|

กบข.ลุยโครงการเพื่อสังคม เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นตปท.
ผู้จัดการรายวัน(29 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เปิดแผนลงทุนปี 49 กบข. "วิสิฐ" เผยพอร์ตการลงทุนจะให้น้ำหนักกับโครงการเพื่อสังคม โดยเฉพาะการลงทุนในตราสารที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนในเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล พร้อมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศ เตรียมขอเพิ่มเพดานการลงทุนจาก 10% เป็น 20% ของพอร์ต ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปีหน้าคาดกระเตื้อง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มนิ่ง ปัญหาเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย คาดกำไร บจ.พุ่ง
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า นโยบายการลงทุนของกบข.ในปี 2549 จะให้น้ำหนักกับการลงทุนโครงการเพื่อสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนในสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างระบบรางที่มีมูลค่ากว่า 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินผลตอบแทนการลงทุนว่า โครงการไหนให้ผลตอบแทนการลงทุนคุ้มค่ามากที่สุด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับกบข.
สำหรับนโยบายการลงทุนในต่างประเทศของกบข. ในช่วงปีหน้าจะให้น้ำหนักกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสัดส่วนสูง โดยปัจจุบันพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศของกบข.แบ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ และตลาดหุ้น ซึ่งในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นปัจจุบันมีการลงทุน 0.75% จะเพิ่มเป็น 5% ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ กบข.อยู่ระหว่างการขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขยายเพดานการลงทุนในต่างประเทศ จากปัจจุบันสามารถลงทุนในต่างประเทศได้คิดเป็นวงเงิน 10% ของพอร์ต เพิ่มเป็น 20% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุนในประเทศ และแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนให้ได้ในสัดส่วนที่สูง
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ของ กบข. ขณะนี้ร่างพ.ร.บ. กบข.อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกของ ปี 2549 ร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านการพิจารณา และทำให้การลงทุนของ กบข. มีความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอนาคตหลังกฎหมายผ่าน กบข.จะสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องผ่าน บลจ. ซึ่งทำให้สามารถบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านผู้จัดการกองทุนของกบข.
นอกจากนี้ กบข.ยังมีนโยบายที่จะเพิ่มน้ำหนัก การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ผ่านกองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ซึ่งขณะนี้ ผู้จัดการกองทุนของกบข. อยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้าไปลงทุน เพื่อประโยชน์สูงสุดของ กบข.
นายวิสิฐ กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปี 2549 ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปีหน้าคาดว่าจะกระเตื้องขึ้น เนื่องจากภาพรวมการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) จะขยายตัวในอัตราสูงเมื่อเทียบกับปีนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในช่วงขาขึ้นส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย มีความผันผวน และส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในปีหน้าคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจและน่าจะได้รับประโยชน์การที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงคือ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้ผลประกอบการหุ้นในกลุ่มธนาคารปรับตัวในทิศทางเดียวกัน ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงปีหน้า คาดว่าจะเริ่มลดความร้อนแรงลง ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับพอร์ตการลงทุนของ กบข. ในช่วงที่ผ่านมา กบข.เริ่มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 670 จุด ซึ่งถือว่าต่ำมาก ส่งผลให้โอกาสในการทำกำไรเพิ่มขึ้นตามมา
เลขาธิการกบข. กล่าวอีกว่า การลงทุนในปี 2549 ถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย และ กบข.เองมีนโยบาย ลงทุน เพื่อให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อโดยปัจจุบันกบข.มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 2.8 แสนล้านบาทและคาดว่าในปีหน้าเอ็นเอวีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 10%
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|