ซินดี้ คอว์ฟอร์ด นางแบบสาวชื่อก้องโลก พรีเซนเตอร์คนแรกของนาฬิกาหรูโอเมก้า
ในคอลเล็กชั่นใหม่ constellation ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นหนุ่มสาววัยจ๊าบกระเป๋าหนักทั้งหลาย
นี่เป็นครั้งแรกที่โอเมก้าขยับตัวเข้าสู่ตลาดวัยรุ่น จากแต่เดิมเน้นกลุ่มวัยกลางคนเป็นหลัก
โดยชูภาพของดาวเด่นที่เป็นขวัญใจของคนวัยหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จจากวงการต่าง
ๆ ซินดี้ คอว์ฟอร์ด จากวงการแคทวอล์ค มิเกล ชูมาร์เกอร์ จากสนามแข่งรถระดับโลก
มาร์ติน่า ฮินกิส สาวน้อยจากสนามลูกสักหลาด และเจมส์ บอนด์คนใหม่ เพียซ บรอสนัน
จากโลกมายาฮอลลีวู้ด บุคคลเหล่านี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "ทูต"
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างโอเมก้ากับกลุ่มเป้าหมายในประเทศต่าง
ๆ ทั่วโลก โดยโอเมก้าเองก็เชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า กลยุทธ์นี้จะประสบความสำเร็จในตลาดไทย
"เราจะเลือกคนที่เป็น The best ซินดี้เป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง เป็นมืออาชีพที่ดี
เป็นคนมีจิตใจที่ดี ดูดี เธอเป็นที่ 1 เราเลือกคนที่เป็นที่ 1 เจมส์บอนด์
เป็นหนังที่ดีที่สุดเพราะสิ่งที่ทุกคนชอบก็คือ เงิน อำนาจ หน้าที่ หรือแม้แต่
sex appeal ทุกอย่างนั่นคือสิ่งที่ผู้ชายฝันใฝ่ เพียซ บรอสนันเป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
หรือแม้แต่นักแข่งรถมิเกล ชูมาร์เกอร์ เขามีรถเฟอรารีที่ดีที่สุด เป็นนักขับรถที่ดีที่สุด
เป็น world champion ฉะนั้นเราจะเลือกเอาคนที่เป็น The best เสมอ นักเทนนิส
มาติน่า ฮินกิส อายุ 16 ปี เป็นนักกีฬาที่เก่งที่สุด เมือ่เราได้คนที่ดีที่สุด
สิ่งที่เราต้องจ่าย จึงถือเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะสิ่งที่เราได้คืนมาเป็น
The best" ฌอง คล็อด บีเวอร์ รองประธานกรรมการกลุ่มบริษัท SMH ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ติด
1 ใน 3 ของโลก
ด้วยกำลังการผลิตตกปีละ 6-70,000 เรือน ที่ควงแขนซินดี้ มาเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่
constellation สำหรับสุภาพสตรีผู้ชื่นชอบความหรูหราชาวไทยด้วยตัวเอง ในวันเดียวกับที่เปิด
Planet Hollywood เป็นซูเปอร์สตาร์คนแรก
ซินดี้ ตกลงใจเซ็นสัญญา 6 ปี รับเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโอเมก้าเมื่อกันยายน
1994 ด้วยเหตุผลของความเป็นมืออาชีพโดยแท้ของโอเมก้า ด้านโอเมก้าที่ตัดสินใจเลือกซินดี้ก็เพราะความสวยส่วนหนึ่ง
ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็คือ ความสามารถในการสื่อสารและถ่ายทอดกับคนรุ่นเดียวกันได้เป็นอย่างดี
ว่ากันง่าย ๆ ก็คือ ซินดี้มีอิทธิพลค่อนข้างสูงต่อคนกลุ่มวัยรุ่นมีสตางค์อายุรุ่นราวตั้งแต่
20 เหมือนกับซินดี้ และซูเปอร์สตาร์คนอื่น ๆ โดยในสัญญาว่าจ้างนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การออกงานเปิดตัวสินค้าที่ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์
การออกแบบที่เข้ามามีส่วนร่วม แนะนำ การเยี่ยมลูกค้า ตลอดจนถึงการออกงานเลี้ยงอาหารเย็น
การดึงดาวรุ่งจากวงการต่าง ๆ เข้ามาสร้างตลาดเพิ่มยอดขายของโอเมก้าครั้งที่
1 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้ปรากฏแล้วว่า คิดไม่ผิด เพราะหลังจากที่ได้ซินดี้มาเป็นพรีเซนเตอร์
ยอดขายนาฬิการุ่น constellation สำหรับสุภาพสตรีได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว
มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากยอดขายเฉลี่ยที่โตเพียงปีละประมาณ 3-6%
