|
ตลท.บี้"ประชัย" พ้น3บจ.
ผู้จัดการรายวัน(23 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"กิตติรัตน์" ลงนามหนังสือถึง "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ให้พ้นจากการเป็นกรรมการ 3 บจ. โดยเร็วหลังก.ล.ต.ยืนยันการกล่าวโทษ พร้อมเตรียมเสนอบอร์ดวันนี้ขยายเวลาเพิกถอนบริษัทในรีแฮบโกอีก 1 ปี แต่ไม่ยืนยันว่าจะมีการยืดเวลา ขึ้นอยู่กับมติบอร์ด เผยขณะนี้มี 2-3 บริษัท ที่ไม่พยายามฟื้นฟูฯ จึงสมควร ถูกเพิกถอน ไม่ได้รับขยายเวลา
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า วานนี้ (22 พ.ย.) ตนได้ลงนามในหนังสือถึงนาย ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้ นายประชัย พ้นจากการเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย(TPI) บมจ.ทีพีไอโพลีน (TPIPL) และ บมจ.บางกอกสหประกันภัย (BKI)
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากคณะกรรมการอุทธรณ์ได้มีการพิจารณามาเวลาหนึ่ง โดยอ้างถึงการอุทธรณ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นั้นจบแล้ว โดยการที่ ก.ล.ต.ยืนยันการกล่าวโทษนั้นว่าถูกต้อง
ทั้งนี้ นายประชัยจะต้องพ้นจากการเป็นกรรมการและควรที่จะต้องให้ความร่วมมือกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีมานานแล้ว ซึ่งนายประชัย ก็ทราบดี การที่ไม่ดำเนินการที่จะพ้นจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารโดยการแสดง สปีริตนั้นถือว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งหวังว่านายประชัยจะให้ความร่วมมือกับทางตลาดหลักทรัพย์
"การส่งหนังสือไปถึงนายประชัยก็ควรที่จะมีการออกจากการเป็นกรรมการให้เร็วที่สุดยิ่งดี"
สำหรับการที่ศาลล้มละลายกลางได้มีการพิจารณาแล้วว่านายประชัย ไม่จำเป็นที่จะพ้นจากการ เป็นกรรมการและผู้บริหาร ซึ่งหากบริษัทดังกล่าวไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียน หรือ บริษัทจำกัด (มหาชน) ที่ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯก็ไม่มีเหตุที่จะต้องพ้นจากการเป็นกรรมการ แต่ในเมื่อเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ควรที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ
เสนอบอร์ดตลท.เลื่อนถอดบจ.
นายกิตติรัตน์ ยังเปิดเผยถึงหุ้นในกลุ่มฟื้นฟูกิจการ(รีแฮบโก) ซึ่งขณะนี้มี 2-3 บริษัท ที่อาจจะมีการถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะไม่ได้รับโอกาสที่จะได้รับขยายเวลาการฟื้นฟู เนื่องจากฝ่ายจัดการและเจ้าหน้าไม่มีความพยายามที่จะมีการดำเนินงานฟื้นฟูกิจการให้มีความคืบหน้าเพื่อที่จะกลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติ
"บริษัทที่ไม่พยายามที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะให้กลับมาซื้อขายในหมวดปกติ จากการที่ผ่านเจ้าหนี้ และฝ่ายจัดการไม่มีความสนใจที่จะดำเนินงานให้มีความก้าวหน้านั้นไม่สมควรที่จะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่บริษัทมีความพยายามอย่างจริงจังแต่ติดขัดที่ฐานะทางการเงินของบริษัทที่ยังไม่ได้ตามเกณฑ์นั้นก็ไม่จำเป็นที่จะเพิกถอนออกไปหรือไม่"
ในวันนี้ (23 พ.ย) ตนเองจะมีการเสนอเรื่องการการขยายเวลาการฟื้นฟูกิจการของบริษัทที่อยู่ในหมวดรีแฮบโก ให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ (บอร์ดตลาดฯ) พิจารณาซึ่งจะเป็นลักษณะการสอบถามความเห็นว่าสมควรที่จะทบทวนให้มีการ ขยายเวลาฟื้นฟูหรือไม่ ไม่ได้เป็นการเสนอว่าควรที่จะมีการยืดเวลา
จากที่จะมีการยกเลิกหมวดรีแฮบโกในเดือน 27 มี.ค. 49 เนื่องจาก เศรษฐกิจได้มีการเติบโต แต่โตในระดับที่ชะลอตัว จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโตเร็วอย่างที่คาดไว้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
"ทั้งนี้หากมีการยืดเวลาก็ไม่ควร ควรที่จะทำครั้งเดียวไม่ควรหลายครั้ง ผมเห็นว่าน่าจะเป็น 1 ปี ซึ่งต้องเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีความพยายามที่จะดำเนินการให้ตรงตามเกณฑ์เพื่อจะกลับเข้าซื้อขายในกลุ่มปกติ แต่ไม่สามารถแก้ได้ทันภายในปี 2548 ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการขยายเวลาหรือไม่ เพราะไม่มีการการันตีว่าบอร์ดจะยืดเวลาแน่ ซึ่งก็ขึ้น อยู่กับมติของบอร์ดตลาดว่าจะเป็นยังไง ทั้งนี้หากบอร์ดยึดเส้นตายเดิมก็มีหลายบริษัทที่จะตายแน่"
โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยที่จะมีการเข้าจดทะเบียนทางอ้อม(แบล็กดอร์ลิสติ้ง) ซึ่งการทำดังกล่าวก็ไม่ได้เสียหายอะไร หากนำธุรกิจที่ดีเข้ามาจดทะเบียน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|