หุ้นหลังคาตราเพชรร่วงต่ำจอง20% บล.บัวหลวงปลอบแนะรอปันผล9%


ผู้จัดการรายวัน(30 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

กระเบื้องหลังคาตราเพชร ลุยตลาดหุ้นท่ามกลางภาวะผันผวน หน้ามืดเทรดวันแรกรูด 19.87% ที่ปรึกษาฯชี้ภาวะไม่เอื้อ นักลงทุนกังวล หลายปัจจัย แนะถือระยะยาวรับปันผลกว่า 9% เตรียมใช้กรีนชูออปชันสร้าง เสถียรภาพราคา "ประกิต" ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 2 พันล้าน ปีหน้าโต 10-20%

วานนี้(29 พ.ย.) หุ้นบริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชรจำกัด (มหาชน) หรือ DRTเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรกโดยราคาจองซื้ออยู่ที่7.80 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาเปิดที่ระดับ 7.00 บาท ลดลงต่ำกว่าจอง 0.80 บาทโดยราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 7.20 บาท ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 6.25 บาท ลดลง 1.55 บาท หรือ 19.87% มูลค่า การซื้อขาย 267.84 ล้านบาท

นายประกิต ประทีปะเสน ประธานกรรมการบริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพรช จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 2,000กว่าล้านบาทและมีกำไร 200-215 ล้านบาท โดยช่วง 9 เดือนบริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาทแล้วซึ่งรายได้หลักในปีนี้มาจากกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ 60% กระเบื้องคอนกรีต 25% และ ที่เหลือ 15% มาจากไม้ฝา ทั้งนี้ในปี 2549 บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้อัตราการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 10-20% เนื่องจากบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตในสินค้าเพิ่มขึ้นจากความต้อง การที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะไม้ฝา

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศในประเทศ เพื่อนบ้านประเภทกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ซึ่งได้รับความนิยมมากส่วนการที่ราคาหุ้นซื้อขายวันแรกราคาต่ำกว่าราคาจองที่ 7.80 บาทนั้นน่าจะเกิดจากภาวะตลาดหุ้นที่ไม่เอื้ออำนวย และหุ้น DRT มีนักลงทุนราย ย่อยถือในสัดส่วนจำนวนมากเมื่อสถานการณ์ไม่ดีจึงมีการเทขายออกมา แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความ มั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่งที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต ของธุรกิจอย่างต่อเนื่องและสามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอโดยนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิส่วนการจัดสรรหุ้นส่วน เกิน(กรีนชู)ไม่เกิน 6 ล้านหุ้นนั้นทางที่ปรึกษาทางการเงินคงมีการพิจารณาและมีการนำมาใช้บางส่วน

นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำ ในการจัดจำหน่ายหุ้นบริษัท กระเบื้อง หลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้ ราคาหุ้น บมจ.กระเบื้องหลังคาตราเพชรต่ำกว่าราคาจองซื้อเกิดจากภาวะตลาดหุ้นไม่อำนวยเนื่องจากนักลงทุนยังรอความชัดเจนในหลาย เรื่อง โดยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีก็ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เรื่องที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นเรื่องคำสั่งของศาลฎีกาในเรื่องการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI ว่าจะออกมาในทิศทางใด

นอกจากนี้ การกำหนดราคาจองซื้อถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมโดยราคาดังกล่าวเมื่อเทียบกับระดับพีอีเรโซอยู่ที่ประมาณ 6 เท่า กว่า ซึ่งหากเทียบกับพีอีเรโซในกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ระดับ 10 เท่า ก็ถือว่าเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนเป็นนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลบริษัทได้ประมาณการการจ่ายเงินปันผลของหุ้นบมจ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร จากผลการดำเนินงานงวดปี 2549 ซึ่งน่าจะจ่ายเงินปันผลได้ในระดับ 0.55-0.60 บาทต่อหุ้นหรือ 7-8% เมื่อเทียบกับราคาจองซื้อ

"ถ้าจะถือลงทุนระยะยาวผมว่าผลตอบแทนค่อนข้างจะดียิ่งราคาหุ้นที่ต่ำลงไปผลตอบแทนจากเงินปันผลในปีหน้าจะสูงถึงประมาณ 9%" นาย ญาณศักดิ์กล่าว

ในส่วนเรื่องการใช้หุ้นส่วนเกิน (กรีนชูออปชัน) บริษัทได้จัดสรรหุ้นส่วนเกิน(กรีนชู)ไม่เกิน 6 ล้านหุ้นซึ่งจะต้องมีการปรึกษากับบริษัทก่อน ซึ่งการใช้หุ้นส่วนเกินไม่ใช่เป็นการใช้เพื่อทำให้ราคาหุ้นที่ซื้อขายไม่ต่ำกว่าราคาจอง แต่เป็นการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นในระยะยาวซึ่งบริษัทมีเวลา 30 วันในการพิจารณาการกำหนดนโยบายการใช้ในเรื่องดังกล่าว

นายวิจิตร สุพินิจประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าวว่านักลงทุนที่จะเข้า มาลงทุนในตลาดหุ้นไทยควรเน้นการ ลงทุนในระยะยาวอย่ามองแค่ระยะสั้นเท่านั้น

ทั้งนี้ การเข้าซื้อขายของหุ้นบมจ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)แม้ราคาจะต่ำกว่าราคากว่าจอง ก็ไม่เป็นสิ่งที่น่าห่วง เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และในระยะยาว บริษัทก็จะได้รับผลดีจากการลงทุนในโครงการของรัฐบาลซึ่งจะสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.