“เอส.บี.”เจาะกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ จีบ“แลนด์ฯ”นำร่องปูทางเปิดตลาด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(5 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

“เอส.บี.” อาศัยสายสัมพันธ์ “แลนด์ฯ” เกาะ “โฮมโปร” ขยายสาขา เพิ่มช่องทางจำหน่าย ชูนโยบายสร้างแบรนด์ติดตลาด พร้อมลุยขายผ่านโครงการจัดสรรเจาะกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ ส่งทีมเฉพาะกิจผนึกกำลัง “แลนด์ฯ” เหมางานออกแบบติดตั้งบ้านรูปแบบใหม่ในปี 49 ทั้งหมด หลังรับงานเฟสแรก “เมโทร พาร์ค”ให้กลุ่มเพอร์เฟค ตั้งเป้าสิ้นปีโต 10% จากปี 47

ประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปีในแวดวงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์เอส.บี. มีคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานหลายราย ไม่ว่าจะเป็นดีลเลอร์ซึ่งเป็นช่องทางเดิมที่ใช้ในการกระจายสินค้า รวมทั้งการขายผ่านโมเดิร์นเทรดซึ่งเป็นช่องทางขายในรูปแบบใหม่ ซึ่งมี โฮมโปร เป็นพันธมิตรหลักในการดำเนินธุรกิจ

การมีสายสัมพันธ์ทางการค้าที่ยาวนานกับยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาฯ อย่าง แลนด์ฯ จึงเป็นโอกาสในการเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับ เอส.บี. เริ่มต้นจากช่องทางการจัดหน่ายทั้งในลักษณะการนำสินค้าไปวางจำหน่ายในสาขาของโฮมโปรที่กระจายการลงทุนครอบคลุมพื้นที่ 4 มุมเมือง และการให้เช่าพื้นที่เพื่อจัดทำโชว์รูมแสดงสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่ เอส.บี.ได้รับในฐานะคู่ค้าที่ยาวนานของ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโฮมโปร

ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด กล่าวว่า การมี แลนด์ฯ เป็นคู่ค้าหลักที่ยาวนาน ทำให้บริษัทมีช่องทางจำหน่ายเพิ่ม และมีฐานลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมของโฮมโปร ซึ่งล่าสุดได้เปิดให้บริการ “เอส.บี.ดีไซน์ สแควร์” บนพื้นที่กว่า 4,000 ตร.ม.ของโฮมโปร สาขาบางนา รองรับฐานลูกค้าในย่านบางนา-ตราด และสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก

จากการสำรวจพื้นที่ในย่านดังกล่าว พบว่า ในอนาคตจะมีการลงทุนพัฒนาโครงการจัดสรรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 120 แห่ง หรือประมาณ 30,000 ยูนิต เฉลี่ยระดับราคาขายยูนิตละ 3-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาใหม่ที่โฮมโปร สาขาหัวหิน เพื่อรองรับตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในต้นปีหน้า

ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองความเคลื่อนไหวของ เอส.บี.คือประโยชน์ที่ได้จากการมีสายสัมพันธ์ทางการค้าที่เหนียวแน่นกับกลุ่มแลนด์ฯ ซึ่งนอกจากจะทำให้ เอส.บี.มีช่องทางจำหน่ายและฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นแล้ว เอส.บี.ยังมีโอกาสขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มดีเวลลอปเปอร์ ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่สร้างรายได้เพิ่มให้กับ เอส.บี.ในระยะยาว นอกเหนือจากการนำกลยุทธ์ลด แลก แจก แถมและการแตกไลน์สินค้าใหม่เข้ามาใช้ในการแข่งขันท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันที่รุนแรง

กลยุทธ์ไม้ตายที่ เอส.บี.นำมาใช้ในช่วงการทำตลาดในโค้งสุดท้ายของปีคือการรุกเข้าสู่กลุ่มดีเวลลอปเปอร์โดยตรง และถือว่าเป็นการรุกตลาดโครงการจัดสรรอย่างเต็มตัว โดยเริ่มต้นเจรจากับเจ้าของโครงการเพื่อขายสินค้าแบบยกล็อตและให้บริการแบบครบวงจร เปลี่ยนจากระบบเดิมที่เป็นการสั่งซื้อสินค้าแบบแยกชุด ซึ่งทีมดีไซน์ของ เอส.บี. จะทำงานร่วมกับทีมงานของแลนด์ฯ นับตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบจนถึงการติดตั้ง โดยเริ่มงานออกแบบให้กับบ้านรูปแบบใหม่ทั้งหมดของแลนด์ฯ ที่จะเปิดตัวในปี 49

โดยก่อนหน้านี้ เอส.บี. ได้เข้ารับเหมางานออกแบบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบยกล็อตให้กับคอนโดมิเนียมเฟสแรกจำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่า 80 ล้านบาท ในโครงการเมโทร พาร์ค ของ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และคาดว่าจะได้รับเลือกให้เป็นผู้รับเหมาติดตั้งในเฟสต่อๆ ไป โดยในระยะเวลาอันใกล้เชื่อว่า เอส.บี.จะมีลูกค้าในกลุ่มโครงการจัดสรรเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ราย และมีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านโครงการจัดสรร 10% ของยอดขายรวม โดยคาดว่ายอดขายในสิ้นปี 48 จะเติบโต 10% จาก 3,000 ล้านบาทในปี 47 และตั้งเป้าหมายยอดขายปี 49 เพิ่มขึ้นอีก 10%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.