ศึกโฆษณาบ้านปี 40 ต้องเร่งหากลยุทธ์ใหม่


นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2540)



กลับสู่หน้าหลัก

การกระตุ้นยอดขาย โดยใช้วิธีการอัดโฆษณา จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของโครงการทั้งหลายมองว่า เป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อระบายสินค้าคงค้างออกไปให้ได้มากที่สุด

ตัวเลขยอดโฆษณาทางด้านที่อยู่อาศัยจากสื่อต่าง ๆ ที่ฝ่ายวิจัยของบริษัทมีเดียโฟกัสทำไว้ จึงปรากฏว่า ในขณะที่ปี 2535 ตัวเลขสูงถึง 2,735 ล้านบาท ปี 2536 เพิ่มเป็น 3,632 ล้านบาท ปี 2537 ยิ่งสูงขึ้นเป็น 5,646 ล้านบาท

แต่เมื่อปี 2538 ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอต่อเนื่องกันหลายปี ประกอบกับ นักลงทุนหลายรายพบความจริงว่า การทุ่มงบโฆษณาอย่างหนักในบางโครงการไม่เป็นผล ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจทำให้ไม่สามารถเร่งเร้าลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อได้อีกแล้ว ในขณะที่สินค้าในมือผู้ประกอบการยังมีเหลือ และเงินกลับไม่ไหลเข้าบริษัทตามแผนงานที่วางไว้ หลายบริษัทจึงเริ่มนโยบายรัดเข็มขัด และชะลอโครงการหรือเฟสต่าง ๆ ลง อัตราการเติบโตในงบโฆษณาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงลดลง

ยอดโฆษณาปี 2538 พบว่า ลดลงเหลือเพียงประมาณ 4,208 ล้านบาท แต่พอสิ้นสุดปี 2539 ปรากฏตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 5,559 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ในปี 2539 มีโครงการน้องใหม่เกิดขึ้นหลายโครงการ ประกอบกับผู้ประกอบการหลายรายที่หยุดหรือชะลอโครงการไว้ จำเป็นต้องเปิดขายต่อไป รวมทั้งค่าโฆษณาในสื่อต่าง ๆ ก็ต่างพากันขึ้นราคากันเป็นส่วนใหญ่

อาจจะกล่าวได้ว่า แลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นค่ายแรก ๆ ทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวปรับปรุงรูปแบบในการโฆษณาโดยแทนที่จะหว่านโฆษณา ในโครงการต่าง ๆ ลงตามหน้าหนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับ กลายเป็นรวบรวมโครงการทั้งหมดที่กำลังขายให้รายละเอียดเพียงสั้น ๆ บอกเพียงทำเลที่ตั้ง เนื้อที่ ราคา หมายเลขโทรศัพท์ และกิจกรรมพิเศษในช่วงนั้น ๆ ไว้แล้วทำเป็นใบแทรกลงเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่คาดว่าเป็นลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด โดยใช้ชื่อว่า "แลนด์แอนด์เฮ้าส์ไกด์"

ปี 2539 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ไกด์จะลงในสื่อสิ่งพิมพ์ประมาณ 5 ฉบับของทุกวันพฤหัสบดี โดยใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท ในปี 2540 อนันต์ อัศวโภคิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ประกาศชัดเจนว่า จำเป็นต้องรีดไขมันออก โดยเฉพาะในส่วนของงบโฆษณาที่จะใช้น้อยลงกว่าปี 2539 ซึ่งใช้ไปประมาณ 200 ล้านบาทเศษ อีกประมาณ 20-25%

ในขณะเดียวกัน ค่ายใหญ่อย่างพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กลับมีความเห็นทีแตกต่าง ในปีที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ใช้งบในการโฆษณาประมาณ 133 ล้านบาท เท่ากับ 3% ของยอดขายประมาณ 4,500 ล้านบาท ส่วนปีนี้ ตั้งยอดขายไว้ 5,500 ล้านบาท ก็ยังจะตั้งตัวเลขโฆษณาไว้ที่ 2.5-3% เช่นเดิม

