|

เพิ่มแบล็กลิสต์คุมบจ.
ผู้จัดการรายวัน(28 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์คุมผู้บริหาร บจ.จับโทษ แบล็กลิสต์ไว้ในเกณฑ์รับหลักทรัพย์และการดำรงสถานะบริษัทจดทะเบียน กันบุคคลที่ไม่เหมาะสมเข้าเป็นผู้บริหารสอดคล้องเกณฑ์ ก.ล.ต. ด้าน นายก สมาคมโบรกเกอร์ ชี้ข้อตกลงย้ายงานมาร์เกตติ้งใหม่เลื่อนไปใช้ปีหน้า เหตุไม่ใช่ เรื่องเร่งด่วน หลังต้องเร่งทำแผนพัฒนาตลาดทุนให้ทันปลายปีนี้ แม้ ก.ล.ต.แนะให้สหภาพฯมาร์เกตติ้งร่วมพิจารณาเกณฑ์
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) คือ สำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ โดย ก.ล.ต.จะกำกับดูแลด้านการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหารที่จะเสนอขายหลักทรัพย์ ส่วนตลาดหลักทรัพย์จะกำกับดูแลใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกหลักเกณฑ์รับหลักทรัพย์และดำรงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยอิงกับหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต.และประการที่สอง หลักเกณฑ์การใส่ชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหาร(แบล็กลิสต์)
ดังนั้น เพื่อให้การกำกับดูแลสอดคล้องกันกับคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้อนุมัติให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลผู้บริหารจดทะเบียน โดยหลักเกณฑ์เรื่องบัญชีชื่อบุคคลที่ตลาด หลักทรัพย์ฯเห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหาร(แบล็กลิสต์)เข้ากับหลักเกณฑ์รับหลักทรัพย์และการดำรงสถานะของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะสอดคล้องกับการ ปรับหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต.ที่ได้กำหนดให้ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่ ก.ล.ต.กำหนด
"นับจากนี้ไปตลาดหลักทรัพย์ฯจะกำกับผู้บริหาร บริษัทจดทะเบียนโดยใช้เกณฑ์รับหลักทรัพย์ และการดำรงสถานะของบริษัทจดทะเบียนเกณฑ์เดียว ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการมิให้บุคคลที่ไม่เหมาะสมเข้ามาเป็นผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน" นายสุทธิชัยกล่าว กฎย้ายมาร์เกตติ้งใหม่ใช้ปีหน้า
ด้านนายกัมปนาท โลหเจริญวนิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ข้อตกลงการ ย้ายงานของเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งใหม่นั้นยังไม่ได้นำเข้าสู่คณะกรรมการบริหารของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาสหภาพแรงงานธุรกิจ หลักทรัพย์ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง ก.ล.ต.เพื่อขอเข้าร่วมในการพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว ทำให้สำนักงาน ก.ล.ต.มีการสอบถามมาว่า มีความเป็นไป ได้หรือไม่ที่จะให้สหภาพแรงงานฯเข้าร่วมด้วย ซึ่งคณะทำงานอาจจะมีการพิจารณาข้อตกลงการย้ายงานใหม่อีกรอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้พิจารณาข้อตกลงก็ยังเป็นผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเหมือนเดิม นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าวถือว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในขณะนี้แล้ว เพราะมีเรื่องเร่งด่วน เกี่ยวกับการร่วมทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งจะต้องให้เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ ดังนั้น จึงคาดว่าข้อตกลงการย้ายงานของเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งนี้จะสามารถเริ่มใช้ได้ภายในปีหน้าแทน
สำหรับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เข้าร่วมด้วยนั้น ในส่วนของสมาคม ก็มุ่งหวังที่จะทำให้ธุรกิจหลักทรัพย์มีความแข็งแกร่ง เพราะปัจจุบันนี้ บริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ของไทยนั้น จะมีรายได้หลักมาจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ในสัดส่วนที่สูงซึ่งจะแตกต่างจากบริษัทหลักทรัพย์ของต่างประเทศ ดังนั้น จึงพยายามที่จะสร้างรายได้ด้านอื่นๆ ให้กับบริษัทหลักทรัพย์ เช่น ด้านตราสารหนี้และด้านตลาดอนุพันธ์ที่จะเปิดซื้อขาย ภายในต้นปีหน้าเป็นต้น ซึ่งหน่วยงานของทางการ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์มีรายได้จากส่วนอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|