สาลี่ฯรับสภาพกำไรปีนี้หดคาด 49 รายได้เพิ่มขึ้น30%


ผู้จัดการรายวัน(1 ธันวาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

สาลี่ฯ ยอมรับไตรมาส 4 กำไรลดลงจากไตรมาส 3 เหตุมีค่าใช้จ่ายจากการย้ายโรงานจำนวน 4.5 ล้านบาท ประเมินปีหน้ารายได้เพิ่มขึ้น 30% ตั้งงบลงทุนในเครื่องจักรไม่เกิน 150 ล้านบาท เตรียมส่งออกเพิ่มขึ้นจากไม่ถึง 5% เพิ่มเป็น 20% ลุยตลาดยุโรปและสหรัฐฯ

นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการบริษัทสาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่า ผลประกอบภายในไตรมาส 4 คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงจากไตรมาส 3 เนื่องจากบริษัทจะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายจากการย้ายโรงงาน จาก ต.คลองหนึ่ง จ.ปทุมธานี เพื่อย้ายไปคลองสี่ซึ่งโรงงานแห่งใหม่ โดยมีค่าใช้จ่ายจำนวน 4.5 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าจ้างในการขนย้ายประมาณ 3 ล้านบาทและค่าทรัพย์สินที่ต้องตัดสูญจากการย้ายประมาณ 1.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ คาดว่าผลประกอบการในปี 2548 จะมี กำไรที่ลดลงจากปีก่อนแต่ในแง่ของรายได้คงจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% ส่วนในปีหน้าบริษัท ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 30% เช่นเดียวกับช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาซึ่งบริษัทมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยปีละ 30% ต่อปี

"โรงงานแห่งใหม่นั้นมีพื้นที่ 2 หมื่นตารางเมตร ซึ่งขณะนี้ได้ใช้พื้นที่ไปแล้ว 50% ส่วนอีก 50% รอการขยายงานในปีหน้า ซึ่งจะมีเครื่องจักรใหม่สำหรับฉีดพลาสติกเข้ามาไม่ต่ำกว่า 6-8 เครื่อง ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท จะช่วยทำให้เพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 40% ซึ่งจะเข้ามาภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 โดยเครื่องจักรใหม่นี้จะรองรับกับลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามา" นายสาทิสกล่าว

นอกจากนี้ ภายในปีหน้าจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นคาดว่าจะได้รับลูกค้าใหม่ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์แล้วอีก 1 รายซึ่งจะมียอดสั่งซื้อประมาณ 40 ล้านบาทต่อปี และยังวางเป้าหมายเพิ่มยอดขายการส่งออกจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนไม่ถึง 5% จะเพิ่มเป็น 20% โดยจะส่งออกไปที่ยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งจะอาศัยบริษัทที่เป็นพันธมิตรจากสิงคโปร์เข้ามาช่วยสนับสนุน สำหรับเงินลงทุนในปีหน้าขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดแน่นอน เพราะจะต้องรอพิจารณาเงินลงทุนของบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยก่อนว่าจะใช้จำนวนเท่าใด

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินลงทุนทั้งหมดในกลุ่มจะไม่เกิน 150 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนซื้อเครื่องจักรโดยจะเป็นเงินลงทุนในส่วนของบริษัทสาลี่อุตสาหกรรมประมาณ 40-50 ล้านบาท และบริษัทสาลี่ เอคอท(ประเทศไทย)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยอีกแห่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 30-35 ล้านบาท

ส่วนปัจจัยเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบนั้น นายสาทิสกล่าวว่า บริษัทนั้นไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากบริษัทแม่คือบริษัท วีไอวี อินเตอร์เคม จำกัดนั้นเป็นผู้นำเข้าเคมี-ภัณฑ์จากทั่วโลกเพื่อเข้า มาจำหน่ายในประเทศไทยดังนั้น เมื่อมีสัญญาณว่าราคาวัตถุดิบจะปรับตัวสูงขึ้นบริษัทแม่ก็จะแจ้งให้บริษัทได้รับทราบทำให้บริษัทสามารถไปบริหารในส่วนนี้ได้

นายสุพจน์ สุนทรินคะ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจบริษัทสาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตการขึ้นรูปพลาสติกอีก 50% โดยซื้อเครื่องจักร ILLIG เพิ่มอีก 1 เครื่องซึ่งจะเข้ามาภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธ.ค.นี้ โดยจะเน้นลูกค้าด้านอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยเฉพาะชิ้นงานที่ต้องการความสะอาดสูง เพราะบริษัทจะมีห้อง Clean Room และWashing Machine ในโรงงานใหม่

ส่วนธุรกิจผลิตฉลากสินค้า ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทสาลี่ พริ้นท์ติ้งจำกัดนั้น ในช่วงที่ผ่านมามีลูกค้านรายใหญ่ที่เป็นยี่ห้อพรีเมียมเพิ่มขึ้น เช่นลูกค้า P&G LOREAL NIVEA เป็นต้นและคาดว่าภายในปี 2549 จะได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเดิมรายหนึ่งอีก 15 ล้านบาทต่อไตรมาส สำหรับโครงการร่วมทุนทำแม่พิมพ์กับผู้ร่วมทุนจากประเทศสิงคโปร์นั้นคาดว่าจะทำให้ภายในปีหน้าจะมีรายได้ในส่วนนี้ประมาณ 70%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.