เอ.อาร์.จุดยืน"ไอทีมหาชน" คาด "คอมมาร์ต" พันล้าน


ผู้จัดการรายวัน(25 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เอ.อาร์. คาดตัวเลขเม็ดเงินสะพัดในงาน "คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2005" จะสามารถแตะระดับพันล้านบาทได้ในฐานะงานสุดท้ายที่ทุกค่ายจะกระหน่ำส่งท้ายปี เชื่อภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองไม่ส่งผลเนื่องจากเป็นงานที่ปลดปล่อยความอัดอั้นที่ตลาดไอทีนิ่งมาตลอดไตรมาส ระบุชัดกระแสโน้ตบุ๊กแรงจัดจนยอดขายอาจพุ่งถึง 1 หมื่นเครื่อง

นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไปบริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า การจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ เทียบได้กับเวทีสุดท้ายของปีที่ผู้ผลิตทุกค่ายจะทุ่มเททำตลาดอย่างเต็มที่ พร้อมประกาศจุดยืนว่า เอ.อาร์.จะเป็น "ไอทีมหาชน" ตัวกลางที่ดีที่สุดในการเชื่อมผู้ผลิตและผู้บริโภคทุกระดับชั้นเข้าด้วยกัน

"เราจัดงานมา 11 ครั้ง เราเชื่อว่าเราเป็นตัวกลางที่ดี เราสนิทกับเวนเดอร์ รู้ข้อมูลเวนเดอร์ว่ามีผลิตภัณฑ์อะไร ขณะที่เราก็สนิทกับผู้อ่าน รู้ว่าผู้อ่านซึ่งเป็นผู้บริโภคอยากได้อะไร เราเชื่อว่าเราพร้อมที่สุด เราตั้งใจจะเป็นไอทีมหาชนเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกระดับชั้น เป็นไอทีสำหรับทุกชนชั้น โดยงานนี้ผู้ผลิตหลายรายยกเอาผลิตภัณฑ์ใหม่มาเปิดตัวเต็มที่ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก ที่สำคัญงานนี้น่าจะเป็นงานสุดท้ายที่ดอกเบี้ยจะถูก เพราะปีหน้าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น จุดนี้น่าจะทำให้สัดส่วนการซื้อด้วยเงินผ่อนเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ จากเดิม 30 เปอร์เซ็นต์มาเป็น 40 เปอร์เซ็นต์"

นายปฐมเปิดเผยว่า เอ.อาร์. ตั้งเป้ายอดขายในงานไว้ที่หนึ่งพันล้านบาท เท่ากับยอดขายในงานคอมมาร์ตครั้งที่แล้ว คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 800,000 คน "

ตัวเลขยอดขายที่เราตั้งไว้ครั้งนี้เท่ากับยอดขายงานคอมมาร์ตครั้งก่อน แรกๆ เราคิดว่าสภาพเศรษฐกิจจะทำให้ยอดขายในงานครั้งนี้ลดลง แต่เราเชื่อว่าด้วยความอัดอั้นของตลาดไอทีที่นิ่งมาตลอดไตรมาสจะทำให้ยอดขายสามารถพลิกกลับมาเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมได้ สัดส่วนคนเข้าชมงานระหว่างคนเข้าชมงานกับคนที่ต้องการซื้อสินค้าครั้งก่อนๆ จะอยู่ที่สัดส่วน 50/50 คาดว่าครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ซื้อ"

สำหรับแนวโน้มการใช้จ่ายในงาน เอ.อาร์.คาดว่าโน้ตบุ๊กจะเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ที่ 7 - 8 พันเครื่อง ซึ่งคาดว่าอาจจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นเครื่องได้

"ที่เคยตั้งไว้ 7 - 8 พันเครื่อง อาจจะทะลุหมื่นเครื่องก็ได้ สถิติของปีที่ผ่านมาสินค้าอันดับหนึ่งคือโน้ตบุ๊ก สองคือกล้องดิจิตอล สามจะสลับกันระหว่างหน้าจอแอลซีดีกับพรินเตอร์ อันดับสี่ถึงจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป"

งานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2005 ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด "จินตนาการไร้ขีดจำกัดด้วยไอที" ผสมผสานความร่วมมือ ในเรื่องของ Smart IT for Smart SMEs ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2548 เวลา 10.00 -20.00 น. การจัดงานในครั้งนี้จะแบ่งส่วนแสดงเทคโนโลยีหลักๆ เป็น 2 ส่วนสำคัญ หนึ่งคือ งานคอมมาร์ต ซึ่งเป็นการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เช่น โน้ตบุ๊ก กล้องดิจิตอล เครื่องเล่น เอ็มพี 3 พร้อมการอบรมเวิร์กชอปและเทรนนิ่งทางด้านไอที สองคือส่วนงานคอมเทคเป็นส่วนแสดงเทคโนโลยีในเชิงประยุกต์สำหรับการ นำไปใช้ในภาคธุรกิจ SMEs ภายในแนวคิด Smart IT for Smart SMEs

นายปฐมอธิบายทิ้งทายว่ากล้องดิจิตอลจะขยายตัวในตลาด Replacement มาก ซึ่งแนวโน้มตลาดในอนาคตที่น่าจับตามอง คือ พีดีเอโฟน

"ปีหน้าน่าจะมา โดยเฉพาะผู้ที่ถือพีดีเอโฟนรุ่นแรกอยู่ จะถึงเวลาที่ต้องมองหารุ่นใหม่มาแทนรุ่นเดิม"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.