|
"พายัพ" จับมือ "เสี่ยสอง" เปิดศึกเทกฯ แอ๊ดคินซัน
ผู้จัดการรายวัน(2 ธันวาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"พายัพ" นำทีมเขย่าบัลลังก์ "ผิน คิ้วคชา" เล็งเทกโอเวอร์แอ๊ดคินซัน หลังลือสนั่น เก็บ ASL-W4 หวังแปลงเป็นหุ้นสามัญ พบ "ชนะชัย ลีนะบรรจง" ขาใหญ่พันธมิตร "พายัพ" ด้าน "อาภา" ไม่หวั่นเชื่อมั่นกุมหุ้นใหญ่พอ ให้จับตา 8 ธ.ค.ปิดบุ๊กวอร์ฯ 4 รู้ ผลใครครองหุ้นมาก หวั่นระเบิดศึกในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เม.ย.49 เทรด ASL-W4 วันสุดท้าย สวิงสุดๆ ร่วงหนัก 0.19 บาท ก่อนดีดพุ่งขึ้นสูงสุด 0.87 บาท
วานนี้ (1 ธ.ค.) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญชุดที่ 4 (ASL-W4) ซึ่งซื้อขายเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) จะห้ามซื้อขายในวันนี้ โดยราคาตลอดวันเคลื่อนไหวอย่างสวิงขึ้นลงอย่างรุนแรงมาก โดยลงมาต่ำสุดที่ระดับ 0.19 บาทลดลง 37% ขณะที่ราคาขึ้นมาสูงสุดช่วงปลายตลาดที่ 0.87 บาทเพิ่มขึ้นประมาณ 80% เศษ โดยราคาปิดที่ระดับ 0.77 บาทเพิ่มขึ้น 0.34 บาทหรือ 79.07% มูลค่าการซื้อขาย 10,879 ล้านบาท
ขณะที่หุ้น บล.แอ๊ดคินซัน ราคาปิดที่ 9.60 บาทเพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 4.35% มูลค่าการซื้อขาย 78.19 ล้านบาท
แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ความผันผวนของหุ้น ASL-W4 วานนี้ส่วนหนึ่งเพราะในช่วงเช้านักลงทุนรายย่อยต่างเทขายเพื่อลดความเสี่ยงที่จะต้องถือสำหรับแปลงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างชัดเจนน่า จะเกิดจากที่นักลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องการเข้ามาสร้างราคา เนื่องจากต้องการให้ราคาปิดก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์จะสั่งห้ามซื้อขายปรับตัวขึ้นไปบ้าง และอีกประการนักลงทุนกลุ่มหนึ่งต้องการใช้สิทธิในการเข้าถือหุ้นแม้ว่าจะต้องรับภาระขาดทุนเพราะจากการแปลงสภาพ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในกลุ่มดังกล่าวอาจจะมีการเตรียมจะเข้าไปซื้อหุ้นแม่เพื่อให้ได้กำไรจากการแปลงสิทธิหากราคาหุ้นแม่อยู่เกินกว่า 10.77 บาท
"แม้ว่าราคาในตอนนี้จะทำให้มองได้ว่านักลงทุนที่เข้าไปซื้อวอร์แรนต์อาจจะขาดทุน แต่หากมีการสร้างราคาหุ้นแม่ให้เกินกว่า 10 บาทที่ต้องแปลงสภาพรวมกับราคาวอร์แรนต์ ก็จะทำให้การใช้สิทธิกลุ่มผู้ลงทุนดังกล่าวได้ประโยชน์" แหล่งข่าวกล่าว "
"พายัพ-สอง" นำทีมเทกฯ
สำหรับราคาหุ้น ASL และวอร์แรนต์ชุดที่ 4 เคลื่อนไหวร้อนแรง ต่อเนื่องกว่า 3 เดือนจากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนรายใหญ่ ทำให้ที่ผ่านมา ตลท.ต้องใช้มาตรการสกัดความร้อนแรง โดยงดการซื้อขายด้วยมาร์จิ้น และเน็ตเซตเทิลเมนต์ ASL จนถึงสิ้นเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความร้อนแรงของราคาหุ้น ASL และ วอร์ฯ 4 ดังกล่าว มีกระแสข่าวลือออกมาเป็นระยะว่า มีนักลงทุนกลุ่มนายพายัพ ชินวัตร เตรียมจะเทกโอเวอร์ ASL
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีกระแสข่าวตามห้องค้าหลักทรัพย์ว่ากลุ่มนายพายัพ มีแผนจะที่เข้ามาครอบงำกิจการ หรือเทกโอเวอร์ ASL เนื่องจากเห็นว่าบริษัทมีความน่าสนใจเพราะมีกระแสเงินสดจำนวนมากประมาณ 1 พันล้านบาท และยังมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของ บล. เอเพกซ์อีก
ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมานายพายัพกับเพื่อนในกลุ่มซึ่งได้แก่นายชนะชัย ลีนะบรรจง ได้เข้ามาเก็บหุ้น โดยเฉพาะในวอร์ฯชุดที่4 ซึ่งจะปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 8 ธ.ค. และ ตลท.จะขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขายตั้งแต่วันนี้ (2 ธ.ค.) จนถึง 16 ม.ค. 2549 และในวันที่ 17 ม.ค. ก็จะพ้นจาก การเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน ตลท.
