ก.พาณิชย์ชงรีดภาษีชาเขียว แฉต้นทุนแค่8.50บาทต่อขวด


ผู้จัดการรายวัน(30 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บีโอไอแจงเอาผิดโออิชิไม่ได้เหตุเงื่อนไขเปิดช่องโหว่ ชี้อย่างดีแค่เสียภาษี ด้านพาณิชย์หาทางลงให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI มีการนำเข้าใบชาจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ ในการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูปพร้อมดื่มว่า ตามเงื่อนไขการขอส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอแล้ว ไม่ถือว่าผิด เนื่องจากทางโออิชิได้ระบุว่าจะใช้ชา ที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่า ทางโออิชิไม่สามารถนำเข้าชาจากต่างประเทศ

ดังนั้น การที่โออิชิจะนำเข้าใบชาจากต่างประเทศบางส่วนเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวจึงถือว่าไม่ผิดหลักการเพียงแต่ใบชาที่โออิชินำเข้ามาจากต่างประเทศนั้นต้องเสียภาษีตามระเบียบของกรมศุลกากร

"เรื่องนี้คงเอาผิดยาก เพราะโออิชิสามารถนำเข้าใบชาจากต่างประเทศเพื่อนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มชาเขียวได้ จากการที่รายละเอียดในการขอส่งเสริมการลงทุนทางโออิชิระบุเพียงว่าจะใช้ใบชา ที่ผลิตได้ในประเทศเป็นหลัก ซึ่งทางบีโอไอก็จะเข้าไปดูเฉพาะส่วนที่โออิชิแจ้งขอส่งเสริมการลงทุน หากมีการนำเข้าจากต่างประเทศก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ส่วนไหนที่อยู่นอกเหนือที่แจ้งไว้ทางโออิชิก็ต้องเสียภาษีตามปกติ ดังนั้น การที่โออิชิ นำเข้าใบชาจากต่างประเทศก็ไม่ถือว่าผิดหลักการการขอส่งเสริมการลงทุน" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งจัดทำรายละเอียดของสินค้าเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพื่อส่งเรื่องไปยังกรมสรรพสามิตให้พิจารณาสินค้าชาเขียวเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ต้องเสียภาษี เพราะที่ผ่านมาเครื่องดื่มชาเขียวได้รับการ ยกเว้นภาษีเพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร แต่หลังจากพบว่ามีผู้ประกอบการชาเขียวบางรายมีการนำเข้าหัวเชื้อชาเขียวจากต่างประเทศเข้ามาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตก็น่าจะต้องเสียภาษี

"กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยจะมีสินค้าใหม่หลายรายการที่ต้องเสียภาษี ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์เองก็กำลังจัดทำข้อมูลสินค้าที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีส่งไปยัง กรมสรรพสามิต ดังนั้น หากวันที่ 2 พ.ย.ไปแล้ว ผู้ประกอบการชาเขียวยังไม่ยอมปรับลดราคาจำหน่ายลง ทางกระทรวงพาณิชย์ก็จะส่งเรื่องให้ชาเขียวเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษี" แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการไม่ยอมปรับ ลดราคาจำหน่ายชาเขียวลงมาอีกก็ไม่สามารถบังคับได้ แต่จะให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายตัดสินใจ เนื่อง จากต้นทุนการผลิตชาเขียวบรรจุขวดขนาด 500 ซีซีต่ำเพียง 8.50 บาทเท่านั้น ในขณะที่ราคาจำหน่ายชาเขียวบางยี่ห้ออยู่ที่ขวดละ 20 บาท แต่บางรายขวดละ 15 บาท ดังนั้นผู้บริโภคต้องเป็นฝ่ายเลือก

"สาเหตุที่ทางกระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการชาเขียวปรับลดราคาจำหน่ายลง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ประกอบการตั้งราคานำตลาดที่สูงเกินควร ทั้งๆ ที่ต้นทุนการผลิตไม่สูงมาก ซึ่งถือว่าเป็นการ เอาเปรียบผู้บริโภค แต่กระทรวงฯไม่มีกฎหมายไปบังคับให้ผู้ประกอบการลดราคาจำหน่ายได้ ดังนั้น ผู้บริโภคต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่ายังจะบริโภคสินค้า ที่มีราคาสูงเกินจริงอีกหรือไม่" แหล่งข่าวกล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.