พาณีพรรณ ทิสาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ชี้แจงกับ "ผู้จัดการรายเดือน" ว่า งบการโฆษณาของบริษัทคงไม่ลดลง แต่จำเป็นต้องวางแผนในการลงโฆษณามากขึ้น ศึกษารายละเอียดของสื่อต่าง ๆ ที่มีเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ ทีวี หรือคลื่นวิทยุต่าง ๆ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้ามากที่สุด

"เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในเรื่องการวางแผน เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทไม่ใช่กลุ่มที่หยุดนิ่ง แต่จะติดตามสื่อใหม่ ๆ ที่ออกมาตลอดเวลา" พาณีพรรณ กล่าว

ส่วนในปี 2540 นี้ ทางค่ายพร็อพเพอร์ตี้ฯ จะเปลี่ยนรูปแบบของ เพอร์เฟค นิวส์ ที่เป็นใบสอดแทรกในลักษณะเดียวกับแลนด์แอนด์เฮ้าส์ไกด์ มาใช้แจกเฉพาะกลุ่มลูกค้าเท่านั้น จุดประสงค์ก็เพื่อให้ลูกค้าได้ติดตามข่าวสารความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ของบริษัท นอกจากนั้น ได้ออกใบแทรกที่ใช้ชื่อว่า "บ้านใหม่" สอดตามสื่อต่าง ๆ แทนเพอร์เฟ็คนิวส์ ซึ่งในบ้านใหม่นี้ จะมีข่าวสารรายละเอียดต่าง ๆ ของบริษัท รวมทั้งโครงการใหม่ ๆ ให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้ใช้เป็นคู่มือเพื่อประกอบในการตัดสินใจซื้อโครงการอีกด้วย โดยกำหนดให้มีเดือนละ 1 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2540

สำหรับผู้ประกอบการทางด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในธุรกิจนี้หลายราย เช่น แชลเลนจ์กรุ๊ป ของราศรี บัวเลิศนั้น บุณฑริก กุศลวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย กล่าวว่า ทางบริษัทได้วางงบประมาณในการโฆษณาไว้ประมาณ 3-5% เช่นเดียวกับค่ายอื่นๆ และในปี 2539 ที่ผ่านมานั้น ใช้ไปประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งนับว่ามากกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา เพราะจากเดิมแทบจะไม่ได้ใช้เลย สาเหตุเป็นเพราะปีที่แล้ว ทางบริษัทมีโครงการที่เปิดใหม่หลายโครงการ

ส่วนในปี 2540 นั้น ถึงแม้จะอยู่ในช่วงรัดเข็มขัด เช่นเดียวกับโครงการอื่น แต่ก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการโฆษณาเท่าเดิม เพราะหลายโครงการกำลังพัฒนาต่อเนื่อง แต่ต้องหาวิธีการให้รัดกุมขึ้น เช่น อาจจะใช้วิธีการไดเร็กต์มากขึ้น โดยหาฐานจากลูกค้าเดิม ทางด้านโฆษณาทางทีวีนั้น ทางบุณฑริกา ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะบริษัทเป็นน้องใหม่ทางด้านที่อยู่อาศัย จำเป็นต้องให้รู้จักในวงกว้าง

ส่วนบริษัทอื่น ๆ ผู้บริหารก็จะออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า งบประมาณทางด้านโฆษณา และประชาสัมพันธ์ของบริษัทนั้น แน่นอนว่า ในปีนี้ คงต้องถูกควบคุมอย่างหนัก เพื่อเป็นการลดต้นทุน แต่ก็เชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นจำนวนที่ลดลงอย่างมากมาย เพราะในปีนี้การแข่งขันทางด้านการขายก็ไม่ได้ลดลง เพียงแต่ว่าจะหาวิธีการเช่นใดให้ตรงกับลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด การลงโฆษณาหว่านในทุกสื่อสิ่งพิมพ์ครั้งละหลาย ๆ หน้าคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.