ไฟเขียวลดภาษีศุลกากร9รายการ หวังลดต้นทุนการผลิต-เพิ่มการแข่งขัน


ผู้จัดการรายวัน(30 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ครม. อนุมัติปรับโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรรวม 9 รายการ หวังช่วยลดต้นทุน การผลิตและเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขันให้กับผู้ผลิตในประเทศ

นายสมชัย สัจจพงษ์ รอง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (29 พ.ย.) ได้มีมติให้ความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการผลิตในประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ รวมจำนวนทั้งสิ้น 9 ประเภทย่อย

สำหรับสินค้าทั้ง 9 รายการ ประกอบด้วย สาหร่ายทะเลที่ นำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตวุ้น อะลูมินัสต์ซีเมนต์ เครื่องจักรผสม เส้นใย (Blow room) แผ่นเหล็ก TMBP ชิ้นส่วนที่นำเข้ามาใช้ประกอบเป็นอุปกรณ์ล้างไตทางช่อง ท้องระบบ 2 ถุง และโพลิอะไมด์ในลักษณะขั้นปฐมภูมิ

"การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรทั้ง 9 ประเภทย่อย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบนั้น ทางกระทรวงการคลัง ได้หารือ และได้ข้อสรุปร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย"

ส่วนรายละเอียดของการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การปรับลดอัตราอากรขาเข้าปัจจัยการผลิตที่ไม่มีผลิตในประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 8 ประเภทย่อย คือ

1. สาหร่ายทะเลสำหรับที่นำเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตวุ้นจากปัจจุบันอัตราอากรขาเข้าเท่ากับ 5% ลดลงเหลือ 1%

2. อะลูมินัสซีเมนต์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตคอนกรีตทนไฟ จากปัจจุบัน อัตราอากรขาเข้าเท่ากับ 10% ลงเหลือ 1%

3. เครื่องจักรผสมเส้นใย (Blow room) ที่ใช้ในกระบวนการ ผลิตเส้นด้ายของอุตสาหกรรม สิ่งทอ จากปัจจุบันอัตราอากรขาเข้า เท่ากับ 5% ลงเหลือ 1%

4. แผ่นเหล็ก TMBP ชนิดที่นำมาใช้ในการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และเหล็กแผ่นเคลือบ โครเมียม โดยขยายระยะเวลาในการปรับลดอัตราอากรขาเข้าในอัตรา 1% ต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549

5. ชิ้นส่วนที่นำเข้ามาใช้ประกอบเป็นอุปกรณ์ล้างไตทางช่องท้องระบบ 2 ถุง จาก อัตราอากรขาเข้าปัจจุบันเท่ากับ 3%- 20% ลงเหลือ 1%

6. ทบทวนการปรับปรุงอัตรา อากรขาเข้าสินค้าเฉพาะโพลิอะไมด์-6 เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการผลิตในประเทศสามารถแข่งขันได้ โดยปรับเพิ่มอัตราอากรขาเข้าจากปัจจุบันเท่ากับ 5% เป็น 12.5% หลังจากนั้นจะทยอยปรับลดอัตราอากรขาเข้าลง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549

อัตราอากรขาเข้าจะปรับลดลงเหลือ 8.75% และสำหรับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป อัตราอากรขาเข้าจะปรับลดลงเหลือ 5% เท่ากับอัตราอากรตามโครงสร้างการผลิตที่กระทรวงการคลัง กำหนด

"การดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรสินค้าทั้ง 9 ประเภทย่อยข้างต้น จะช่วยลดต้นทุนการผลิตในส่วนของภาระภาษีนำเข้า และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการผลิตในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ รัฐสูญเสียรายได้ในส่วนของภาษีศุลกากรไปเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 8.5 ล้านบาท"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.