กระโดดขึ้นมาถึง 28% ซึ่งก็หมายความว่า ในผู้หญิงทุก ๆ 100 คน มี 28 คนซื้อโอเมก้ารุ่นนี้ไปใช้
ในเอเชีย โอเมก้าได้นำซินดี้ เข้าไปเปิดตลาดที่โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง
และสิงคโปร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับในตลาดไทย ผู้บริหารวางเป้าหมายว่ายอดขายจะต้องเพิ่มมากขึ้นเป็น
3 เท่าให้ได้ภายในปลายปี 1998 ซึ่งนอกจากใช้ซูเปอร์สตาร์ตรึงความสนใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว
ยังจะต้องมีการขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นให้ได้ถึงประมาณ 40-50
แห่งจากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 15 แห่งเท่านั้น ทั้งนี้ บีเวอร์ คาดว่า หากเริ่มต้นทำในช่วงนี้ไปจนถึงปลายปีหน้าจะขยายได้เพียง
37-41 แห่งเท่านั้น
"นี่เป็นครั้งแรกของโอเมก้าในการเปลี่ยนโฉมตนเองจากรูปลักษณ์นาฬิกาคลาสสิกสำหรับวัยกลางคน
มาเป็นคนรุ่นใหม่วัยแรงมากขึ้น การกระตุ้นยอดขายให้ได้ 3 เท่าแม้จะมองว่าเป็นการเติบโตที่เร็วมาก
แต่ก็ยังไม่มากที่สุดในเอเชีย เพราะโอเมก้าไม่เคย active ในตลาดไทยเลย ดังนั้น
ถ้าเราเข้ามาพร้อมกับซินดี้ เจมส์บอนด์ ชูมาร์เกอร์ จะทำให้เราเป็นที่รู้จักและ
active มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ เราค่อนข้างเงียบ เพราะสินค้าเราจะเน้นวัยกลางคนและเป็นแบบคลาสสิก
เรามีแผนที่จะโปรโมตในเมืองไทยอีกมาก แต่ยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ บางทีเราอาจจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับซินดี้
และในวันนี้ก็เป็นเพียงการเปิดตัวบอกกล่าวแก่ชาวไทยว่าเราชอบคุณ เรามาแล้ว
และเข้ามาทำงานในบ้านของคุณแล้ว นี่เป็นเพียงการแนะนำตัวเท่านั้น" บีเวอร์
ผู้บริหารอารมณ์ดีกล่าวถึงจุดเปลี่ยนและแนวทางที่กำลังจะเดินไปในตลาดไทยของโอเมก้า
ในบรรดาตลาดเอเชีย ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่โอเมก้ามีส่วนแบ่งมากที่สุด รองลงมาเป็น
ฮ่องกง และจีน และนับจากนี้ไป โอเมก้าจะหันมาบุกตลาดกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมา เอเชีย แปซิฟิก เป็นภูมิภาคที่สร้างยอดขายให้โอเมก้าสูงสุดประมาณ
50% ของยอดขายทั้งหมดทั่วโลก ขณะที่อเมริกาและยุโรปสร้างยอดขายเพียง 33%
และ 20% ตามลำดับ
สำหรับสนนราคานาฬิกาโอเมก้าประมาณ 90% จะอยู่ระหว่างราคา 1,200-9,000 เหรียญสหรัฐ
(ประมาณ 30,000-225,000 บาท) แต่สำหรับราคาของรุ่น constellation ที่เปิดตัวนี้ราคาจะตกประมาณ
2,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50,000 บาท
"เราคาดหวังว่า ไทยจะขึ้นมาเป็นตลาดหลักของเราได้ เพราะว่าคนไทยขอบของหรูหรา
ชอบนาฬิกา และเศรษฐกิจของประเทศก็มีการพัฒนาเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว ผมต้องการให้โอเมก้าเป็นนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของคนหนุ่มสาวชาวไทย
เราต้องการสร้างตลาดไทยให้เป็นผู้นำตลาดในอาเซียนภายในปลายปี 1998"
บีเวอร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ พร้อมทั้งหยอดมาด้วยว่า ภายใน 3 ปีนี้ยอดขายทั่วโลกของโอเมก้าจะเพิ่มขึ้น
50-60%
ตบท้าย บีเวอร์ กล่าวถึงภาวะการแข่งขันของธุรกิจนาฬิกาว่าเป็นเรื่องที่ดี
ทว่าคู่แข่งที่สำคัญของโอเมก้าขณะนี้ก็คือ การจัดระบบการบริหารงานภายในที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้
"บางทีปีหน้าเราอาจจะบอกได้ว่าใครเป็นคู่แข่งของเรา เวลานี้ผมไม่รู้"
จากนี้ไปเหล่าวัยจ๊าบกระเป๋าหนักทั้งหลายที่ชอบสวมใส่นาฬิกาเป็นเครื่องประดับ
คงมีตัวเลือกใหม่ให้ได้ลิ้มลองกันอีกแล้ว !!!