นอกจากนี้ยังมีชื่อ นายสอง วัชรศรีโรจน์ นักลงทุนรายใหญ่ก็เข้ามาลงทุนใน ASL-W4 เช่นกัน แต่จะใช้ชื่อบุคคลอื่นหรือนอมินี ซึ่งนายสองได้มาเป็นพันธมิตรกับนายพายัพ เช่นเดียวกับนายชนะชัย โดยการเข้าเก็บหุ้น ASL-W4 เนื่องจากต้องการที่จะนำไปแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ซึ่งจะทำให้กลุ่มนายพายัพเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ASL
"ชนะชัย" แนวร่วม "พายัพ"
สำหรับ ASL-W4 นี้ได้กำหนดอัตราการใช้สิทธิ คือใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้นในราคาหุ้นละ 10 บาท
"นายชนะชัย ถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่คนหนึ่ง ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รู้จักกับนายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ (TRAF) และนายชนะชัยยังเป็นผู้ถือหุ้นทราฟฟิกฯ"
"ที่ผ่านมานายชนะชัยประสบปัญหาขาดทุนจากการลงทุนในตลาดหุ้นพอสมควร ดังนั้นจึงมีคนแนะนำให้ไปรู้จักกับนายพายัพ ซึ่งถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่อีกคนหนึ่ง โดยนายชนะชัยนั้นเปิดพอร์ตการซื้อขายหลายแห่ง เช่นที่ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และที่บล.ทีเอสอีซี เป็นต้น ขณะเดียวกันนายพายัพเองก็รู้จักเสี่ยสองเช่นเดียวกัน จึงถือว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน" แหล่งข่าวกล่าว
"ผิน" ดึง "เจ๊เกียว" สู้
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีกระแสข่าวลือว่านายผิน คิ้วคชา ได้มีการติดต่อนางสุจินดา เชิดชัยซึ่ง เป็นเครือญาติ และเป็นเจ้าของบริษัทเดินรถโดยสารรายใหญ่ของไทย ภายใต้ชื่อเชิดชัยทัวร์ เพื่อให้มาสนับสนุนทางการเงิน ซึ่งคาดว่าภายในเดือนเมษายน 2549 ซึ่งจะมีการประชุมผู้ถือหุ้น และคาดว่าจะมีการต่อสู้เพื่อแย่งอำนาจการบริหารอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมคือกลุ่มนายผินและนางอาภา และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่คือกลุ่มนายพายัพ
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งของบล.แอ๊ดคินซันหลายสาขามีการเคลื่อนไหวที่จะลาออก เพราะไม่พอใจบริษัทนำเงินไปสร้างสำนักงานบริการค้าหลักทรัพย์เป็นจำนวนมาก ทำให้ผลการดำเนินงานของแต่ละสาขาออกมาไม่ดี และส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งได้รับส่วนแบ่งจากกำไรไม่มากนัก อย่างไรก็ตามปรากฏว่านายผินได้เดินสายไปเกลี้ยกล่อมเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งดังกล่าว โดยให้มองถึงระยะยาว
มั่นใจ "คิ้วคชา" กุมหุ้นใหญ่
นางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตนไม่รู้จักนายชนะชัยที่เข้ามาถือหุ้นของบริษัทและที่ผ่านมานายชนะชัยก็ไม่ได้มีการติดต่อมายังผู้บริหารของบล.แอ๊ดคินซัน เพียงแต่แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงการได้หุ้น ASL-W4
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่จะเข้ามาเทกโอเวอร์นั้น ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะกลุ่มของตนก็ถือหุ้นในสัดส่วนที่มากพอสมควร และอยู่ในระดับที่มีความมั่นใจ แต่จะอยู่ในระดับเท่าใดนั้นไม่พร้อมที่จะเปิดเผย ซึ่งเชื่อว่าหลังจากวันที่ 8 ธ.ค.แล้ว จะรู้ว่ามีใครบ้างที่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใน ASL-W4 และกรณีที่มองว่าบริษัทเร่งปิดสมุดทะเบียนนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาการดำเนินการของบริษัทได้มีการหารือกับตลาดหลักทรัพย์และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์มาตลอด ก่อนหน้านี้ศูนย์รับฝากฯต้องการที่จะให้บริษัทปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 6 ธันวาคม แต่บริษัทดำเนินการไม่ทันจึงขอยืดเวลาออกไปเป็นวันที่ 8 ธันวาคม
นอกจากนี้ที่มีกระแสข่าวว่านายผินดึงนางสุจินดาเข้ามาช่วยสนับสนุนทางการเงินนั้นนางอาภากล่าวว่า ยอมรับว่านางสุจินดาเป็นเครือญาติกับนายผินจริง แต่ในช่วงที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจจะไม่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นกระแสข่าวลือดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ASL ณ วันที่ 11 เม.ย. 2548 ได้แบ่งกลุ่มนางอาภาจะถือหุ้น 16.31% ประกอบด้วยนายอำนาจ คิ้วคชา ถือหุ้น 7.85%, นายฤทธิ์ คิ้วคชา ถือหุ้น 6.45%, นายกรีธา เตชะรัตนไชยถือหุ้น 0.68%, นายวศิน เตชะรัตนไชยถือหุ้น 0.59% และนายสุรวุฒิ เชิดชัย ถือหุ้น 0.74%
ขณะที่กลุ่มนายพายัพ จะถือหุ้นในสัดส่วน 3.42% โดยแบ่งเป็นนายพายัพถือหุ้น 2.41% และนาย สม ปริยวัตถือหุ้น 1.01% ส่วนนายชนะชัย ลีนะบรรจง นั้นในโครงสร้างผู้ถือหุ้นไม่มีชื่อ ประกอบกับยังไม่ได้มีการนับรวมในส่วนที่ได้ ASL-W4 เข้ามาซึ่งยังไม่รู้ว่าแต่ละคนอยู่ในระดับใด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|