พรีมาเวสท์เข็นFIFกองใหม่ลุยตราสารหนี้รัฐบาลอายุ3ปี


ผู้จัดการรายวัน(6 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

พรีมาเวสท์พลิกกลยุทธ์การลงทุนกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) เผยกองใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในต้นปีหน้า "กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น" เน้นลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลที่มีอายุ 3 ปี หลังก่อนหน้าบุกตราสารอายุ 1 ปีครึ่ง คาดผลตอบแทนงาม ส่วนกองตราสารหนี้ระยะสั้นยังเดินหน้าลุยต่อ ตอบรับกระแสตราสารหนี้ฟีเวอร์

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด ได้ยื่นเสนอจัดตั้งกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ควิก โบนัส คุ้มครองเงินต้น ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน

โดยกองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้ค้ำประกัน พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน เพื่อคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกตามมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหน่วย หรือลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาการซื้อขายล่วงหน้า และตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร

สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ควิก โบนัส คุ้มครองเงินต้น จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการได้รับความมั่นคงสูงจากการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์คุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกของผู้ลงทุน รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์

นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ยังได้อนุมัติให้บลจ.พรีมาเวสท์ จัดตั้งกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น ซึ่งเป็นกองทุนรวมทั้งลงทุนในต่างประเทศ หรือ FIF มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาทและมีอายุโครงการประมาณ 3 ปี โดยกองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนดังกล่าวถือเป็นกองทุน FIF กองที่ 2 ของบริษัท เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอนด์ คุ้มครองเงินต้น มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท และเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศเช่นกัน แต่มีอายุกองทุนประมาณ 1 ปี 5 เดือน ซึ่งกองทุนดังกล่าวหลังจากเปิดขายหน่วยลงทุน ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลามจนต้องปิดขายหน่วยลงทุนก่อนกำหนด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับกองทุน FIF กองใหม่นั้น เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลไทย ที่เสนอขายในต่างประเทศปรับตัวลงมา ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนยังไม่จูงใจมากนัก จึงยังไม่เปิดขายหน่วยลงทุนในขณะนี้ โดยจะต้องรอพิจารณาดูแนวโน้มอีกครั้ง หรืออาจจะรอให้อัตราดอกเบี้ยขยับขึ้นก่อนจึงจะเปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนดังกล่าวอีกครั้ง

ทั้งนี้ หากไม่สามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ทันในปีนี้ บริษัทก็จะเสนอขอสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้ยืดการขายหน่วยลงทุนออกไปใน ปีหน้าโดยใช้โควตา 400 ล้านบาทดังกล่าวที่ได้รับการอนุมัติในปีนี้ ซึ่งจากการหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์แล้วสามารถดำเนินการได้

รายงานข่าวกล่าวว่า สำหรับบลจ.พรีมาเวสท์นั้น ก่อนหน้านี้ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. ให้จัดตั้งกองทุนหุ้นอีก 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ผสมหุ้นทุน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท และกองทุนปิดพรีมาเวสท์ทาร์เก็ต 18/18 ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่มีอายุโครงการ 18 เดือนมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท

โดยนายเพิ่มพลกล่าวว่า ทั้ง 2 กองทุนนั้น คาดว่าจะยังไม่สามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ในปีนี้ เนื่องจากการลงทุนในตลาด หลักทรัพย์ฯช่วงนี้ยังมีปัจจัยที่มีผลกระทบหลายอย่าง ซึ่งมีส่วนทำให้นักลงทุนมองการลงทุนในหุ้นว่าเป็นแง่ลบ กลัวความเสี่ยง และไม่กล้าเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นถึงแม้ว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนก็ตาม ดังนั้น จึงต้องรอจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมมากกว่านี้

สำหรับ บลจ.พรีมาเวสท์ มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตของบริษัทในปีนี้ไว้ที่ระดับประมาณ 100% โดยปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท จากประมาณ 6,000 ล้านบาท ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสินทรัพย์ เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.