|
"ยูนิฟ"ควักรุ่นลิมิเต็ดกู้แชร์คืนหวังสร้างสีสันชาเขียวช่วงขาลง
ผู้จัดการรายวัน(5 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"ยูนิฟ กรีนที"ส่งลูกฮึดโค้งสุดท้าย เปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน 2 รสชาติใหม่ โตเกียวกลิ่นโคล่า-โอซากา ชูความแปลกใหม่ดูดแชร์จากโออิชิเพิ่ม 2-3% สิ้นปีนี้ พร้อมหวังเป็นหมัดเด็ดสร้างสีสันตลาดชาเขียวช่วงขาลง
แหล่งข่าวจาก บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มยูนิฟ เปิดเผยว่า จากสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่อยู่ในภาวะขาลง โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งไม่ได้เป็นฤดูกาลขายของสินค้ากลุ่มนี้มากนัก บริษัทจึงได้เปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มรุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจชาเขียวมากว่า 3-4 ปี โดยเปิดตัวด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ ชาเขียวโตเกียวกลิ่นโคล่า และชาเขียวญี่ปุ่นโอซากา จำหน่ายแค่ 2-3 เดือนเท่านั้นหรือจนกว่าสินค้าจะหมด ซึ่งทั้งสองรสชาติวางกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-25 ปี
สำหรับปีนี้นับว่ายูนิฟ กรีนทีเปิดตัวรสชาติใหม่มากที่สุดในรอบหลายปี จากในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัว2 รสชาติใหม่ ได้แก่ ยูนิฟรสน้ำข้าวบาร์เลย์ และฮัน เลมอน รวมแล้วปัจจุบัน 5 รสชาติ นอกจากนี้บริษัทยังได้เปิดตัวชาขาวพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ยูนิฟ ไวท์ โดยมองว่าการมีรสชาติที่หลากหลาย ทำให้ยูนิฟสามารถมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทต้องการทวงบัลลังก์โออิชิผู้นำตลาดในปัจจุบัน หลังจากก่อนหน้านี้ยูนิฟเคยเป็นผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีส่วนแบ่ง 60% และเพิ่งเสียตำแหน่งให้กับโออิชิเมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้
เป้าหมายการเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นส่วนแบ่งตลาดของยูนิฟเพิ่มขึ้น 2-3% ในสิ้นปีนี้จากส่วนแบ่งรอบเดือนมกราคม -กันยายนปีนี้ ยูนิฟ 21.7% เซนชะ 5.8% ส่วนโออิชิผู้นำตลาด มีส่วนแบ่ง 58.7% จากมูลค่าตลาด 5,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันการออกสินค้ารุ่นลิมิเต็ด ก็เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดชาพร้อมดื่ม ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้มูลค่าตลาดจะเติบโตต่ำกว่าที่ตั้งเป้าว่าจาก 6,000-7,000 ล้านบาท เป็นเหลือ 5,500 ล้านบาท นอกจากนี้สินค้ารุ่นลิมิเต็ด ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ยูนิฟ ในฐานะเป็นผู้นำนวัตกรรม
สำหรับปีหน้านี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวชาเขียวผสมโสม ซึ่งจะทำให้ยูนิฟมีทั้งหมด 6 รสชาติมากกว่าผู้นำตลาด ทั้งนี้การที่บริษัทเร่งเปิดตัวรสชาติใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่าสภาพตลาดชาเขียวมาถึงขั้นที่ผู้ประกอบการ จะต้องแตกรสชาติใหม่ๆหรือแข่งขันกันด้านนวัตกรรม เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเพื่อขยายตลาดให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะแนวโน้มตลาดชาเขียวในปีหน้าประมาณการณ์มีอัตราการเติบโต 10-20% เท่านั้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|