื่องจากความน่าสนใจของบริษัทค่อนข้างสูงทั้งในแง่ขนาดของทุนและอัตราการเติบโตของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าลงทุน

การกำหนดราคาจองซื้อที่ 8 บาทต่อหุ้น หากพิจารณาจากค่าพีอีเรโชก็ถือว่าราคาดังกล่าวค่อนข้างสูง แต่หากนักลงทุนได้มีการลงทุนในระยะยาว ก็มองว่าเป็นราคาที่มีความเหมาะสม

ส่วนกำไรสุทธิในปี 2548 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 500% โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 100 ล้านบาท ขณะที่ 2-3 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเฉลี่ยปีละ 100%

"ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจของ ประเทศอยู่ในช่วงขาลง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่อง จากเป็นการส่งออกทั้ง 100% และความต้องการในต่างประเทศยังมีอีกมาก โดยบริษัทจะยังเน้นการส่งออกเป็นหลัก"

ด้านสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่า นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ประธานกรรมการ บมจ.ไมด้า-เมดดาลิสท์ฯ คาดการณ์ผลประกอบการของ MME ว่า ในปีหน้าผลกำไรจะเติบโตไม่น้อยกว่า 100% และ ปีต่อไปอีก 200% เนื่องจาก MME กำลังขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่อีก 11 ประเทศ จากเดิมที่ตลาดส่งออกหลัก เป็นกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ส่วนผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 MME มีกำไรสุทธิถึง 160 ล้านบาท นั้น

จากการตรวจสอบข้อมูล ก.ล.ต. พบว่า ข้อมูลในข่าวดังกล่าว ไม่ตรงกับหนังสือชี้ชวนที่ MME ได้เปิดเผยต่อประชาชนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจจองซื้อหุ้น MME กล่าวคือ ไม่ปรากฏ ว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับการคาดการณ์ ผลกำไรในอนาคตในหนังสือชี้ชวน และในหนังสือชี้ชวนมีข้อมูลด้านตลาดส่งออก ที่ระบุว่า ปัจจุบัน MME ส่งออกสินค้าไปยังประเทศ ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ และได้มีการขยายการส่งออกไปอีก 4 ประเทศ

รวมทั้งแสดงผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 ซึ่งมีกำไรสุทธิเพียง 60 ล้านบาท ส่วนการคาดการณ์ผลกำไรที่ปรากฏในข่าวนั้น ก็กล่าวขึ้น โดยไม่มีข้อมูลสนับสนุนแต่อย่างใด ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนใช้วิจารณญาณและเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของ MME ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างขอให้นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2548 ที่แจ้งต่อ ตลท.ระบุว่า มีกำไรสุทธิ 22.51 ล้านบาทกำไรสุทธิ ต่อหุ้น 0.11 บาทกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.22 ล้านบาทกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.11 บาท

ส่วนในงวด 9 เดือนของปี 2548 มีกำไรสุทธิ 60.13 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.37 บาทกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.33 ล้าน บาทกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.51 บาท

ล่าสุด MME เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลชี้ แจง ก.ล.ต.เกี่ยวกับข้อมูล กำไรในอนาคตของ MME ที่ไม่ตรงกับหนังสือชี้ชวน ซึ่งเชื่อว่า จะไม่ส่งผลการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของ MME แต่อย่างใด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.